อาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
กลุ่มอาการของโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด(Acute Coronary Syndrome )
ผู้ที่เป็นโรคโคโรนารี coronary disease จะมาโรงพยาบาลด้วย กลุ่มที่เรียกว่า Acute Coronary Syndrome เป็นกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการของกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เฉียบพลัน อาการที่สำคัญที่นำผู้ป่วยมาโรงพยาบาลได้แก่อาการเจ็บหน้าอก กลุ่มโรคดังกล่าวได้แก่
- กลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บหน้าอกเมื่อออกกำลังกาย เรียก Stable angina
- กลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บหน้าอกแบบ Unstable angina
- กลุ่มผู้ป่วยที่มีกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือดซึ่งมีสองลักษณะคือ
นอกจากนั้นยังมีอาการและอาการแสดงของโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดมีได้หลายลักษณะได้แก่
- กลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคกล้ามเนื้อหัวใขาดเลือดโดยที่ไม่มีอาการเรียก Silent ischemia
- กลุ่มผู้ป่วยที่มาด้วยเรื่องหัวใจวาย Congestive heart failure
- กลุ่มผู้ป่วยที่เสียชีวิตเฉียบพลัน Sudden cardiac death
กลุ่มผู้ป่วยที่มีกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือด
เป็นกลุ่มที่มีรุนแรงที่สุด ผู้ป่วยจะมีอาการแน่นหน้าอกเฉียบพลัน หายใจเหนื่อย หน้ามืดเป็นลม และจะต้องรีบไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดภายใน 3 ชั่วโมงหลังจากเกิดอาการเนื่องจากการให้ยาละลายลิ่มเลือด หรือการทำบอลลูนหลอดเลือดหัวใจจะช่วยทำให้กล้ามเนื้อหัวใจฟื้นคืนได้ สาเหตุของโรคกลุ่มนี้ได้แก่
- เกิดการฉีดขาดของคราบไขมัน และเกิดลิ่มเลือดอุดหลอดเลือดโคโรนารีทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่ได้ เกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายชนิด (STEMI)
- เกิดจากคราบไขมันหนาขึ้นจนเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่พอ NSTEMI
กลุ่มอาการที่เจ็บหน้าอกเป็นอาการของโรคโคโรนารี coronary disease อาการเจ็บหน้าอกจะมีลักษณะเฉพาะ
อาการของโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
อาการที่พบบ่อยของกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
- อาการแน่หน้าอก ตรงกลางหน้าอก เจ็บมากขึ้น พักหรืออมยาขยายหลอดเลือดจะไม่หายปวด
- จุกเสียดบริเวณลิมปี่ แขซ้าย หรือคอและกรามด้านซ้าย
- หายใจเหนื่อยหอบ อาจจะมีหรือไม่มีแน่หน้าอก
- คลื่นไส้อาเจียน
- หน้าซีดเหงื่อออก
- เวียนศีรษะหน้ามืด
อาการ |
หญิง | ชาย | ||
---|---|---|---|---|
ความไว, % | ความจำเพาะ, % | ความไว, % | ความจำเพาะ, % | |
แน่นหน้าอก | 66 | 36 | 63 | 41 |
ปวดไหล่ | 45 | 67 | 29 | 72 |
เหงื่อออก | 37 | 70 | 33 | 70 |
ใจสั่น | 27 | 66 | 17 | 77 |
อึกอัดหน้าอกChest discomfort | 66 | 33 | 69 | 34 |
ปวดหลังส่วนบน | 34 | 64 | 14 | 78 |
หายใจเหนื่อย | 58 | 39 | 41 | 40 |
ปวดแขน | 49 | 69 | 32 | 72 |
อ่อนเพลีย | 40 | 54 | 32 | 52 |
คลื่นไส้ | 38 | 58 | 30 | 70 |
เวียนหัว | 40 | 55 | 34 | 58 |
เจ็บหน้าอก | 67 | 37 | 72 | 36 |
จุกเสียดท้องอาหารไม่ย่อย | 30 | 78 | 18 | 76 |
ACS indicates acute coronary syndrome.
aSensitive and/or specific for a diagnosis of ACS.
อาการเจ็บหน้าอกจะมีสองลักษณะคือ
- กลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บหน้าอกเมื่อออกกำลังกาย เรียก Stable angina อาการเจ็บหน้าอกจะสัมพันธ์กับการออกกำลังกาย พักหรืออมยาก็หายปวด การดูแลทำได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และการปรับยา
- กลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บหน้าอกแบบ Unstable angina อาการเจ็บหน้าอกจะเจ็บนานและรุนแรงกว่าแบบแรก หากไม่รักษาอาจจะเกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายจากขาดเลือด
กลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคกล้ามเนื้อหัวใขาดเลือดโดยที่ไม่มีอาการเรียก Silent ischemia ผู้ป่วยเป็นโรคหลอดเลือโคโรนารีแต่ไม่มีอาการเตือนเรื่องแน่นหน้าอก ผู้ป่วยกลุ่มนี้จะมีโรคแทรกซ้อนและอัตราการเสียชีวิตสูง
หัวใจเป็นกล้ามเนื้อที่ปั้มเลือดไปเลี้ยงเนื้อเยื่อและปั้มเลือดไปปอดเพื่อฟอกเลือด ในการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจต้องได้รับ สารอาหารและ oxygen จากหลอดเลือด coronary arteries ซึ่งมีอยู่ 3 เส้น ถ้าหากเส้นใดเส้นหนึ่งเกิดอุดด้วยลิ่มเลือด หรือตีบตันจากหลอดเลือดแข็งทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นขาดเลือด ภายใน 20 นาทีกล้ามเนื้อบริเวณนั้นจะตาย
อาการของโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดจากหลอดเลือดหัวใจตีบ
![]() |
ภาพตัดขวางของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจซึ่งมีการตีบ50% เมือมีการหดเกร็งของหลอดเลือดดังภาพซ้ายก็เกิดอาการเจ็บหน้าอกขณะพัก Rest angina ส่วนภาพกลางมีการตีบ75%ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บหน้าอกเวลาออกกำลังกาย Exercise-induced angina ส่วนภาพขวามีการตีบ 30%และไม่มีการหดเกร็งของหลอดเลือดจึงไม่เจ็บหน้าอก |
จากการสำรวจพบว่าผู้ป่วยที่มีกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือด จะมีอาการเตือนก่อนเกิดการอุดตันประมาณ 1 เดือน และประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยจะมีอาการแน่หน้าอก สำหรับผู้หญิง ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานอาการอาจจะไม่เหมือนผู้ป่วยทั่วไปเช่น บางคนมาด้วยอาการเพลีย กล้ามเนื้อหัวใจไม่ทำงาน อาการอาจจะมากน้อยต่างกัน
อาการโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดที่สำคัญคือ
- ผู้ป่วยที่หลอดเลือดหัวใจตีบมักจะมีอาการแน่นหน้าอก angina pectoris คล้ายมีของหนักทับหน้าอก บางคนบอกคล้ายมีอะไรมาบีบรัด เจ็บใต้กระดูกด้านซ้าย อาจเจ็บร้าวถึงขากรรไกรและแขนซ้ายอาการเจ็บมักจะสัมพันธ์กับการออกกำลังกายเช่นวิ่งตามรถเมล์ เดินขึ้นสะพานลอย ยกของหนัก ภาวะเครียดจัด อาการเจ็บมักไม่เกิน 15-30นาทีและอมยาแล้วหายปวด พักแล้วอาการเจ็บจะหาย ทำให้คนทั่วไปคิดว่าไม่เป็นไร
- บางท่านอาจจะมาด้วยอาการเจ็บร้าวไปไหล่ คอ ขากรรไกร หลัง
- บางท่านอาจจะมีอาการปวดท้องโดยเฉพาะอาจจะเจ็บหน้าอกร้าวมาบริเวณลิ้มปี่
- อาจจะมีอาการหายใจเหนื่อยหรือหอบ หายใจไม่ออก เหนื่อย นอนราบไม่ได้เนื่องจากกล้ามเนื้อหัวใจเสียหายมาก ทำให้ไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงได้อย่างเพียงพอหรือจะเรียกว่าหัวใจวายก็ได้
- เวียนศรีษะ หน้ามืดจะเป็นลม หรือหมดสติเนื่องจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ
- คลื่นไส้อาเจียน
- เหงื่อออก
หากท่านมีอาการเจ็บหน้าอกและมีอาการดังกล่าวข้างต้นเป็นครั้งแรกท่านต้องไปพบแพทย์ แต่หากท่านมีอาการเจ็บหน้าอกมานานและความรุนแรงไม่ได้เปลี่ยนแปลง ท่านอาจจะรับประทานยาเก่าต่อและปรึกษาแพทย์
คำแนะนำสำหรับอาการเจ็บหน้าอก
- ผู้ที่มีอาการเจ็บหน้าอกและสงสัยว่าจะเป็นโรคหัวใจขาดเลือดไม่ควรจะปรึกษาทางโทรศัพท์ ควรจะไปพบพทย์เพื่อประเมินอาการ และตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และเจาะเลือด
- ผู้ที่มีอาการเจ็บหน้าอกเหมือนกับโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ควรจะรีบตามรถพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดหรือตามยาติให้นำส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
- ในรถพยาบาล หรือที่บ้านควรจะมี ASA ขนาด 300 มกไว้หากมีอาการเจ็บหน้าอกที่เหมือนกับกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ให้เคี้ยวและกลืนทันที แต่ทั้งนี้ต้องไม่มีข้อห้ามในการให้ ASA
- สำหรับผู้ที่เจ็บหน้าอกจากโรคหัวใจขาดเลือดอยู่ก่อน เมื่อเจ็บหน้าอกให้อมยา Nitroglycerin 1 เม็ดหากอาการปวดไม่หายให้โทรแจ้งรถพยาบาลทันทีก่อนที่จะอมยาเม็ดที่ 2 สำหรับผู้ที่อมยาแล้วหายปวดให้อมยาทุก 5 นาทีจำนวน 3 ครั้งหากอาการไม่ดีขึ้นให้ตามรถพยาบาล
- สำหรับผู้ที่มีอาการเจ็บหน้าอก ร่วมกับอาการต่างๆได้แก่ เจ็บนานเกิน 20 นาที ความดันโลหิตต่ำ หน้ามือเป็นลม หายใจเหนื่อย ต้องรีบไปโรงพยาบาล
สำหรับท่านที่มีอาการเจ็บหน้าอกอยู่ก่อนหากมีอาการดังต่อไปนี้ให้รีบพบแพทย์ เรียกกลุ่มอาการนี้ว่า unstable angina
- เจ็บครั้งนี้เจ็บมากกว่าครั้งก่อนๆ
- เจ็บครั้งนานกว่า 30 นาที
- เจ็บครั้งนี้เกิดขณะพัก
- เจ็บครั้งนี้อมยาแล้วไม่หายเจ็บ
- เจ็บครั้งนี้เจ็บมากจนเหงื่อออก เป็นลม หรือหายใจหอบ
นอกจากนั้นอาจมีอาการอื่นร่วมด้วยคือ คลื่นไส้ อาเจียน หน้ามืดเป็นลม ผู้ป่วยสูงอายุ หรือผู้ป่วยเบาหวานบางรายไม่มีอาการแน่นหน้าอกแต่มาด้วยอาการใจสั่น เป็นลมหรืออาการอื่นๆที่พบไม่บ่อยดังนี้
- อาจะปวดจุกท้องบริเวณลิมปี่
- หายใจไม่พอ หายใจสั้นๆ
- กระสับกระส่าย อ่อนเพลีย
- ใจสั่นเหงื่อออก
ผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือดจะพบแพทย์
สำหรับท่านทมีโรคซึ่งเป็นความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ และเป็นโรคหัวใจขาดเลือดอยู่ ท่านอาจจะสังเกตุว่าหากทำงานถึงระดับหนึ่งจะมีอาการแน่หน้าอก พักสักครู่ก็หายดดยที่ไม่ต้องอมยาใต้ลิ้น แต่หากอาการเจ็บหน้าอกของท่านเปลี่ยนไปดังต่อไปนี้ต้องรีบไปพบแพทย์โดยโทรเบอร์ 1669
- เจ็บหน้าอกขณะพัก
- เจ็บแต่ละครั้งนานกว่าปกติอาจจะเจ็บนานถึง20 นาที
- อาการเจ็บจะมากกว่าเก่ามาก
- เจ็บจนเหงื่อออก
- เจ็บจนเป็นลมหรือหน้ามืด
- อมยาใต้ลิ้นแล้วไม่หายปวด หรือต้องอมบ่อย
- มีอาการของหัวใจวาย อ่านเรื่องหัวใจวาย
หากท่านมีอาการดังกล่าวต้องรีบไปพบแพทย์ท่านไม่ควรขับรถไปเอง ให้โทรแจ้งเบอร์ 1669 ซึ่งควรจะไปถึงโรงพยาบาลภายใน 3 ชั่วโมงหลังจากเกิดอาการเจ็บหน้าอก ซึ่งโรงพยาบาลใหญ่จะมีขบวนการที่เรียกว่า Fast track โดยการลดขั้นตอนเพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาที่เร็วที่สุด
สำหรับท่านที่ไม่เคยเจ็บหน้าอกมาก่อนหากมีอาการเจ็บหน้าอกโดยเแพาะตรงกลางหน้าอก และอาจจะมีอาการเจ็บร้าวไปแขนหรือคอ แม้ว่าจะพักแล้วหาย ท่านต้องไปพบแพทย์ตรวจและจะต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อตรวจโรค
อาการดังต่อไปนี้ไม่เหมือนกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
- เจ็บเหมือนถูกของแหลมตำเจ็บมากเมื่อไอหรือหายใจลึกๆ
- เจ็บบริเวณกลางท้องลงข้างล่าง
- ผู้ป่วยสามารถชี้จุดระบุตำแหน่งชัดเจน
- อาการเจ็บเมื่อผู้ป่วยขยับหรือเมื่อกดหน้าอกแล้วเจ็บมากขึ้น
- เจ็บหน้าอกต่อเนื่องเป็นชั่วโมงเนื่องจากผู้ป่วยที่หัวใจขาดเลือดมักจะมาโรงพยาบาลเนื่องจากปวดมาก
- เจ็บไม่กี่วินาที
- ปวดร้าวไปขา
กลไกการเกิดโรค | ความเสี่ยงของการเกิดโรค |