ACE Inhibitors: คู่มือการควบคุมความดันโลหิตอย่างมีประสิทธิผล
เผยแพร่เมื่อ:
โดย: นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร, อายุรแพทย์, แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว
ACE Inhibitors คืออะไร
Angiotensin-Converting Enzyme Inhibitors (ACE Inhibitors) หรือยับยั้งแองจิโอเทนซิน-คอนเวอร์ติง เอนไซม์ เป็นกลุ่มยาที่ใช้รักษาเบื้องต้นสำหรับโรคความดันโลหิตสูง (Hypertension) และหัวใจล้มเหลวแบบเลือดคั่ง (Congestive Heart Failure) โดยเป็นยาเลือกใช้ลำดับแรก ผู้ป่วยร้อยละ 50-60 ตอบสนองดีต่อยานี้ ตัวอย่างยาในกลุ่มนี้ ได้แก่ Enalapril, Lisinopril, Captopril, Fosinopril, Perindopril, Quinapril, Ramipril, Benazepril, Moexipril และ Trandolapril
กลไกการออกฤทธิ์
ACE Inhibitors ออกฤทธิ์โดยยับยั้งเอนไซม์ Angiotensin-Converting Enzyme (ACE) ซึ่งปกติทำหน้าที่เปลี่ยน Angiotensin I เป็น Angiotensin II สาร Angiotensin II ทำให้หลอดเลือดหดตัว เพิ่มความดันโลหิต และกระตุ้นการหลั่ง Aldosterone ที่ไต ซึ่งเพิ่มการดูดซึมโซเดียมและน้ำกลับเข้าสู่ร่างกาย เมื่อ ACE Inhibitors ลดการสร้าง Angiotensin II จะส่งผลดังนี้
- หลอดเลือดขยายตัว ลดความต้านทานของระบบหลอดเลือดแดง (Arteriole Resistance)
- ลดการหลั่ง Aldosterone ทำให้มีการขับเกลือโซเดียมในปัสสาวะเพิ่ม (Natriuresis)
- เพิ่มความจุของระบบหลอดเลือดดำ (Venous Capacitance)
- ลดการสลายตัวของ Bradykinin (สารที่ทำให้หลอดเลือดขยายตัว)
- ลดความต้านทานของเส้นเลือดเลี้ยงไต (Renovascular Resistance) ทำให้เลือดไปเลี้ยงไตมากขึ้น
ผลลัพธ์คือความดันโลหิตลดลง หัวใจฉีดเลือดได้มากขึ้น และชะลอการเสื่อมของไต
ข้อบ่งชี้ในการใช้ยา ACE Inhibitors
ACE Inhibitors ใช้ในการรักษาและป้องกันภาวะต่อไปนี้
จากการศึกษาทางระบาดวิทยาและคลินิก พบว่า ACE Inhibitors ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคไตวายจากเบาหวานหรือเบาจืดได้อย่างมีนัยสำคัญ
ขนาดและวิธีการใช้ยา ACE Inhibitors
ขนาดยาขึ้นอยู่กับชนิดของยา ภาวะของผู้ป่วย และการตอบสนองต่อยา ควรใช้ตามคำแนะนำของแพทย์ ตัวอย่างขนาดยาทั่วไปมีดังนี้
ชื่อยา |
การใช้งาน |
ขนาดเริ่มต้น (ผู้ใหญ่) |
ความถี่ |
Lisinopril |
ความดันโลหิตสูง |
10 มก. |
วันละครั้ง |
Lisinopril |
หัวใจล้มเหลว |
2.5-5 มก. |
วันละครั้ง |
Enalapril |
ความดันโลหิตสูง |
5 มก. |
วันละครั้ง |
Enalapril |
หัวใจล้มเหลว |
2.5 มก. |
ทุก 12 ชม. |
Captopril |
ความดันโลหิตสูง |
25 มก. |
ทุก 8-12 ชม. |
คำแนะนำการใช้
- รับประทานยาในเวลาเดียวกันทุกวันเพื่อรักษาระดับยาในเลือดให้สม่ำเสมอ
- Captopril ควรรับประทานก่อนอาหาร 1 ชั่วโมงหรือหลังอาหาร 2 ชั่วโมง เนื่องจากอาหารอาจลดการดูดซึม
- ยาอื่น เช่น Lisinopril และ Enalapril สามารถรับประทานพร้อมหรือหลังอาหารได้
- ดื่มน้ำเพียงพอเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ ซึ่งอาจทำให้ความดันโลหิตต่ำเกินไป
- อย่าหยุดยาเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ แม้อาการจะดีขึ้น
- ผู้สูงอายุควรปรับขนาดยาตามการทำงานของไต
ผลข้างเคียงของ ACE Inhibitors
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยานี้มีดังนี้
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย
- ไอแห้ง: พบได้ร้อยละ 20 เกิดจากระดับ Bradykinin สูงขึ้น มักหายไปเมื่อหยุดยา 1-2 สัปดาห์ หากรุนแรงอาจเปลี่ยนไปใช้ยาในกลุ่ม ARB (เช่น Losartan)
- วิงเวียนหรือหน้ามืด: มักเกิดจากความดันโลหิตต่ำ โดยเฉพาะเมื่อเริ่มใช้ยาหรือเพิ่มขนาดยา
- ระดับโพแทสเซียมในเลือดสูง (Hyperkalemia): อาจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ
- ปวดศีรษะ, อ่อนเพลีย
- ผื่นที่ผิวหนัง, ลิ้นไม่รับรส
ผลข้างเคียงรุนแรง (หยุดยาและพบแพทย์ทันที)
- Angioedema: บวมที่หนังตา, ริมฝีปาก, ลิ้น, คอ, หรือแขนขา อาจทำให้หายใจลำบาก
- ความดันโลหิตต่ำรุนแรง: หน้ามืด, เป็นลม, หัวใจเต้นเร็ว
- ไตวายเฉียบพลัน: ปัสสาวะน้อย, บวมตามร่างกาย, โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่ขาดน้ำหรือมีโรคหัวใจ
- ตับอักเสบ: ตัวเหลือง, ตาเหลือง, ปัสสาวะสีเข้ม
- ภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ (Neutropenia): เสี่ยงต่อการติดเชื้อ, มีไข้, เจ็บคอ

Agioedema เป็นอาการบวมของหนังตาและปาก
ข้อห้ามในการใช้ (Contraindications)
- เคยแพ้ยาในกลุ่มนี้ โดยมีอาการ Angioedema ร่วมด้วย
- โรคเส้นเลือดแดงที่ไตตีบทั้งสองข้าง (Bilateral Renal Artery Stenosis) หรือตีบข้างเดียวในผู้ที่มีไตข้างเดียวทำงาน
- ไตวายรุนแรง
- ระดับโปตัสเซียมในเลือดสูง สูง
- หญิงตั้งครรภ์ (ทุกไตรมาส) เนื่องจากอยู่ในประเภท D อาจทำให้ทารกพิการหรือเสียชีวิต
การใช้ยา ACE inhibitors ควรระมัดระวังเป็นพิเศษในคนไข้ดังนี้:
- การทำงานของไตบกพร่อง (Impaired renal function) ผู้ที่การทำงานของไตเสื่อมอยู่ก่อนอาจจะทำให้เกิดไตวายเพิ่ม
- โรคลิ้นหัวใจเอออร์ติคตีบรุนแรง Aortic valve stenosis หรือ โรคหัวใจโตชนิดhypertrophic obstructive cardiomyopathy (cardiac outflow obstruction)
- ท้องร่วงหรืออาเจียนมากซึ่งจะเพิ่มโอกาศเกิดขาดน้ำ
- ร่างกายขาดน้ำ (Hypovolaemia) หรือ การขาดน้ำ (dehydration) จะเพิ่มโอกาศเกิดไตวายหรือเกลือโพแทสเซี่ยมในเลือดสูง
- การฟอกเลือด (Haemodialysis) ด้วย high flux polyacrylonitrile membranes การล้างไตจะเพิ่มโอกาศในการแพ้ยา
- หัวใจวายทำให้เลือดไปเลี้ยงไตน้อยเมื่อได้ยานี้โอกาศจะเกิดไตวาย และเกลือแร่ผิดปกติจะมีมากจะต้องติดตามการทำงานของไตและเกลือแร่อย่างใกล้ชิด
- โรคเบาหวานจะต้องติดตามเกลือแร่
- ความดันโลหิตต่ำหากจะใช้จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
- โรคตับ โรค SLE
- อาการไอพบได้ร้อยละ 20 เมื่อหยุดยา 1-2 สัปดาห์อาการไอจะหายไป หากมีอาการมากให้ใช้ยากลุ่ม ARB drugs แทนกลุ่ม ACE inhibitors
- นอกจากไอแล้วยังอาจจะทำให้ไตเสื่อมโดยเฉพาะผู้ที่ขาดน้ำ โรคหัวใจ ควรจะต้องติดตามการทำงานของไต
- ผู้ป่วยอาจจะมีผื่นที่ผิวหนัง ลิ้นไม่รับรส
- เกลือแร่โปแตสเซียมอาจจะสูงขึ้นโดยเฉพาะผู้ป่วยที่ไตทำงานไม่ดีควรจะให้ยาขับปัสสาวะที่ขับเกลือโปแตสเซียม
ก่อนใช้ยานี้ต้องรู้อะไรบ้าง
- หากเคยแพ้ยาในกลุ่ม ACE inhibitor จะต้องแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชทราบ
- การใช้ยานี้ในเด็กยังมีข้อมูลไม่เพียงพอจึงไม่แนะนำให้ใช้
- สำหรับผู้สูงอายุจะต้องปรับยาตามการทำงานของไต
- ไม่ใช้ยานี้ในระยะการตั้งครรภ์ทุกไตรมาศ
- ไม่แนะนำให้ใช้ในคนที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่
- ไม่ควรใช้ยานี้กับยาดังต่อไปนี้
- Aliskiren
- ยาลดความดันกลุ่ม ARB Candesartan,Eprosartan,Losartan,Olmesartan Medoxomil,Telmisartan,Valsartan
- ยาขับปัสสาวะที่ลดการขับเกลือโพแทสเซี่ยม Triamterene,Amiloride,Potassium,Spironolactone
ข้อควรระวังและสิ่งที่ควรแจ้งแพทย์
ก่อนใช้ยานี้ควรระวังและแจ้งข้อมูลต่อไปนี้ให้แพทย์ทราบ
- แจ้งแพทย์หากมีประวัติแพ้ยาในกลุ่ม ACE Inhibitors หรือเคยมี Angioedema
- ระวังในผู้ป่วยที่มีการทำงานของไตบกพร่อง (Impaired Renal Function), โรคลิ้นหัวใจเอออร์ติคตีบรุนแรง (Aortic Valve Stenosis), หรือโรคหัวใจโตชนิด Hypertrophic Obstructive Cardiomyopathy
- ระวังในผู้ป่วยที่มีภาวะขาดน้ำ (Hypovolaemia/Dehydration), ท้องร่วงหรืออาเจียนมาก, หรือการฟอกเลือด (Haemodialysis) ด้วย High Flux Polyacrylonitrile Membranes อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อไตวายหรือแพ้ยา
- การใช้ยานี้ร่วมกับยากลุ่ม NSAIDS อาจจะลดประสิทธิภาพของยาลดความดันโลหิต และหากร่างกายมีการขาดน้ำก็อาจจะทำให้เกิดไตวายเฉียบพลัน
- ผู้ป่วยโรคเบาหวาน, หัวใจล้มเหลว, ความดันโลหิตต่ำ, โรคตับ, หรือโรค SLE ควรติดตามการทำงานของไตและระดับเกลือแร่อย่างใกล้ชิด
- ไม่แนะนำให้ใช้ในหญิงให้นมบุตร เนื่องจากอาจผ่านเข้าสู่น้ำนม
- การใช้ยานี้ในเด็กยังมีข้อมูลไม่เพียงพอ ไม่แนะนำให้ใช้
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อความดันโลหิตต่ำ
ปฏิกิริยาตอยาอื่น
ยานี้อาจมีปฏิกิริยากับยาต่อไปนี้
- ยาขับปัสสาวะ: เพิ่มความเสี่ยงต่อความดันโลหิตต่ำ
- ยาที่ลดการขับโพแทสเซียม (เช่น Spironolactone, Triamterene, Amiloride) หรืออาหารเสริมโพแทสเซียม: เพิ่มความเสี่ยงต่อ Hyperkalemia
- Lithium: อาจเพิ่มระดับ Lithium ในเลือด ทำให้เกิดผลข้างเคียง
- NSAIDs (เช่น Ibuprofen): อาจลดประสิทธิภาพของ ACE Inhibitors และเพิ่มความเสี่ยงต่อไตวาย โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่ขาดน้ำ
- Quinapril อาจลดการดูดซึมของ Tetracycline เนื่องจากเกลือแมกนีเซียมจับกับ Tetracycline
- Aliskiren และยาลดความดันกลุ่ม ARB (เช่น Candesartan, Losartan, Valsartan): ไม่ควรใช้ร่วมกัน เนื่องจากเพิ่มความเสี่ยงต่อไตวายและ Hyperkalemia
ควรแจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาที่ใช้อยู่เพื่อป้องกันปฏิกิริยาระหว่างยา
วิธีเก็บรักษา
การเก็บรักษายาควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้
- เก็บที่อุณหภูมิห้อง (15-30°C) หลีกเลี่ยงความชื้นและแสงแดด
- เก็บให้พ้นมือเด็ก
สรุป
ACE Inhibitors เป็นยาที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมความดันโลหิตสูง, รักษาหัวใจล้มเหลว, และชะลอการเสื่อมของไตในผู้ป่วยเบาหวาน โดยช่วยลดภาระของหัวใจและขยายหลอดเลือด ควรใช้ตามคำแนะนำของแพทย์และระวังผลข้างเคียง เช่น ไอแห้ง, Angioedema, และไตวายเฉียบพลัน หากมีอาการรุนแรง เช่น บวมที่หน้า, ปัสสาวะน้อย, หรือตัวเหลือง ควรรีบพบแพทย์ทันที ข้อมูลนี้ไม่สามารถแทนคำแนะนำจากแพทย์ได้
Captopril | Enalapril | Lisinopril | Perindopril | Ramipril |ต่อหน้าที่2
ทบทวนวันที่
โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว
