siamhealth

หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ

เบาหวานชนิดที่ 2: คู่มือฉบับสมบูรณ์เพื่อความเข้าใจ การป้องกัน และการจัดการอย่างยั่งยืน

บทนำ

เบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 Diabetes) เป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่พบได้บ่อยที่สุด และเป็นปัญหาสาธารณสุขสำคัญทั่วโลก จากข้อมูลของ IDF Diabetes Atlas พบว่าผู้ป่วยเบาหวานส่วนใหญ่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งแตกต่างจากชนิดที่ 1 โดยสิ้นเชิง เพราะมีสาเหตุหลักมาจาก พฤติกรรมการใช้ชีวิต และสามารถ ป้องกันหรือชะลอการเกิดโรคได้ บทความนี้จะเจาะลึกทุกแง่มุมของเบาหวานชนิดที่ 2 เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง สำหรับผู้ป่วย ครอบครัว และผู้ที่สนใจในการดูแลสุขภาพ

สาเหตุของเบาหวานชนิดที่ 2

เบาหวานชนิดที่ 2 มีสาเหตุที่ซับซ้อนและเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน โดยมีปัจจัยเสี่ยงหลักคือ:

 การเกิดเบาหวานชนิดที่2

กลไกการเกิดโรค

กลไกหลักของเบาหวานชนิดที่ 2 ประกอบด้วย 2 กลไกสำคัญที่เกิดขึ้นร่วมกัน:

  1. ภาวะดื้อต่ออินซูลิน (Insulin Resistance): เป็นภาวะที่เซลล์ของร่างกาย (โดยเฉพาะที่ตับ กล้ามเนื้อ และเซลล์ไขมัน) ไม่ตอบสนองต่อฮอร์โมนอินซูลินได้ดีเท่าที่ควร เปรียบเสมือน "แม่กุญแจที่ฝืด" ทำให้อินซูลินไม่สามารถนำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ได้ตามปกติ ในระยะแรก ตับอ่อนจะพยายามชดเชยโดยการผลิตอินซูลินออกมาในปริมาณที่มากกว่าปกติเพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่

  2. ความบกพร่องในการหลั่งอินซูลิน (Impaired Insulin Secretion): เมื่อเวลาผ่านไป เบต้าเซลล์ในตับอ่อนที่ทำงานหนักมานานจะเริ่มอ่อนล้าและเสื่อมสภาพลง ทำให้ความสามารถในการผลิตอินซูลินลดลง จนไม่เพียงพอที่จะเอาชนะภาวะดื้อต่ออินซูลินได้อีกต่อไป ส่งผลให้น้ำตาลในเลือดเริ่มสูงขึ้นจนกลายเป็นโรคเบาหวานในที่สุด

อาการของโรคเบาหวานชนิดที่ 2

อาการของเบาหวานชนิดที่ 2 มักจะ ค่อยเป็นค่อยไป และไม่รุนแรงเท่าเบาหวานชนิดที่ 1 ทำให้ผู้ป่วยจำนวนมากไม่รู้ตัวว่าเป็นโรคในระยะแรก อาการที่อาจสังเกตได้ ได้แก่:

การตรวจวินิจฉัยเบาหวานชนิดที่ 2

ใช้เกณฑ์การวินิจฉัยเดียวกับเบาหวานชนิดที่ 1 ตามมาตรฐานสากล (ADA 2025) และแนวทางของไทย (2566) โดยใช้การตรวจเลือดข้อใดข้อหนึ่ง ดังนี้:

  1. ตรวจระดับน้ำตาลในพลาสมาหลังอดอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง (Fasting Plasma Glucose - FPG): มีค่า ≥ 126 mg/dL

  2. ตรวจระดับน้ำตาลสะสม (HbA1c): มีค่า ≥ 6.5%

  3. การทดสอบความทนทานต่อน้ำตาลกลูโคส (Oral Glucose Tolerance Test - OGTT): ตรวจระดับน้ำตาลในพลาสมาที่ 2 ชั่วโมงหลังดื่มสารละลายกลูโคส 75 กรัม มีค่า ≥ 200 mg/dL

  4. ตรวจระดับน้ำตาลในพลาสมาเวลาใดก็ได้ (Random Plasma Glucose): มีค่า ≥ 200 mg/dL ร่วมกับมีอาการของโรคเบาหวานชัดเจน

เมื่อเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 จะต้องประเมินอะไรบ้าง

หลังการวินิจฉัย ทีมแพทย์จะประเมินปัจจัยต่างๆ เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ได้แก่:

การรักษาเบาหวานชนิดที่ 2

เป้าหมายคือการควบคุมระดับน้ำตาล ความดัน และไขมันให้อยู่ในเกณฑ์ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน โดยมีแนวทางดังนี้:

  1. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม (Lifestyle Modification): เป็นหัวใจของการรักษา ประกอบด้วย:

  2. การใช้ยา (Pharmacologic Therapy): หากการปรับพฤติกรรมยังไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ตามเป้าหมาย แพทย์จะพิจารณาให้ยา ซึ่งมีหลายกลุ่ม:

โรคแทรกซ้อนของเบาหวานชนิดที่ 2

เช่นเดียวกับเบาหวานชนิดที่ 1 หากควบคุมโรคได้ไม่ดีจะเกิดภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังที่อวัยวะต่างๆ ได้แก่:

การป้องกันเบาหวานชนิดที่ 2

เบาหวานชนิดที่ 2 สามารถป้องกันหรือชะลอการเกิดโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงหรือผู้ที่เป็นภาวะก่อนเบาหวาน ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับการรักษาในระยะแรก คือ:

การป้องกันเบาหวานชนิดที่2


ข้อแตกต่างระหว่างเบาหวานชนิดที่ 1 และชนิดที่ 2

คุณลักษณะ เบาหวานชนิดที่ 1 เบาหวานชนิดที่ 2
สาเหตุหลัก โรคแพ้ภูมิตัวเอง (Autoimmune) ภาวะดื้อต่ออินซูลิน ร่วมกับผลิตอินซูลินไม่พอ
การผลิตอินซูลิน ไม่มี หรือน้อยมาก มี แต่ร่างกายตอบสนองได้ไม่ดี (ระยะหลังอาจลดลง)
กลุ่มอายุที่พบบ่อย เด็กและวัยหนุ่มสาว ผู้ใหญ่ (แต่พบในวัยรุ่นมากขึ้น)
ความสัมพันธ์กับน้ำหนักตัว มักมีรูปร่างผอมหรือสมส่วน ส่วนใหญ่มีภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วน
การเริ่มมีอาการ รวดเร็วและรุนแรง ค่อยเป็นค่อยไป อาจไม่มีอาการในระยะแรก
การรักษาหลัก จำเป็นต้องฉีดอินซูลินเท่านั้น เริ่มจากการปรับพฤติกรรมและยาชนิดรับประทาน (อาจต้องใช้อินซูลินในระยะหลัง)
การป้องกัน ยังป้องกันไม่ได้ ป้องกันได้ โดยการควบคุมน้ำหนักและปรับวิถีชีวิต

โรคแทรกซ้อนของเบาหวานชนิดที่2 การป้องกันเบาหวานชนิดที่2 โรคเบาหวานชนิดที่2

ทบทวนวันที่

โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว






โรคเบาหวาน

โรคเบาหวานคืออะไร

ชนิดของเบาหวาน

ความแตกต่างของเบาหวานชนิดที่1และ2

อาการและสัญญาณเตือน

ใครคือกลุ่มเสี่ยง?

การตรวจและวินิจฉัยโรคเบาหวาน

เป้าหมายสำคัญในการควบคุมเบาหวาน

การเจาะน้ำตาลหลังอาหาร

เกณฑ์การควบคุมเบาหวานที่ดี

น้ำตาลหลังอาหาร

โภชนาการและการกิน

อาหารจานสุขภาพ

การออกกำลังกาย

แนวทางการออกกำลังกายในผู้ป่วยเบาหวาน

การออกกำลังกายในผู้ที่มีโรคแทรกซ้อน

ออกกำลังกายเวลาไหนด

ยารักษาเบาหวาน

เทคโนโลยีเบาหวาน

บาหวานระยะสงบ

IF กับเบาหวาน

การป้องกันและรับมือภาวะแทรกซ้อน

ภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลัน

ภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังที่ ตา, ไต, และปลายประสาท

การดูแลสุขภาพเท้า

การจัดการความเสี่ยงโรคหัวใจ

การจัดการความดันโลหิตสูง

การจัดการเรื่องไขมัน

การดูแลเบาหวานในเด็กและวัยรุ่น

การดูแลเบาหวานในสตรีตั้งครรภ์

การดูแลเบาหวานในผู้สูงอายุ

แนวทางการจัดการน้ำหนัก

เช็กลิสต์การตรวจสุขภาพประจำปี

เที่ยวกับเบาหวาน

การใช้ชีวิตอย่างมีความสุข