
หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ
เผยแพร่เมื่อ: 6 กรกฎาคม 2568, 23:40 น.
โดย: นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร, อายุรแพทย์, แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว
Bezafibrate เป็นยาในกลุ่ม fibrate ใช้ควบคุมภาวะไขมันในเลือดสูง (dyslipidemia) โดยเฉพาะผู้ที่มีไตรกลีเซอไรด์สูงและ HDL-C (ไขมันดี) ต่ำ ชื่อการค้าที่รู้จัก เช่น Bezalip และ Bezalip Retard ถูกพัฒนาในปี 1971 และได้รับการอนุมัติทางการแพทย์ในปี 1978 มีรูปแบบเม็ดสำหรับรับประทาน
Bezafibrate กระตุ้น peroxisome proliferator-activated receptor alpha (PPAR-α) ซึ่งควบคุมยีนที่เกี่ยวข้องกับการเผาผลาญไขมัน ผลลัพธ์ที่สำคัญได้แก่:
ลดการสังเคราะห์ไตรกลีเซอไรด์ในตับ
เพิ่มการสลายไตรกลีเซอไรด์โดยการกระตุ้น lipoprotein lipase (LPL)
เพิ่มระดับ HDL-C ผ่านการสร้าง apolipoprotein A-I (apoA-I) และ A-II (apoA-II)
ลดระดับ LDL-C ในบางกรณี โดยเฉพาะผู้ป่วยไตรกลีเซอไรด์สูงมาก
ภาวะไตรกลีเซอไรด์สูง (hypertriglyceridemia) โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงตับอ่อนอักเสบ (pancreatitis)
ภาวะไขมันในเลือดสูงแบบผสม (mixed dyslipidemia) ที่มีทั้งไตรกลีเซอไรด์และคอเลสเตอรอลสูง
ภาวะ HDL-C ต่ำ เพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ
การรักษาเสริมในโรคตับอักเสบจากน้ำดี (PBC) ที่ไม่ตอบสนองต่อยาอื่น
ชะลอการพัฒนาโรคเบาหวานในผู้ที่มีภาวะดื้ออินซูลิน
รูปแบบยา: เม็ด 200 มก. (ทั่วไป) และเม็ด sustained-release 400 มก.
ขนาดยา:
ผู้ใหญ่: 200 มก. วันละ 3 ครั้ง หรือ 400 มก. เม็ด sustained-release วันละครั้ง รับประทานพร้อมอาหาร
ผู้ป่วยไตวาย: ปรับขนาดตามการทำงานของไต (ปรึกษาแพทย์)
หมายเหตุ: ปรับdoseตามระดับไขมันและการตอบสนองต่อยา
รับประทานพร้อมหรือหลังมื้ออาหาร
กลืนเม็ด sustained-release ทั้งเม็ด อย่าเคี้ยวหรือบด
รับประทานยาอื่นห่างอย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนหรือ 4-6 ชั่วโมงหลังยานี้
ผู้แพ้ Bezafibrate หรือส่วนประกอบใดๆ
ผู้ที่มีภาวะตับบกพร่องรุนแรง, ไตวาย, หรือโรคถุงน้ำดี
ใช้ด้วยความระมัดระวังในผู้สูงอายุ (>70 ปี) หรือผู้ที่มีโรคตับ/ไต
สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากขาดข้อมูลความปลอดภัย
ระวังเมื่อใช้ร่วมกับ statins อาจเพิ่มความเสี่ยงกล้ามเนื้อสลาย
อาการที่ต้องระวัง: ปวดกล้ามเนื้อรุนแรง, อ่อนเพลีย, ตัวเหลือง, ปัสสาวะเข้ม
การตรวจพิเศษ: ตรวจการทำงานตับ (ALT/AST), ไต (creatinine), และกล้ามเนื้อ (CPK) เป็นระยะ
โรค: โรคตับ, ไต, ถุงน้ำดี, ต่อมไทรอยด์ทำงานต่ำ
ยาที่มีผล: Statins (atorvastatin, simvastatin), Warfarin, ยาลดน้ำตาล (gliclazide)
พบบ่อย: คลื่นไส้, อาเจียน, ท้องเสีย, ปวดท้อง, ผื่นคัน
รุนแรง: Rhabdomyolysis (กล้ามเนื้อสลาย), ตับอักเสบ, ง่วงซึม
รับประทานพร้อมอาหารเพื่อลดการระคายเคืองกระเพาะ
ดื่มน้ำให้เพียงพอและหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์
ปรึกษาแพทย์หากมีอาการกล้ามเนื้อหรือตับผิดปกติ
อาการ: ปวดกล้ามเนื้อรุนแรง, ไตวาย
วิธีแก้ไข: หยุดยาและรีบพบแพทย์ทันที
รับประทานทันทีที่นึกได้ ถ้าใกล้เวลาครั้งถัดไปให้ข้าม ไม่เพิ่มdose
เก็บที่อุณหภูมิห้อง (20-25°C) หลีกเลี่ยงความชื้น
เก็บในภาชนะเดิม พ้นมือเด็ก
Bezafibrate เป็นยาที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมไขมันในเลือด โดยลดไตรกลีเซอไรด์, เพิ่ม HDL-C, และอาจลด LDL-C ในบางกรณี ช่วยลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจและชะลอเบาหวาน ควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์เพื่อป้องกันผลข้างเคียง เช่น กล้ามเนื้อสลายหรือตับอักเสบ
ทบทวนวันที่
โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว