
หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ
การติดตามระดับน้ำตาลในเลือดเป็นหัวใจสำคัญของการจัดการโรคเบาหวานให้มีประสิทธิภาพ การทราบค่าระดับน้ำตาลของตนเองช่วยให้ผู้ป่วย แพทย์ และทีมผู้ดูแลสามารถตัดสินใจเลือกแนวทางการรักษา ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ ปัจจุบัน เทคโนโลยีในการตรวจวัดระดับน้ำตาลมี 2 รูปแบบหลัก คือ การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตนเอง (BGM) และการตรวจติดตามระดับน้ำตาลแบบต่อเนื่อง (CGM) ซึ่งแต่ละวิธีมีจุดเด่นและบทบาทที่แตกต่างกัน
BGM หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อ
การเจาะน้ำตาลปลายนิ้ว เป็นวิธีการมาตรฐานที่ใช้กันมานาน โดยใช้เครื่องตรวจน้ำตาลชนิดพกพา (Glucometer) เพื่อวัดระดับน้ำตาลในเลือดโดยตรง ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง
ผู้ใช้จะใช้เข็มขนาดเล็ก (Lancet) เจาะที่ปลายนิ้วเพื่อให้ได้เลือดหยดเล็กๆ จากนั้นนำเลือดไปแตะที่ปลายแถบทดสอบ (Test Strip) ที่เสียบอยู่กับเครื่องตรวจ เครื่องจะใช้เวลาไม่กี่วินาทีในการวิเคราะห์และแสดงผลระดับน้ำตาลในเลือด ณ ขณะนั้นออกมาเป็นตัวเลขบนหน้าจอ
การทำ BGM มีความจำเป็นอย่างยิ่งในผู้ป่วยกลุ่มต่อไปนี้:
CGM เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยซึ่งช่วยให้เห็นภาพรวมของระดับน้ำตาลได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องเจาะเลือดปลายนิ้วบ่อยครั้ง
CGM ใช้อุปกรณ์เซ็นเซอร์ขนาดเล็กที่สอดไว้ใต้ผิวหนังเพื่อวัดระดับน้ำตาลใน
สารน้ำแทรกระหว่างเซลล์ (Interstitial Fluid) ซึ่งมีความสัมพันธ์กับระดับน้ำตาลในเลือด เซ็นเซอร์จะทำการวัดค่าทุกๆ 1-5 นาที และส่งข้อมูลแบบไร้สายไปยังเครื่องรับสัญญาณ, สมาร์ทโฟน, หรืออินซูลินปั๊ม ทำให้ผู้ใช้สามารถเห็นระดับน้ำตาลของตนเองได้ตลอดเวลา รวมถึงลูกศรแสดงแนวโน้ม ว่าระดับน้ำตาลกำลังขึ้น, ลง, หรือคงที่
แนวทางเวชปฏิบัติทั้งในและต่างประเทศแนะนำให้ใช้ CGM อย่างยิ่งในผู้ป่วยกลุ่มต่อไปนี้:
CGM ให้ข้อมูลที่ลึกซึ้งกว่า BGM มาก ซึ่งช่วยในการปรับการรักษาและการใช้ชีวิตได้อย่างละเอียด ข้อมูลสำคัญประกอบด้วย:
| คุณสมบัติ | BGM (เจาะปลายนิ้ว) | CGM (เซ็นเซอร์ต่อเนื่อง) |
| สิ่งที่วัด | ระดับน้ำตาลใน เลือด โดยตรง | ระดับน้ำตาลใน สารน้ำแทรกระหว่างเซลล์ |
| ข้อมูลที่ได้ | ค่า ณ เวลาที่ตรวจ (ภาพนิ่ง) | ข้อมูลต่อเนื่องตลอดเวลาและแนวโน้ม (ภาพยนตร์) |
| การแจ้งเตือน | ไม่มี | มีการแจ้งเตือนเมื่อน้ำตาลสูงหรือต่ำเกินไป |
| ข้อมูลเชิงลึก | ตัวเลขเดี่ยว | Time in Range (TIR), แนวโน้ม, ความผันผวน |
| ความสะดวก | ต้องเจาะเลือดทุกครั้งที่ต้องการทราบค่า | เจ็บตัวน้อยกว่า, ทราบค่าได้ตลอดเวลา |
บทสรุป
BGM ยังคงเป็นเครื่องมือมาตรฐานที่จำเป็นสำหรับการยืนยันค่าในภาวะฉุกเฉินและสำหรับการสอบเทียบเครื่อง CGM ในขณะที่ CGM ได้กลายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการจัดการเบาหวานยุคใหม่ ที่ช่วยให้ผู้ป่วยและแพทย์เห็นภาพรวมของระดับน้ำตาลได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน การเลือกว่าจะใช้วิธีใดขึ้นอยู่กับชนิดของเบาหวาน, แผนการรักษา, ความเสี่ยงของแต่ละบุคคล, และการเข้าถึงเทคโนโลยี สิ่งสำคัญที่สุดคือการนำข้อมูลที่ได้ไปปรึกษาแพทย์และทีมผู้ดูแลเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุดสำหรับคุณ
ทบทวนวันที่
โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว