4 เสาหลักของการดูแลเท้า: คู่มือป้องกันการตัดขาสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
การเกิดแผลที่เท้าและการถูกตัดขาเป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงและน่ากังวลที่สุดสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน แต่ก็เป็นภาวะที่สามารถป้องกันได้เกือบ 100% หากมีความเข้าใจและปฏิบัติตามหลักการดูแลที่ถูกต้องสม่ำเสมอ หัวใจสำคัญของการดูแลเท้าสามารถสรุปได้เป็น "4 เสาหลัก" ที่จะค้ำจุนสุขภาพเท้าของคุณให้แข็งแรงและปลอดภัยในระยะยาว
เสาหลักที่ 1: เข้าใจความเสี่ยงของตนเอง (Understand Your Risk)
การป้องกันเริ่มต้นจากการรู้ว่าเท้าของคุณมีความเสี่ยงอย่างไร ความเสี่ยงหลักเกิดจากภาวะแทรกซ้อน 2 ชนิด:
-
ภาวะปลายประสาทเสื่อม (Neuropathy): ทำให้ เท้าชา สูญเสียการรับความรู้สึกเจ็บปวด, ร้อน, หรือเย็น ทำให้เกิดแผลได้โดยไม่รู้ตัว. การดูแลผู้ป่วยที่มีอาการชาเท้า
-
ภาวะหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบ (PAD): ทำให้เลือดไปเลี้ยงเท้าไม่เพียงพอ เมื่อเกิดแผลจึง หายยาก และติดเชื้อง่าย.
-
การประเมินความเสี่ยงของการเกิดแผลที่เท้า
คุณต้องรู้: สอบถามแพทย์เกี่ยวกับระดับความเสี่ยงของเท้าคุณ (Risk Level 0-3) เพื่อจะได้ทราบว่าคุณต้องดูแลเท้าอย่างเข้มงวดเพียงใด และต้องพบแพทย์เพื่อตรวจเท้าบ่อยแค่ไหน.
เสาหลักที่ 2: การดูแลตนเองทุกวันอย่างเคร่งครัด (Daily Self-Care)
นี่คือเสาหลักที่สำคัญที่สุดและอยู่ในความรับผิดชอบของคุณโดยตรง การปฏิบัติเป็นกิจวัตรทุกวันคือเกราะป้องกันที่ดีที่สุด
-
การตรวจเท้าด้วยตัวเอง เรียนรู้ว่าเราควรตรวจอะไรบ้าง
-
การดูแลเท้าทุกวัน: ใช้เวลาหลังอาบน้ำตอนเย็น ตรวจดูเท้าให้ทั่วทั้งฝ่าเท้า, หลังเท้า, และซอกนิ้วทุกนิ้ว หากมองไม่เห็นควรใช้กระจกส่องช่วย.
- การบริหารเท้า
-
รักษาความสะอาดและเช็ดให้แห้ง: ล้างเท้าด้วยสบู่อ่อนๆ และเช็ดให้แห้งสนิท โดยเฉพาะ บริเวณซอกนิ้วเท้า.
-
ทาครีมเพิ่มความชุ่มชื้น: ทาครีมบางๆ บริเวณผิวที่แห้ง แต่ ห้ามทาบริเวณซอกนิ้วเท้า เพื่อป้องกันการอับชื้น.
-
ตัดเล็บอย่างถูกวิธี: ตัดเล็บในแนวตรง ไม่ตัดสั้นจนเกินไป และห้ามแคะแซะขอบเล็บ.
-
ห้ามเดินเท้าเปล่าเด็ดขาด: ไม่ว่าจะในบ้านหรือนอกบ้าน.
-
หลีกเลี่ยงความร้อนโดยตรง: ห้ามใช้กระเป๋าน้ำร้อนหรือแช่เท้าในน้ำร้อนจัด.
- การบริหารเท้า
เสาหลักที่ 3: การเลือกรองเท้าที่เหมาะสม (Proper Footwear)
รองเท้าเปรียบเสมือน "เกราะ" ของเท้า การเลือกรองเท้าที่ผิดอาจทำให้เกิดแผลได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง
-
รูปแบบ: ควรเป็นรองเท้าหุ้มส้น, ปลายปิด, และทำจากวัสดุที่นุ่มระบายอากาศได้ดี
-
ขนาด: ต้องพอดี ไม่คับหรือหลวม หัวรองเท้าต้องกว้างพอให้นิ้วเท้าขยับได้
-
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง: รองเท้าส้นสูง, รองเท้าหัวแหลม, และรองเท้าแตะแบบคีบ
-
การปฏิบัติ:
การเลือกรองเท้า
เสาหลักที่ 4: การทำงานร่วมกับทีมแพทย์ (Partnering with Your Healthcare Team)
คุณไม่สามารถดูแลเท้าได้โดยลำพัง การทำงานร่วมกับทีมแพทย์เป็นสิ่งจำเป็น
- เข้ารับการตรวจเท้าประจำปีโดยแพทย์ : ควรได้รับการตรวจเท้าอย่างละเอียดโดยแพทย์ หรือบุคลากรทางการแพทย์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อประเมินความเสี่ยงอย่างเป็นทางการ.
- อย่ารักษาปัญหาด้วยตนเอง: ห้ามตัดตาปลา, หนังแข็ง, หรือรักษาเล็บขบด้วยตนเองโดยเด็ดขาด. ปัญหาเหล่านี้ควรได้รับการดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
- ไปพบแพทย์ทันทีเมื่อมีปัญหา: หากพบความผิดปกติแม้เพียงเล็กน้อย เช่น รอยแดง, ตุ่มน้ำ, แผล, หรืออาการบวม ควรรีบไปพบแพทย์ทันที การรักษาแผลตั้งแต่ระยะแรกเริ่มคือปัจจัยสำคัญที่สุดในการป้องกันการติดเชื้อลุกลาม การรักษาโรคผิวหนัง
การยึดมั่นใน "4 เสาหลัก" นี้อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้คุณสามารถป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่เท้าและใช้ชีวิตกับโรคเบาหวานได้อย่างมีคุณภาพและปลอดภัย
ทบทวนวันที่
โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว