Ezetimibe: คู่มือครบถ้วนสำหรับยาลดคอเลสเตอรอล
Ezetimibe เป็นยาลดคอเลสเตอรอลที่ออกฤทธิ์โดยการยับยั้งการดูดซึมคอเลสเตอรอลจากลำไส้เล็ก บทความนี้รวบรวมข้อมูลครบถ้วนเกี่ยวกับ Ezetimibe รวมถึงกลไกการออกฤทธิ์ ข้อบ่งชี้ ประโยชน์ ขนาดและวิธีใช้ ผลข้างเคียง ข้อควรระวัง การใช้ร่วมกับยาอื่น ระยะเวลาเห็นผล และการติดตามอาการหรือผลตรวจเลือด เพื่อให้ผู้ป่วยและผู้ดูแลเข้าใจและใช้ยานี้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
Ezetimibe คืออะไร?
Ezetimibe เป็นยาในกลุ่มยาลดคอเลสเตอรอลที่มีชื่อทางการค้า เช่น Zetia ออกฤทธิ์โดยการยับยั้งการดูดซึมคอเลสเตอรอลจากลำไส้เล็ก แตกต่างจาก Statins ที่ลดการผลิตคอเลสเตอรอลในตับ Ezetimibe มักใช้เดี่ยวหรือร่วมกับ Statins เพื่อลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) และป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถควบคุมระดับคอเลสเตอรอลได้เพียงการใช้ Statins เดี่ยว
กลไกการทำงาน
Ezetimibe ทำงานโดยเลือกยับยั้งโปรตีน transporter Niemann-Pick C1-Like 1 (NPC1L1) ที่ผนังลำไส้เล็ก ซึ่งมีบทบาทในการดูดซึมคอเลสเตอรอลจากอาหารและน้ำดี เมื่อการดูดซึมคอเลสเตอรอลลดลง:
- ระดับ LDL ในเลือดลดลง 15-20%
- ตับต้องดึงคอเลสเตอรอลเพิ่มจากกระแสเลือดเพื่อการสังเคราะห์
- มีผลเสริมกับ Statins โดยเพิ่มการลด LDL ได้ถึง 25% เมื่อใช้ร่วมกัน
ข้อบ่งชี้ในการใช้ยา
Ezetimibe ใช้ในผู้ใหญ่และเด็กอายุ 10 ปีขึ้นไปสำหรับ:
- ภาวะไขมันในเลือดสูง (Hypercholesterolemia) รวมถึงแบบถ่ายทอดทางพันธุกรรม (Familial Hypercholesterolemia)
- ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยที่มีประวัติโรคหลอดเลือดหัวใจ
- ใช้ร่วมกับ Statins หรือยาอื่นในผู้ป่วยที่ไม่สามารถควบคุมระดับ LDL ได้เพียงพอ
ประโยชน์ของ Ezetimibe
- ลดระดับคอเลสเตอรอลที่สูง: ลด LDL ได้ 15-20% และเสริมประสิทธิภาพเมื่อใช้ร่วมกับ Statins
- ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด: ลดการเกิดเหตุการณ์หลอดเลือดหัวใจในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง
- ทางเลือกสำหรับผู้ที่ทน Statins ไม่ได้: เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีผลข้างเคียงจาก Statins เช่น ปวดกล้ามเนื้อ
- ใช้ในผู้ป่วยโรคตับบางราย: อาจใช้ได้ในผู้ป่วยโรคตับที่มีข้อจำกัดในการใช้ Statins (ภายใต้การดูแลแพทย์)
ขนาดและวิธีใช้ยา
- ขนาดยา:
- ผู้ใหญ่และเด็ก (≥10 ปี): 10 มก. วันละครั้ง
- ไม่ต้องปรับขนาดในผู้ป่วยโรคไตหรือตับระดับปานกลาง (Child-Pugh A หรือ B)
- ห้ามใช้ในผู้ป่วยตับวายรุนแรง (Child-Pugh C)
- วิธีใช้:
- รับประทานวันละครั้ง อาจรับประทานพร้อมหรือแยกจากอาหาร
- รับประทานเวลาเดียวกันทุกวันเพื่อรักษาระดับยาในร่างกาย
- หากลืมรับประทาน: รับประทานทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าใกล้ยาครั้งถัดไป ให้ข้ามไป อย่าเพิ่มขนาดยา
- ใช้ร่วมกับ Statins หรืออาหารไขมันต่ำตามคำแนะนำแพทย์
- ห้ามใช้ในสตรีตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ระยะเวลาที่เห็นผล
Ezetimibe เริ่มออกฤทธิ์ลดระดับ LDL ได้ตั้งแต่ ภายใน 1-2 สัปดาห์ หลังเริ่มใช้ยา และผลสูงสุดมักเห็นได้หลังใช้ยาต่อเนื่องประมาณ 4-6 สัปดาห์ โดยระดับ LDL ลดลง 15-20% เมื่อใช้เดี่ยว และมากถึง 25% หากใช้ร่วมกับ Statins
- การติดตามผล: ควรตรวจระดับไขมันในเลือด (Lipid Profile) หลังใช้ยา 4-12 สัปดาห์ เพื่อประเมินประสิทธิผล
- ปัจจัยที่มีผล:
- ระดับ LDL เริ่มต้น: ผู้ที่มี LDL สูงมาก (เช่น >190 mg/dL) อาจต้องใช้เวลานานกว่า
- การใช้ยาร่วม: การใช้ร่วมกับ Statins จะเห็นผลเร็วกว่า
- การตอบสนองของร่างกาย: ผู้ป่วยแต่ละคนอาจเห็นผลแตกต่างกัน
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย:
- ปวดท้องหรือท้องเสีย (2-4%)
- ปวดข้อหรือกล้ามเนื้อ (3-5%)
- วิงเวียนศีรษะ (1-2%)
- อ่อนเพลีย (1-3%)
ผลข้างเคียงที่รุนแรง (พบน้อย):
- ตับอักเสบ: ตัวเหลือง ตาเหลือง ปวดท้องด้านขวา (พบ <1%)
- ปฏิกิริยาภูมิแพ้: ผื่น ลมพิษ หายใจลำบาก บวมที่ใบหน้า คอ ลิ้น
- กล้ามเนื้อสลาย (Rhabdomyolysis): ปวดกล้ามเนื้อรุนแรง อ่อนแรง ปัสสาวะสีเข้ม (พบน้อยเมื่อใช้เดี่ยว)
เมื่อใดควรหยุดยาและพบแพทย์:
- ตัวเหลือง ตาเหลือง เบื่ออาหาร คลื่นไส้รุนแรง
- ผื่นรุนแรงหรือบวมตามร่างกาย
- ปวดกล้ามเนื้อรุนแรงหรือปัสสาวะสีเข้ม
การติดตามอาการและผลตรวจเลือด
การติดตามอาการ:
- อาการทั่วไป: ปวดท้อง ท้องเสีย ปวดกล้ามเนื้อ วิงเวียนศีรษะ หรืออ่อนเพลีย หากรุนแรงควรแจ้งแพทย์
- อาการรุนแรง: ตัวเหลือง ตาเหลือง ผื่น ลมพิษ หายใจลำบาก หรือปัสสาวะสีเข้ม ต้องหยุดยาและพบแพทย์ทันที
ผลตรวจเลือดที่ควรติดตาม:
- Lipid Profile: ตรวจระดับ LDL, HDL, ไตรกลีเซอไรด์ และคอเลสเตอรอลรวม หลังใช้ยา 4-12 สัปดาห์
- Liver Function Tests (LFT): ตรวจระดับ ALT, AST ก่อนเริ่มใช้ยา และทุก 3-6 เดือนในช่วงแรก
- Renal Function Tests: ตรวจระดับ Creatinine และ eGFR ในผู้ป่วยโรคไตหรือใช้ยาความดัน/เบาหวาน
- Blood Glucose: ตรวจ FBS หรือ HbA1c ทุก 3-6 เดือน ในผู้ป่วยเบาหวาน
- Creatine Kinase (CK): ตรวจในกรณีปวดกล้ามเนื้อรุนแรง เพื่อดูภาวะกล้ามเนื้อสลาย
สิ่งที่ต้องติดตาม |
จุดประสงค์ |
ความถี่ |
Lipid profile |
ประเมินผลการลดไขมัน |
ทุก 4–6 สัปดาห์แรก และทุก 3–6 เดือน |
การทำงานของตับ (ALT, AST) |
เฝ้าระวังตับอักเสบจากยา |
ตรวจก่อนเริ่ม และทุก 6–12 เดือน (ถ้ามีปัจจัยเสี่ยง) |
อาการกล้ามเนื้ออักเสบ ปวดเมื่อย |
เฝ้าระวังกล้ามเนื้อสลาย (โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับ Statin) |
เฝ้าระวังอาการผิดปกติ หากมีให้ตรวจ CK |
ข้อห้ามในการใช้ยา
- ผู้แพ้ Ezetimibe หรือส่วนประกอบของยา
- ผู้ป่วยตับวายรุนแรง (Child-Pugh C)
- สตรีตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร (ข้อมูลความปลอดภัยไม่เพียงพอ)
ข้อควรระวัง
- ใช้ด้วยความระมัดระวังในผู้ป่วยโรคตับหรือไต (ตรวจ LFT และ Renal Function Tests)
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์มากเกินไป เนื่องจากเพิ่มความเสี่ยงต่อตับ
- แจ้งแพทย์หากมีประวัติโรคตับ ไต หรือวางแผนตั้งครรภ์
- อาจเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดเล็กน้อย (ติดตามในผู้ป่วยเบาหวาน)
- ระวังการใช้ร่วมกับยาอื่นที่อาจมีผลต่อตับ
การใช้ Ezetimibe ร่วมกับยาอื่น
ยาลดไขมันอื่น ๆ:
- Statins (เช่น Atorvastatin, Rosuvastatin): เพิ่มการลด LDL ได้ถึง 25% อาจเพิ่มความเสี่ยงตับอักเสบ ต้องตรวจ LFT
- Fibrates (เช่น Fenofibrate): ช่วยลดไตรกลีเซอไรด์และเพิ่ม HDL แต่เพิ่มความเสี่ยงตับอักเสบ
- Niacin: ช่วยเพิ่ม HDL อาจมีอาการหน้าแดง ต้องระวังผลต่อตับ
- Bile Acid Sequestrants (เช่น Colesevelam): รับประทาน Ezetimibe ก่อนอย่างน้อย 2 ชั่วโมง หรือหลัง 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการรบกวนการดูดซึม
- PCSK9 Inhibitors (เช่น Evolocumab): ใช้ร่วมได้ ไม่มีปฏิกิริยารุนแรง
ยาร่วม |
ข้อดี |
ข้อควรระวัง |
Statins |
เพิ่มประสิทธิภาพลด LDL |
เฝ้าระวังกล้ามเนื้ออักเสบ ตับทำงานผิดปกติ |
Fibrates (Fenofibrate) |
ใช้ในผู้มีไตรกลีเซอไรด์สูงร่วม |
ระวังกล้ามเนื้ออักเสบ โดยเฉพาะถ้าใช้หลายยาร่วมกัน |
ยา Bile acid sequestrants |
เสริมฤทธิ์ลดไขมัน |
ต้องเว้นระยะห่างเวลาให้ Ezetimibe ดูดซึมได้ดี |
Omega-3 fatty acids |
ลดไตรกลีเซอไรด์ ปลอดภัยใช้ร่วมได้ |
- |
ยาความดัน (Antihypertensive Drugs):
- โดยทั่วไปปลอดภัยกับยาความดัน เช่น ACE Inhibitors (Lisinopril), ARBs (Losartan), Beta-blockers (Metoprolol), Calcium Channel Blockers (Amlodipine), และ Diuretics (Hydrochlorothiazide)
- Cyclosporine: เพิ่มระดับ Ezetimibe ในเลือด อาจต้องปรับขนาดยา
- ข้อควรระวัง: ตรวจ LFT และ Renal Function ในผู้ป่วยที่มีโรคตับหรือไต
ยารักษาเบาหวาน (Antidiabetic Drugs):
- ปลอดภัยกับยารักษาเบาหวาน เช่น Metformin, Sulfonylureas (Glimepiride), DPP-4 Inhibitors (Sitagliptin), SGLT2 Inhibitors (Empagliflozin), GLP-1 Agonists (Liraglutide), และ Insulin
- Thiazolidinediones (Pioglitazone): อาจเพิ่มความเสี่ยงตับอักเสบ ต้องตรวจ LFT
- ข้อควรระวัง: Ezetimibe อาจเพิ่มระดับน้ำตาลเล็กน้อย ควรติดตาม FBS หรือ HbA1c
ยาอื่น ๆ:
- Warfarin: อาจเพิ่มผลต้านการแข็งตัวของเลือด ต้องติดตาม INR
ยาที่มีปฏิกิริยา |
ผลที่อาจเกิดขึ้น |
แนวทางป้องกัน |
Statins |
เพิ่มความเสี่ยงกล้ามเนื้ออักเสบ |
เฝ้าระวังอาการผิดปกติของกล้ามเนื้อ |
Fibrates (โดยเฉพาะ Gemfibrozil) |
เสี่ยงกล้ามเนื้อสลาย |
หลีกเลี่ยงการใช้ร่วมกัน |
Cyclosporine |
เพิ่มระดับยาในเลือดทั้งสองตัว |
ตรวจเลือดและปรับขนาดยา |
Bile acid sequestrants |
ขัดขวางการดูดซึมของ Ezetimibe |
เว้นระยะห่างในการรับประทานอย่างน้อย 2 ชั่วโมง |
Warfarin |
อาจกระทบการแข็งตัวของเลือด (INR) บางราย |
เฝ้าระวัง INR หากใช้ร่วมกัน |
การเก็บรักษา
- เก็บที่อุณหภูมิห้อง (15-30°C) ห่างจากแสงแดด ความชื้น และมือเด็ก
การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต
- รับประทานอาหารไขมันต่ำและไฟเบอร์สูง
- ออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาที/สัปดาห์
- ควบคุมน้ำหนัก เลิกสูบบุหรี่ ลดแอลกอฮอล์
บทสรุป
Ezetimibe เป็นยาลดคอเลสเตอรอลที่มีประสิทธิภาพโดยการยับยั้งการดูดซึมคอเลสเตอรอลจากลำไส้ เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ต้องการตัวเลือกเสริมจาก Statins ช่วยลด LDL ได้ 15-20% ภายใน 4-6 สัปดาห์ ควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ ติดตามอาการ เช่น ปวดกล้ามเนื้อ ตัวเหลือง และผลตรวจเลือด เช่น Lipid Profile, LFT และระดับน้ำตาลในเลือด การใช้ร่วมกับยาลดไขมัน ยาความดัน หรือยาเบาหวานโดยทั่วไปปลอดภัย แต่ต้องระวังปฏิกิริยาระหว่างยาและผลข้างเคียง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีควรปรับวิถีชีวิตควบคู่ไปด้วย
หมายเหตุ: บทความนี้ให้ข้อมูลทั่วไป ไม่สามารถทดแทนคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกร โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหากมีข้อสงสัย
เผยแพร่เมื่อ:
โดย:นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัท์ อายุรแพทย์
