การป้องกันหลอดเลือดหัวใจตีบ
สูบบุหรี่ | ความดันโลหิตสูง | ไขมันในเลือด | การออกกำลังกาย | การคุมน้ำหนัก | รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ | โรคเบาหวาน | การตรวจร่างกายประจำปี | การจัดการเรื่องความเครียด | การดื่มสุรา |
ท่านผู้อ่านลองสำรวจดูว่าตัวท่านรวมทั้งคนที่รู้จัก มีใครบ้างที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดแข็ง หากพบว่ามีปัจจัยเสี่ยงแนะนำว่าให้ปฏิบัติตามเป้าหมายที่แนะนำ การป้องกันโรคย่อมดีกว่าการรักษาเนื่องจากประหยัดค่าใช้จ่าย ผู้ป่วยก็ไม่เกิดความพิการ คุณภาพชีวิตทั้งตัวผู้ป่วยและญาติดีขึ้น เนื่องจากโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และโรคอัมพาตมีปัจจัยเสี่ยงใกล้เคียงกันจึงขอกล่าวรวมกัน เนื่องจากโรคหลอดเลือดแดงแข็ง Atherosclerosis เป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจและโรคอัมพาต หลอดเลือดแดงแข็งเริ่มเกิดตั้งแต่วัยรุ่นและเกิดอาการหรือเกิดโรคตอนวัยกลางคน ดังนั้นการให้ความรู้และเปลี่ยนพฤติกรรมควรเริ่มตั้งแต่วัยรุ่น
การป้องกันโรคแบ่งเป็น
การป้องกันปฐมภูมิ คือการป้องกันตั้งแต่ยังไม่เกิดโรค
การป้องกันทุติยภูมิ คือการป้องกันมิให้เกิดโรคซ้ำ การป้องกันปฐมภูมิจะเน้นเรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมากกว่าการใช้ยา แต่หากคุณมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบก็จำเป็นต้องใช้ยา สำหรับผู้ที่เกิดโรคแล้วการใช้ยาเพื่อทำให้หลอดเลือดแข็งแรงขึ้น และลดการเกิดหลอดเลือดแข็ง
การป้องกันหลอดเลือดหัวใจตีบปฐมภูมิ
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
- สนับสนุนให้ผู้ป่วยและญาติหยุดสูบบุหรี่
- ถ้าหยุดเองไม่ได้แนะนำให้ปรึกษาศุนย์อดบุหรี่
- การตรวจร่างกายประจำปีให้ถามเรื่องการสูบบุหรี่ และแนะนำให้เลิกบุหรี่
- ความดันโลหิตสูง Blood pressure control
ดัชนีมวลกาย พลังงานสำหรับออกกำลังกาย พลังงานที่ใช้ในแต่ละวัน
เป้าหมาย (Goal) ความดันโลหิตน้อยกว่า 130/85 มม.ปรอท
ข้อแนะนำ (Recommendations)
- ให้วัดความดันทุก 2 ปีสำหรับผู้ใหญ่
- ให้เปลี่ยนพฤติกรรมการดำรงชิวิต เพื่อป้องกันความดันโลหิต
- ถ้าความดันมากกว่า 140/90 มม.ปรอทเป็นเวลา 6 เดือน หรือความดันโลหิตมากกว่า160/90 มม.ปรอท ก็เริ่มให้ยาลดความดันโลหิต
- ไขมันในเลือด Cholesterol management
เป้าหมาย (Goal)
- ปัจัยเสี่ยงน้อยกว่า 1 ข้อ,LDL<160 mg%
- ปัจจัยเสี่ยงน้อยกว่า 2 ข้อ,LDL<130 mg%
- HDL>35 mg%
- Triglyceride<200 mg%
ข้อแนะนำ (Recommendations)
- การบริโภคไขมันอิ่มตัว
- เจาะเลือดหาระดับ cholesterol และHDLในผู้ใหญ่อายุมากกว่า 20 ปีและประเมินปัจจัยเสี่ยงทุก 5 ปี
- ให้รับประทานอาหารที่มีคุณภาพ
- เจาะเลือดหาระดับ LDL เมื่อ total cholesterol>240 mg% หรือ total cholesterol>200 mg%และมีปัจจัยเสี่ยงมากกว่า 2 ข้อ หรือ HDL<35 mg%
- ถ้าHDL<35 mg% ใหออกกำลังกาย หยุดสูบบุหรี่
- ให้ยารักษาเมื่อมีข้อบ่งชี้
- การออกกำลังกาย Physical activit
เป้าหมาย (Goal) ออกกำลังกายสัปดาห์ละ3-6วันวันละ30 นาทีโดยได้อัตราเต้นของหัวใจ 60-80%ของอัตราเต้นเป้าหมาย
ข้อแนะนำ (Recommendations)
- แนะนำให้ออกกำลังกายเป็นประจำ
- ออกกำลังกายเป็นประจำสัปดาห์ละ3-6วันวันละ30 -60นาทีโดยได้อัตราเต้นของหัวใจ 60-80%ของอัตราเต้นเป้าหมาย
- แนะนำให้เปลี่ยนพฤติกรรมการดำดงชีวิต เช่น เดินให้มาก ทำงานบ้าน ใช้จักรยานแทนรถ
- ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนออกกำลังกาย
- การคุมน้ำหนัก Weight managemen
เป้าหมาย (Goal) ดัชนีมวลกายให้อยู่ระหว่าง 18.5-22.9 กก/ตารางเมตร สำหรับคนที่อ้วนลงพุงจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ เบาหวานและไขมันในเลือด การคำนวณดัชนีมวลกายอ่านที่นี่
ข้อแนะนำ (Recommendations)
- วัดส่วนสูงและชั่งน้ำหนักรวมทั้งวัดรอบเอวและรอบสะโพกทุกปี
- ดัชนีมวลกายมากกว่า 27 กก/ตารางเมตร หรือรอบเอวมากกว่า 90 ซม.สำหรับผู้ชาย80 ซม.สำหรับผู้หญิง ต้องให้การรักษา
- รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพซึ่งสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด องค์ประกอบของอาหารเพื่อสุขภาพคือ
- รับประทานผักและผลไม้ให้มากกว่า 5-8ส่วนต่อวัน
- เลือกรับประทานอาหารที่มีใยอาหารมาก เช่น ข้าวกล้อง whold wheat
- เลือกรับประทานอาหารที่มีดัชนี้น้ำตาลต่ำ glycemic index และมีปริมาณน้ำตาลต่ำ glycemic load
- ใช้น้ำมันชนิดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว แทนไขมันทรานส์หรือไขมันอิ่มตัว
- รับประทานอาหารที่มี Omega-3 fatty acids
- โรคเบาหวาน การควบคุมโรคเบาหวานมิใช่เพียงแค่ค่าน้ำตาลอย่างเดียงจะต้องควบคุมปัจัยอย่างอื่น
- ค่าน้ำตาลเฉลี่ย HbA1c ต้องไม่เกิน7
- ระดับความดันโลหิตต้องไม่เกิน 130/ 80 มิลิเมตรปรอท
- ระดับไขมันเลว LDL<100 mg%
- ต้องไม่อ้วน
- ออกกำลังกายวันละ30นาที
- การควบคุมโรคเบาหวาน
- การได้รับยาคุมกำเนิด
อาจจะให้ในหญิงวัยทองที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจหลายประการ เช่น LDLที่สูง
การตรวจร่างกายประจำปีมีความสำคัญโดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคสูง เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงบางอย่างจะไม่มีอาการ เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง การตรวจร่างกายประจำปีจะทำให้เราทราบปัจจัยเสี่ยงของเรา
การรับประทานอาหารที่มีคุณภาพต้องประกอบไปด้วยปริมาณพลังงานที่ไม่มากเกินไป มีแร่ฐาตครบถ้วน ครบห้าหมู่ หลีกเลี่ยงอาหารมัน เค็ม หรือหวาน อ่านเรื่องอาหารคุณภาพที่นี่
ความเครียดมักจะเป็นปัจจัยหนึ่งของการเกิดโรคหัวใจ การมองโลกในแง่ดีหรือเชิงบวกจะช่วยลดความเครียดได้ อ่านเรื่องการจัดการเกี่ยวกับความเครียด
การดื่มสุราพอเหมาะจะช่วยลดการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ หากดื่มมากเกินไปจะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น
การป้องกันหลอดเลือดหัวใจตีบโดยการใช้ยา
หากคุณตรวจร่างกายแล้วพบว่าเป็นโรค การใช้ยาควบคุมโรคจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจยาที่นิยมใช้คือ
- ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด Antiplatelet drug
- ตัวแรกที่นิยมให้คือ Aspirin
- ตัวที่สองคือ plavix เป็นยาที่นิยมใช้ในคนไข้ที่ทำบอลลูนขยายหลอดเลือดหัวใจและใส่ขดรวดในหลอดเลือดหัวใจ
- ยาปิดกันเบต้า Betablock ยานี้จะลดความดันโลหิต ลดการเต้นของหัวใจ และลดการใช้ออกซิเจนของกล้ามเนื้อหัวใจ
- Angiotensin-converting enzyme inhibitor ยานควรจะให้ภายใน 24-48ชั่วโมง จะใช้ได้ดีในรายที่หัวใจทำงานไม่ดี ผู้ป่วยสูงอายุ ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ป่วยที่มีโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลาย
- ยาลดไขมัน Statin การใช้ยาลดไขมันจะช่วยการตีบของหลอดเลือดหัวใจ
- Omega-3 fatty acids,ซึ่งมีรายงานว่าลดอัตราการเสียชีวิตลงได้
การป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบซ้ำ
การรักษาโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด | โรคแทรกซ้อนของกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด |