การตรวจพิเศษเมื่อท่านเป็นโรคความดันโลหิตสูง

เมื่อท่านเป็นโรคความดันโลหิตสูงแพทย์จะทำการตรวจพิเศษเพื่อ

การตรวจทางห้องปฏิบัติการ

1. การตรวจเบื้องต้นสาหรับผู้ป่วยทุกราย

2. การตรวจเพิ่มเติมซึ่งขึ้นอยู่กับประวัติการเจ็บป่วย การตรวจร่างกายและผลตรวจจากการตรวจทาง ห้องปฏิบัติการจากข้อ1

  • การตรวจหาค่าน้ำตาลเฉลี่ย HbA1c (หากน้ำตาลก่อนอาหาร FPG > 102 มก./ดล. หรือได้รับการวินิจฉัยโรคเบาหวานมาก่อน
  • ตรวจหาปริมาณโปรตีนในปัสสาวะ (หากการตรวจ dipstick ให้ผลบวก) ความเข้มข้นของ K และ Na ในปัสสาวะและอัตราส่วนของเกลือแร่ดังกล่าว
  • การวัดความดันโลหิตที่บ้าน HBPM และ หรือการวัดความดันโลหิต24-h ABPM
  • การตรวจคลื่นเสียงความถี่สูงของหัวใจ Echocardiogram
  • การติดตามคลื่นไฟฟ้าหัวใจตลอด 24 ชั่วโมง Holter monitoring ในรายที่มี หัวใจเต้นผิดปกติ arrhythmia
  • การตรวจคลื่นเสียงความถี่สูงหลอดเลือดที่คอเพื่อตรวจหาความหนาของผนังหลอดเลือด Carotid ultrasound
  • การตรวจคลื่นเสียงความถี่สูงของหลอดเลือดแดงส่วนปลายและช่องท้อง
  • การตรวจ Pulse wave velocity (PWV)
  • การวัดความดันโลหิตแขนและขา Ankle-brachial index (ABI)
  • การตรวจจอประสาทตา Fundoscopy

3. การประเมินเพิ่มเติมหากสงสัยว่าจะเป็นโรคจากความดันโลหิตสูงได้แก่

  • การตรวจหาการทำลายของสมอง, หัวใจ, ไตและหลอดเลือด ซึ่งจะตรจในผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ดื้อต่อการรักษา และผู้ที่มีผลแทรกซ้อนจากความดันโลหิตสูง
  • การตรวจหาความดันโลหิตสูงที่มีสาเหตุ(ทุติยภูมิ) เมื่อมีแนวโน้มจะเป็นจากการซักประวัติ, ตรวจร่างกาย หรือการตรวจทางห้องปฏิบัติการ

การตรวจหาการทำลายอวัยวะที่ไม่มีอาการ

มีหลักฐานจำนวนมากที่แสดงว่ามีการทำลายของอวัยวะโดยที่ไม่มีอาการเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือด ในผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงและผู้ที่ไม่เป็น การตรวจพบการทำลายอวัยวะโดยไม่เกิดอาการ 4 อย่าง คือ microalbuminuria, PWV ที่เพิ่มขึ้น, LVH และ carotid plaque ที่สามารถทานายอัตราตายจากโรคหัวใจและหลอดเลือด

1.การตรวจหัวใจ

  • การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG ดู strain, ischemia, conduction abnormality, LA dilatation และ arrhythmia รวมทั้ง AF
  • การตรวจคลื่นเสียงความถี่สูง Echocardiography เพื่อตรวจกล้ามเนื้อหัวใจ( LV mass index),ความหนาของกล้ามเนื้อหัวใจ การทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ diastolic function
  • การตรวจ Cardiac MRI
  • การตรวจหากล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดโดยการตรวจหัวใจโดยการวิ่งสายพาน exercise test หรือการตรวจชนิดอื่นเช่น stress cardiac MRI, perfusion scintigraphy หรือ stress echocardiography และการฉีดสี coronary angiography

2.การตรวจหลอดเลือดแดง

  • การตรวจหลอดเลือดแดงที่คอ Carotid arteryโดยการตรวจความหนาของผนังหลอดเลือด หรือครบที่ผนังหลอดเลือด carotid intema media thickness (IMT) และ/หรือ plaque
  • Pulse wave velocity (PWC)
  • Ankle brachial index (ABI) ซึ่งเป็นการตรวจหาโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายจากเส้นเลือดแข็ง atherosclerosis

3.การตรวจไต

เมื่ออัตรากรองของไต eGFR <60 มล./นาที/1.73 ม2 จะเป็นโรคไตเรื้อรังซึ่งเริ่มจาก

  • ไตเสื่อมระยะที่ 3 stage 3 อัตรากรองของไตอยู่ระหว่าง60-30 มล./นาที/1.73 ม2
  • ไตเสื่อมระยะที่4 stage 4 อัตรากรองของไตอยู่ระหว่าง 30-15 มล./นาที/1.73 ม2 และ
  • ไตเสื่อมระยะที่5 stage 5 อัตรากรองของไตน้อยกว่า 15 มล./นาที/1.73 ม2

ขณะที่ serum creatinine ที่สูงขึ้น หรือ eGFR ที่ลดลงจะแสดงถึงสมรรถภาพไตที่ลดลง

การตรวจพบโปรตีนหรือไข่ขาวในปัสสาวะ albuminuria หรือโปรตีนในปัสสาวะก็แสดงถึงการกรองที่ไต ผิดปกติ การพบ microalbuminuria (MAU) ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่1 T1DM หรือเบาหวานชนิดที่2 T2DM ก็ทำนายการเกิดไตเสื่อมจากโรคเบาหวานได้ ขณะที่การพบ macroalbuminuria ก็บ่งชี้ว่าเกิดโรคไตแล้ว

4. จอประสาทตา

การตรวจความกว้างของหลอดเลือดในตาพบว่าความกว้างของหลอดแดงเมื่อเทียบกับหลอดเลือดดำในจอรับภาพตา จะทำนายการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง และโรคหัวใจและหลอดเลือด

5. สมอง MRI ของสมอง

  • จะพบมีการเปลี่ยนแปลงของเนื้อสมอง( white matter hyperintensity )ซึ่งพบบ่อยที่สุด และพบในผู้สูงอายุที่มีความดันโลหิตสูงเป็นส่วนใหญ่
  • พบ silent infarct ในลักษณะ lacunar infarction ร้อยละ 10-30
  • ทั้ง white matter hyperintensity และ infarct สัมพันธ์กับการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง

6. ความดันโลหิตสูงทุติยภูมิ

ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงทุกรายควรได้รับการตรวจสอบเบื้องต้นหาความดันโลหิตสูงทุติยภูมิ โดยใช้ประวัติทางคลินิก, การตรวจร่างกายและการตรวจทางห้องปฏิบัติการเบื้องต้น

การตรวจที่แพทย์แนะนำได้แก่

การตรวจดังกล่าวควรจะทำทุกราย และทำให้ครบ ผู้ป่วยบางรายแพทย์จะส่งตรวจเพิ่มเติมเช่น

  • การตรวจคลื่นเสียงหัวใจ หรือที่เรียกว่า Echocardiography เพื่อดูว่ากล้ามเนื้อหัวใจหนาหรือไม่ หรือมีการเคลื่อนไหวดีหรือไม่
  • ตรวจหาปริมาณโปรตีนหรือไข่ขาวในปัสสาวะ
  • การตรวจความหนาของผนังหลอดเลือดโดยใช้เครื่องคลื่นเสียง carotid intima thickness หากหลอดเลือดเริ่มมีการแข็งตัวผนังหลอดเลือดแดงใหญ่ที่คอ (carotid )จะหนาตัว
  • วัดความดันที่แขนเมื่อเทียบกับที่เท้าหากเส้นเลือดตีบความดันที่เท้าจะสูงกว่าที่แขนมาก อ่านที่นี่
  • ตรวจจอประสาทตา หากความดันโลหิตสูงนานๆ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงของจอประสาทตา
  • หากน้ำตาลมากกว่า100 แต่น้อยกว่า 126 มก%จะนัดตรวจ glucose tolerant test เพื่อดูว่าเป็นโรคเบาหวานหรือเปล่า
  • วัดความดันโลหิตตลอด 24 ชั่วโมง
  • วัดความเร็วของเลือด
  • โรคแทรกซ้อนของความดันโลหิตสูง

รวบรวมปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

  • ระดับของความดัน systolic และ diastolic
  • ระดับความต่างของความดัน systolic และ diastolic มากกว่า 60 mmHg
  • ผู้ชายอายุมากกว่า 55 ปี ผู้หญิงอายุมากกว่า 65 ปี
  • สูบบุหรี่
  • ระดับไขมันในเลือดผิดปกติ
    • Total cholesterol >200 mg%
    • LDL-C>130 mg%
    • HDL-C<40mg% ในชาย <50mg%ในหญิง
    • Triglyceride>150 mg%
  • น้ำตาลในเลือดอยู่ระหว่า100-125
  • การทดสอบความทนต่อกลูโคสให้ผลบวก
  • ประวัติเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดของญาติสายตรงก่อนเวลาอันควร
  • อ้วนลงพุง
การวินิจฉัยโรคความดันโลหิตสูง