
หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ
"ถ้าเป็นเบาหวานแล้ว ต้องกินยาไปตลอดชีวิต" นี่คือความเข้าใจที่ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ส่วนใหญ่คุ้นเคย แต่ปัจจุบัน ข้อมูลทางการแพทย์สมัยใหม่ได้มอบ "ความหวังใหม่" ที่เรียกว่า โรคเบาหวานระยะสงบ (Diabetes Remission) ซึ่งเป็นสภาวะที่ผู้ป่วยสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้ โดยไม่ต้องพึ่งพายาลดระดับน้ำตาลอีกต่อไป
นี่ไม่ใช่ "การหายขาด" แต่คือการทำให้โรค "สงบลง" ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ผู้ป่วยหลายคนสามารถไปถึงได้ หากมีความมุ่งมั่นและปฏิบัติตามแนวทางที่ถูกต้องภายใต้การดูแลของทีมแพทย์
ตามข้อสรุปร่วมของสมาคมวิชาชีพแพทย์ในประเทศไทย ได้ให้คำจำกัดความของ "โรคเบาหวานระยะสงบ" ไว้ว่า:
คือ สภาวะของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเกณฑ์การวินิจฉัยโรคเบาหวานได้ (ค่าน้ำตาลสะสม HbA1c < 6.5%) และคงสภาวะนั้นไว้อย่างน้อย 3 เดือน โดยไม่ต้องใช้ยาลดระดับน้ำตาลในเลือด
สิ่งสำคัญที่ต้องรู้: สำหรับผู้ที่ใช้วิธีปรับเปลี่ยนพฤติกรรม จะยืนยันว่าเป็นภาวะเบาหวานสงบได้ ก็ต่อเมื่อมีผล HbA1c อยู่ในเกณฑ์ข้างต้นเป็นเวลา อย่างน้อย 6 เดือน หลังเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ใครมีโอกาสสำเร็จสูงสุด?
แม้ว่าภาวะนี้จะเป็นความหวังสำหรับทุกคน แต่แนวทางของประเทศไทยแนะนำว่าผู้ป่วยกลุ่มต่อไปนี้จะมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงที่สุด:
- ผู้ที่เพิ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 มาไม่เกิน 5 ปี
- ผู้ที่มีภาวะอ้วน (ดัชนีมวลกาย หรือ BMI มากกว่า 25 กก./ม.²)
ผู้ที่ยังไม่จำเป็นต้องใช้ยาฉีดอินซูลินในการรักษา
ผู้ที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจจริง ในการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตอย่างเข้มข้น
ข้อควรระวัง: แนวทางนี้ ไม่เหมาะกับ ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 , หญิงตั้งครรภ์ , ผู้ที่มีโรคร่วมรุนแรง เช่น โรคไตเรื้อรังระยะท้ายๆ (eGFR < 30) หรือโรคหัวใจล้มเหลวรุนแรง
กุญแจสู่ความสำเร็จ: ลดน้ำหนัก 10-15%
หัวใจหลักที่สำคัญที่สุดในการทำให้เบาหวานสงบลงได้คือ "การลดน้ำหนักตัวลงให้ได้อย่างน้อย 10-15% ของน้ำหนักเริ่มต้น"
การลดน้ำหนักในระดับนี้จะช่วยลดไขมันที่สะสมพอกพูนอยู่ที่ตับและตับอ่อน ซึ่งเป็นต้นตอสำคัญของภาวะดื้อต่ออินซูลินและทำให้การทำงานของเบต้าเซลล์ในตับอ่อนฟื้นตัวดีขึ้น ส่งผลให้ร่างกายกลับมาควบคุมระดับน้ำตาลได้ใกล้เคียงปกติอีกครั้ง
งานวิจัยสำคัญอย่าง DiRECT trial ในสหราชอาณาจักรพบว่า ผู้ป่วยที่สามารถลดน้ำหนักได้ 15 กิโลกรัมขึ้นไป มีโอกาสเข้าสู่ภาวะเบาหวานสงบได้สูงถึง 86%
แนวทางที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว:
การควบคุมอาหารอย่างเข้มข้น (Intensive Diet Control):
ไม่ใช่แค่การ "คุมอาหาร" ทั่วไป แต่เป็นการจำกัดปริมาณแคลอรีต่อวันอย่างจริงจัง (เช่น 800-1,200 แคลอรี/วัน) ภายใต้การดูแลของแพทย์และนักกำหนดอาหารอย่างใกล้ชิด
การผ่าตัดเพื่อลดขนาดกระเพาะอาหาร (Metabolic/Bariatric Surgery):
เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงในการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วและทำให้เบาหวานสงบลงได้
การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตอย่างเข้มข้น (Intensive Lifestyle Modification):
เป็นการผสมผสานระหว่างการควบคุมอาหารอย่างจริงจังและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
แนวทางการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างเข้มงวด
การจะลดน้ำหนักให้ได้ตามเป้าหมายนั้น ต้องอาศัยการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตอย่างเข้มข้นเป็นเวลา 3-6 เดือน ภายใต้การดูแลของทีมสหวิชาชีพ (แพทย์, พยาบาล, นักกำหนดอาหาร)โดยมีแนวทางหลักๆ ที่ได้รับการยอมรับดังนี้:
- อาหารพลังงานต่ำ (Low-Calorie Diet): จำกัดพลังงานที่ได้รับต่อวัน โดยอาจใช้ หลักการจัดจาน 2:1:1 (ผัก 2 ส่วน, โปรตีน 1 ส่วน, ข้าว/แป้ง 1 ส่วน) บนจานขนาด 9 นิ้ว เป็นเครื่องมือช่วยที่เข้าใจง่าย
- อาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ (Low-Carbohydrate Diet): จำกัดปริมาณคาร์โบไฮเดรตให้น้อยกว่า 130 กรัมต่อวัน เพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำตาลและลดความหิว
- การออกกำลังกาย (Physical Activity): ควรออกกำลังกายแบบแอโรบิกร่วมกับแบบมีแรงต้าน อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ เพื่อช่วยลดภาวะดื้ออินซูลินและป้องกันการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ
ความจริงที่ต้องเข้าใจ
- ไม่ใช่การหายขาด: ภาวะเบาหวานสงบไม่ได้หมายความว่าคุณหายจากโรค 100% หากคุณกลับไปมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น โรคเบาหวานก็จะกลับมาอีกครั้งดังนั้น จึงยังจำเป็นต้องตรวจสุขภาพและคัดกรองภาวะแทรกซ้อนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
- ไม่ใช่ทุกคนที่ทำสำเร็จ: การไปถึงเป้าหมายต้องอาศัยวินัยและความมุ่งมั่นอย่างสูง การสื่อสารกับทีมแพทย์เพื่อตั้งเป้าหมายที่เป็นจริง (SMART Goal) เป็นสิ่งสำคัญเพื่อไม่ให้เกิดความผิดหวัง
- ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์เสมอ: การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการจำกัดอาหารและการปรับยา ต้องทำอย่างถูกวิธีเพื่อความปลอดภัย ห้ามทำด้วยตนเองโดยเด็ดขาด
การเดินทางสู่ภาวะเบาหวานสงบคือความท้าทาย แต่ก็เป็นเป้าหมายที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง มันคือโอกาสในการฟื้นฟูสุขภาพและเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตของคุณไปตลอดกาล ปรึกษาทีมแพทย์ของคุณวันนี้ เพื่อประเมินว่าคุณพร้อมสำหรับการเดินทางครั้งสำคัญนี้แล้วหรือยัง
การเดินทางสู่ภาวะเบาหวานสงบคือการเดินทางที่ท้าทาย แต่ก็เป็นเป้าหมายที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง มันคือโอกาสในการฟื้นฟูสุขภาพและเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตของคุณไปตลอดกาล ปรึกษาทีมแพทย์ของคุณวันนี้ เพื่อประเมินว่าคุณพร้อมสำหรับการเดินทางครั้งสำคัญนี้แล้วหรือยัง
ทบทวนวันที่
โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว