
หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ
แน่นอนครับ จากข้อมูลอ้างอิงมาตรฐานสากลทั้ง 3 ฉบับที่คุณให้มา (IDF Atlas, Thai DM CPG 2566, และ ADA Standards of Care 2025) สามารถสรุปแนวทางการป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพและได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วได้อย่างชัดเจน ดังนี้ครับ
ข่าวดีที่สุดเกี่ยวกับเบาหวานชนิดที่ 2 คือ เป็นโรคที่สามารถป้องกันหรือชะลอการเกิดได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงสูงหรือผู้ที่เป็นภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes) หัวใจสำคัญของการป้องกันไม่ได้อยู่ที่ยาหรือเทคโนโลยีที่ซับซ้อน แต่อยู่ที่ "การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต" ซึ่งมีหลักฐานเชิงประจักษ์จากงานวิจัยขนาดใหญ่ทั่วโลกยืนยันถึงประสิทธิภาพ
เป้าหมายหลักของการป้องกันคือการลดภาวะดื้อต่ออินซูลินและรักษาสมดุลการทำงานของตับอ่อน ซึ่งสามารถทำได้ผ่าน 3 เสาหลักดังต่อไปนี้
การมีน้ำหนักตัวเกิน โดยเฉพาะการมีไขมันสะสมในช่องท้อง (อ้วนลงพุง) เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทรงพลังที่สุดในการเกิดเบาหวานชนิดที่ 2 การลดน้ำหนักจึงเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกัน
การเคลื่อนไหวร่างกายเป็นประจำคืออีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่ทำงานส่งเสริมกันกับการลดน้ำหนัก
การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมเป็นเครื่องมือในการบรรลุเป้าหมายการลดน้ำหนักและควบคุมระดับน้ำตาล
ในบางกรณี แพทย์อาจพิจารณาใช้ยาเพื่อช่วยป้องกันเบาหวานชนิดที่ 2 ควบคู่ไปกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม (ไม่ใช่เพื่อทดแทน)
สรุป: การป้องกันเบาหวานชนิดที่ 2 อยู่ในมือของคุณ การเริ่มต้นตั้งเป้าหมายลดน้ำหนัก 7% และออกกำลังกาย 150 นาทีต่อสัปดาห์ คือจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุด หากคุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินและรับคำแนะนำที่เหมาะสมต่อไป
โรคแทรกซ้อนของเบาหวานชนิดที่2 การป้องกันเบาหวานชนิดที่2 โรคเบาหวานชนิดที่2
ทบทวนวันที่
โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว