ยา Perindopril: ข้อมูลครบถ้วนสำหรับการรักษาความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ
ยานั้นคืออะไร
Perindopril เป็นยาในกลุ่ม ACE Inhibitors (Angiotensin-Converting Enzyme Inhibitors) ใช้รักษาความดันโลหิตสูง (Hypertension), ภาวะหัวใจล้มเหลว (Heart Failure), และป้องกันการเกิดซ้ำของโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) หรือกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (Myocardial Infarction) ในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง โดยช่วยลดความดันโลหิต ป้องกันการบีบตัวของหลอดเลือด และลดภาระงานของหัวใจ
กลไกการออกฤทธิ์
Perindopril ออกฤทธิ์โดย:
-
ยับยั้งเอนไซม์ ACE: ป้องกันการสร้าง Angiotensin II ซึ่งเป็นสารที่ทำให้หลอดเลือดหดตัว
-
ขยายหลอดเลือด: ลดความต้านทานในหลอดเลือด (Afterload) ทำให้ความดันโลหิตลดลงและหัวใจทำงานง่ายขึ้น
-
ลดระดับโพแทสเซียมและน้ำในร่างกาย: ช่วยลดภาระในผู้ป่วยหัวใจล้มเหลว
-
ป้องกันความเสียหายของหลอดเลือด: ลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจขาดเลือด
ยานี้ใช้รักษาโรคอะไร
-
ความดันโลหิตสูง (Hypertension): ลดความดันโลหิตเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง
-
ภาวะหัวใจล้มเหลว (Heart Failure): ลดอาการเหนื่อยและบวมโดยลดภาระงานของหัวใจ
-
ป้องกันการเกิดซ้ำของโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke): ในผู้ป่วยที่มีประวัติโรคหลอดเลือดสมอง
-
ป้องกันการเกิดซ้ำของกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (Myocardial Infarction): ในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้ที่มีประวัติโรคหัวใจ
ขนาดและรูปแบบยาที่ใช้รักษา
ข้อแนะนำในการรับประทานยา
-
รับประทานยาตอนท้องว่าง 1 ชั่วโมงก่อนอาหาร หรือ 2 ชั่วโมงหลังอาหาร เพื่อการดูดซึมที่ดี
-
รับประทานยาในเวลาเดียวกันทุกวันเพื่อรักษาระดับยาในร่างกาย
-
ห้ามหยุดยาด้วยตนเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์
-
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจเพิ่มผลข้างเคียง เช่น วิงเวียน
-
เปลี่ยนท่าทางช้าๆ (จากนอนเป็นนั่ง แล้วค่อยยืน) เพื่อป้องกันอาการหน้ามืด
-
หลีกเลี่ยงการซื้อยาแก้ไอ, เจ็บคอ, หวัด, หรือยาแก้ปวด (เช่น NSAIDs) โดยไม่ปรึกษาแพทย์
ข้อห้ามในการใช้ยา
-
แพ้ยา Perindopril หรือยาในกลุ่ม ACE Inhibitors
-
ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร: จัดอยู่ในกลุ่ม D มีความเสี่ยงต่อทารก โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 1, 2, และ 3
-
เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี: ข้อมูลความปลอดภัยมีจำกัด
-
ใช้ยาขับปัสสาวะที่เก็บโพแทสเซียม (Potassium-Sparing Diuretics) เช่น Spironolactone, Amiloride (Moduretic), Triamterene (Dyazide) เพราะอาจทำให้ระดับโพแทสเซียมในเลือดสูงเกินไป (Hyperkalemia)
-
ใช้ผลิตภัณฑ์เสริมที่มีโพแทสเซียม: เช่น วิตามินหรือเกลือโพแทสเซียม เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อ Hyperkalemia
-
มีประวัติ Angioedema: จากการใช้ ACE Inhibitors หรือสาเหตุอื่น
ข้อระวังในการใช้ยา
-
หยุดยาทันที หากมีอาการบวมที่หน้า, หนังตา, ปาก, คอ หรือหายใจลำบาก (Angioedema)
-
แจ้งแพทย์ หากมีอาการไอเรื้อรัง ซึ่งอาจเป็นผลข้างเคียงของ ACE Inhibitors
-
ระวังในผู้ที่มีการทำงานของไตหรือตับผิดปกติ เนื่องจากอาจต้องปรับขนาดยา
-
ระวังในผู้ที่มีภาวะขาดน้ำ (เช่น จากอาเจียนหรือท้องเสีย) เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อความดันโลหิตต่ำ
-
ผู้สูงอายุอาจไวต่อผลข้างเคียง เช่น ความดันโลหิตต่ำหรือวิงเวียน
-
แจ้งแพทย์หากมีแผนตั้งครรภ์หรือกำลังตั้งครรภ์
-
หลีกเลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะหรือทำงานกับเครื่องจักรหากมีอาการวิงเวียนหรือง่วงซึม
ระหว่างที่ใช้ยาจะต้องระวังอาการหรือการตรวจพิเศษอะไร
-
อาการที่ต้องระวัง:
-
ความดันโลหิตต่ำ: วิงเวียน, หน้ามืด, เป็นลม โดยเฉพาะเมื่อเปลี่ยนท่าทาง
-
Angioedema: บวมที่หน้า, หนังตา, ปาก, คอ, หรือหายใจลำบาก
-
ไอเรื้อรัง: อาจเป็นผลข้างเคียงของยา
-
อาการรุนแรง: ปริมาณปัสสาวะลดลง, หัวใจเต้นผิดจังหวะ, เจ็บหน้าอก, ชานิ้วมือ/นิ้วเท้า, ผื่นคัน, ไข้, เจ็บคอ, ผิวซีด, เลือดออกง่าย
-
การตรวจพิเศษ:
-
ตรวจการทำงานของไต (Creatinine, GFR) และระดับโพแทสเซียมในเลือดอย่างสม่ำเสมอ
-
ตรวจความดันโลหิตและชีพจรเพื่อประเมินการตอบสนองต่อยา
-
ตรวจเลือดเพื่อติดตามภาวะ Hyperkalemia หรือการเปลี่ยนแปลงของเกลือแร่
มีโรคหรือยาอื่นๆ ที่มีผลต่อการใช้ยามีอะไรบ้าง
ผลข้างเคียงหรือไม่พึงประสงค์ของยา
วิธีลดหรือป้องกันผลข้างเคียงของยา
-
เริ่มด้วยขนาดยาต่ำและค่อยๆ ปรับเพิ่มตามคำสั่งแพทย์
-
เปลี่ยนท่าทางช้าๆ เพื่อป้องกันวิงเวียนจากความดันโลหิตต่ำ
-
ดื่มน้ำเพียงพอเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
-
หากมีอาการไอเรื้อรังหรือ Angioedema ให้หยุดยาและปรึกษาแพทย์ทันที
-
หลีกเลี่ยงยา NSAIDs และผลิตภัณฑ์ที่มีโพแทสเซียม
หากลืมใช้ยาต้องทำอย่างไร
-
รับประทานยาทันทีที่นึกได้ หากห่างจากมื้อถัดไปเกิน 12 ชั่วโมง
-
หากใกล้ถึงเวลายาครั้งถัดไป ให้ข้ามมื้อที่ลืมและรับประทานตามกำหนดปกติ
-
ห้ามเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่าเพื่อชดเชย
-
แจ้งแพทย์หากลืมยาบ่อยครั้ง
การเก็บยา
-
เก็บในภาชนะเดิม ปิดสนิท และพ้นมือเด็ก
-
เก็บที่อุณหภูมิห้อง (15-30°C) หลีกเลี่ยงความร้อน, ความชื้น, และแสงแดดโดยตรง
-
ตรวจสอบวันหมดอายุและทิ้งยาที่เสื่อมสภาพ
สรุป
Perindopril เป็นยาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาความดันโลหิตสูง, ภาวะหัวใจล้มเหลว, และป้องกันการเกิดซ้ำของโรคหลอดเลือดสมองและกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด การใช้ยาต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ โดยเฉพาะการติดตามการทำงานของไตและระดับโพแทสเซียม การปฏิบัติตามคำแนะนำ เช่น รับประทานยาตอนท้องว่างและหลีกเลี่ยงยาที่มีปฏิกิริยา จะช่วยให้การรักษาปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด
Captopril | Enalapril | Lisinopril | Perindopril | Ramipril |
