
หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ
หลังจากที่คุณได้ประเมินความเสี่ยงของตนเองแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่สำคัญที่สุดคือ การตรวจเลือด เพราะนี่เป็นวิธีเดียวที่จะยืนยันได้ว่าคุณมีภาวะก่อนเบาหวานหรือโรคเบาหวานหรือไม่ เนื่องจากในระยะแรกเริ่ม โรคนี้มักไม่มีอาการแสดงที่ชัดเจน
บทความนี้จะอธิบายวิธีการตรวจเลือดทุกรูปแบบ ทั้งแบบอดอาหารและไม่อดอาหาร พร้อมเปิดเผย "ตัวเลข" ที่เป็นเกณฑ์ในการวินิจฉัย เพื่อให้คุณเข้าใจผลเลือดและสุขภาพของตนเองได้ดียิ่งขึ้น
การวินิจฉัยโรคเบาหวานในปัจจุบันอาศัยการตรวจเลือดที่เป็นมาตรฐานสากล ซึ่งมี 3 วิธีหลัก ดังนี้:
การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร (Fasting Plasma Glucose - FPG):
การตรวจค่าน้ำตาลสะสม (Hemoglobin A1c - HbA1c):
การทดสอบความทนทานต่อน้ำตาล (Oral Glucose Tolerance Test - OGTT):

ในความเป็นจริง ผู้ป่วยจำนวนมากมาพบแพทย์โดยที่ไม่ได้อดอาหารมาก่อน ซึ่งการตรวจเลือดในสถานการณ์เหล่านี้ก็ยังคงมีประโยชน์อย่างยิ่ง
| การตรวจเลือด | ค่าปกติ (Normal) | ภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes) | โรคเบาหวาน (Diabetes) |
| FPG (mg/dL) | < 100 | 100 - 125 | ≥ 126 |
| HbA1c (%) | < 5.7 | 5.7 - 6.4 | ≥ 6.5 |
| OGTT (mg/dL) ที่ 2 ชม. | < 140 | 140 - 199 | ≥ 200 |
| RBS (mg/dL) | - | - | ≥ 200 (ต้องมีอาการชัดเจน) |
หมายเหตุสำคัญ: โดยทั่วไป หากไม่มีอาการชัดเจน แพทย์จะต้องทำการ ตรวจเลือดซ้ำในวันอื่น ด้วยวิธีมาตรฐาน (FPG หรือ A1c) เพื่อยืนยันผลการวินิจฉัยอีกครั้ง
การวินิจฉัยโรคเบาหวานอาศัยข้อมูลตัวเลขที่ชัดเจนจากการตรวจเลือด ไม่ว่าคุณจะมาตรวจในขณะที่อดอาหารหรือไม่ก็ตาม แพทย์สามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อคัดกรองความเสี่ยงและวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำ ซึ่งนี่คือ "จุดเริ่มต้น" ที่สำคัญที่สุดของการวางแผนดูแลสุขภาพร่วมกันต่อไป
ทบทวนวันที่
โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว