
หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ
ภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลันจากเบาหวานคือภาวะอันตรายที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและต้องการการดูแลอย่างทันท่วงที การทำความเข้าใจอาการ วิธีป้องกัน และการรับมือเบื้องต้นจึงเป็นทักษะการเอาตัวรอดที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยเบาหวานและผู้ดูแลทุกคน โดยภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลันแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ และภาวะน้ำตาลในเลือดสูงวิกฤต
นี่คือภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยที่สุด โดยเฉพาะในผู้ที่รักษาด้วยยาอินซูลินหรือยากลุ่มซัลโฟนีลยูเรีย
คือภาวะที่ระดับน้ำตาลในเลือด
ต่ำกว่า 70 มก./ดล.ซึ่งส่งผลให้สมองและร่างกายขาดพลังงานและทำงานผิดปกติ

อาการของภาวะน้ำตาลต่ำแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก
เป็นภาวะฉุกเฉินที่อันตรายถึงชีวิต เกิดจากการขาดอินซูลินอย่างรุนแรง ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากจนร่างกายเสียสมดุล มักมีปัจจัยกระตุ้น เช่น การติดเชื้อรุนแรง, การขาดยาเบาหวาน, หรือการเจ็บป่วยเฉียบพลันอื่นๆ
มักพบในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 แต่ก็สามารถเกิดในชนิดที่ 2 ได้เช่นกันเกิดขึ้นเมื่อร่างกายขาดอินซูลินอย่างสิ้นเชิง ทำให้ไม่สามารถใช้น้ำตาลเป็นพลังงานได้ จึงหันไปสลายไขมันแทน ซึ่งกระบวนการนี้จะสร้างสาร "คีโตน" (Ketone) ที่มีความเป็นกรดขึ้นมาสะสมในเลือด
มักพบในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เกิดจากการขาดอินซูลินเพียงบางส่วน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างมหาศาล (มักสูงกว่า 600 มก./ดล.) โดยไม่มีภาวะเลือดเป็นกรดจากคีโตนที่รุนแรงภาวะน้ำตาลสูงจัดนี้จะดึงน้ำออกจากเซลล์ทั่วร่างกาย ทำให้เกิดภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรงและเลือดมีความเข้มข้นสูงมาก
ภาวะ DKA และ HHS ถือเป็น ภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่ต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาลทันที หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการที่น่าสงสัย ให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วนที่สุด
การเจ็บป่วย (เช่น เป็นไข้หวัด, ท้องเสีย) เป็นปัจจัยกระตุ้นที่พบบ่อยที่สุดของภาวะน้ำตาลสูงวิกฤต เพราะร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนความเครียดซึ่งทำให้ระดับน้ำตาลสูงขึ้นดังนั้น การดูแลตนเองอย่างถูกต้องในวันที่เจ็บป่วยจึงสำคัญมาก
ทบทวนวันที่
โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว