หน้าหลัก | สุขภาพดี
| สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ
โภชนาการสำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่มีภาวะไตรกลีเซอไรด์สูง
สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน การมีภาวะไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) สูงเป็นสิ่งที่พบบ่อยและเป็นสัญญาณสำคัญของภาวะไขมันในเลือดผิดปกติแบบ "Atherogenic Dyslipidemia" ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดอย่างมีนัยสำคัญ. การปรับเปลี่ยนโภชนาการอย่างถูกวิธีจึงเป็นหัวใจสำคัญในการลดระดับไตรกลีเซอไรด์ ควบคู่ไปกับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด.
หลักการสำคัญ 5 ข้อในการปรับโภชนาการ
-
ควบคุมปริมาณและ "ชนิด" ของคาร์โบไฮเดรต (Carbohydrates)
-
ลดคาร์โบไฮเดรตขัดสี: นี่คือปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการลดไตรกลีเซอไรด์. ควรลดหรือหลีกเลี่ยงน้ำตาล, เครื่องดื่มรสหวาน, ขนมหวาน, ขนมปังขาว, และข้าวขาวในปริมาณมาก เพราะอาหารเหล่านี้จะถูกเปลี่ยนเป็นไตรกลีเซอไรด์ในตับได้ง่าย.
-
เลือกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน: ให้เลือกรับประทานธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง, ขนมปังโฮลวีท, และควินัว ซึ่งมีใยอาหารสูงและส่งผลต่อระดับน้ำตาลและไตรกลีเซอไรด์น้อยกว่า.
-
จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ (Limit Alcohol)
-
เลือกไขมันที่ดี (Choose Healthy Fats)
-
ลดไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์: หลีกเลี่ยงอาหารทอด, อาหารแปรรูป, เบเกอรี่, และเนื้อสัตว์ติดมัน.
-
เพิ่มไขมันไม่อิ่มตัว: เลือกรับประทานไขมันที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งช่วยลดไตรกลีเซอไรด์และดีต่อหัวใจ ได้แก่:
-
เพิ่มการรับประทานใยอาหาร (Increase Fiber)
-
ใยอาหาร, โดยเฉพาะใยอาหารที่ละลายน้ำได้, ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลและไขมัน.
-
แหล่งใยอาหารที่ดี: ผักใบเขียวทุกชนิด, ผลไม้ (ในปริมาณที่เหมาะสม), ข้าวโอ๊ต, และถั่วเมล็ดแห้ง.
-
ควบคุมน้ำหนักและออกกำลังกาย (Weight Control and Exercise)
-
การลดน้ำหนักตัวลง 5-10% สามารถช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ได้อย่างมีนัยสำคัญ.
-
การออกกำลังกายแบบแอโรบิกระดับปานกลางอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ (เช่น เดินเร็ว, ว่ายน้ำ) ช่วยลดไตรกลีเซอไรด์และเพิ่มระดับไขมันดี (HDL) ได้.
ทบทวนวันที่
โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว