Captopril: คู่มือการใช้งานและข้อมูลสำคัญ
วันที่เรียบเรียง: 11 มิถุนายน 2568
ผู้เรียบเรียง: นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภานุภัทร, อายุรแพทย์, แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว
ยานี้คืออะไร
Captopril (แคปโตพริล) เป็นยาในกลุ่ม Angiotensin-Converting Enzyme Inhibitors (ACE Inhibitors) ใช้รักษาความดันโลหิตสูง (Hypertension), ภาวะหัวใจล้มเหลว (Heart Failure), ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายหลังหัวใจวายเฉียบพลัน (Post-Myocardial Infarction), และโรคไตจากเบาหวาน (Diabetic Nephropathy) ในประเทศไทย มีจำหน่ายในชื่อการค้า เช่น Capoten หรือยาสามัญ (Generic) รูปแบบยาเป็นยาเม็ดรับประทาน ขนาด 12.5 มก., 25 มก., และ 50 มก.
กลไกการออกฤทธิ์
Captopril ออกฤทธิ์โดย:
- ยับยั้งเอนไซม์ ACE ป้องกันการเปลี่ยน Angiotensin I เป็น Angiotensin II
- ลดระดับ Angiotensin II ทำให้หลอดเลือดผ่อนคลาย ความดันโลหิตลดลง
- ลดการหลั่ง Aldosterone ช่วยลดการกักเก็บน้ำและเกลือ
- ลดภาระการทำงานของหัวใจในภาวะหัวใจล้มเหลว
- ป้องกันความเสียหายของไตในผู้ป่วยเบาหวานโดยลดความดันในหลอดเลือดไต
ข้อบ่งชี้ในการใช้
Captopril ใช้รักษา:
- ความดันโลหิตสูง (Hypertension) รวมถึงภาวะ Hypertensive Emergency ในกรณีฉุกเฉิน
- ภาวะหัวใจล้มเหลว เพื่อลดอาการบวมและหายใจลำบาก
- ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายหลังหัวใจวายเฉียบพลัน ในผู้ป่วยที่มีการทำงานของหัวใจลดลง
- โรคไตจากเบาหวาน ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ที่มีโปรตีนในปัสสาวะ (>500 มก./วัน)
- ป้องกันภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงทางหัวใจและหลอดเลือด
ขนาดและวิธีใช้ยา
- รูปแบบยา: ยาเม็ดรับประทาน ขนาด 12.5 มก., 25 มก., 50 มก.
- วิธีรับประทาน:
- รับประทานเมื่อท้องว่าง (1 ชม. ก่อนอาหาร หรือ 2 ชม. หลังอาหาร) เพราะอาหารอาจลดการดูดซึม
- รับประทานวันละ 2-3 ครั้ง ตามแพทย์สั่ง อย่างสม่ำเสมอ
- กลืนยาพร้อมน้ำ ห้ามเคี้ยวหรือบด
- ขนาดยา:
- ความดันโลหิตสูง:
- เริ่มต้น: 12.5 มก. วันละ 2 ครั้ง (หรือ 6.25 มก. หากใช้ร่วมกับยาขับปัสสาวะ)
- ปรับทุก 2-4 สัปดาห์ ขนาดปกติ: 25-50 มก. วันละ 2 ครั้ง
- สูงสุด: 50 มก. วันละ 3 ครั้ง (150 มก./วัน)
- ภาวะหัวใจล้มเหลว:
- เริ่มต้น: 6.25-12.5 มก. วันละ 2-3 ครั้ง
- ขนาดปกติ: 25 มก. วันละ 2-3 ครั้ง
- สูงสุด: 50 มก. วันละ 3 ครั้ง
- หลังหัวใจวายเฉียบพลัน:
- เริ่ม 6.25 มก. วันละ 1 ครั้ง หลังหัวใจวาย 3 วัน ค่อยๆ ปรับเป็น 25-50 มก. วันละ 2-3 ครั้ง (สูงสุด 150 มก./วัน)
- โรคไตจากเบาหวาน:
- 25 มก. วันละ 3 ครั้ง ร่วมกับยาควบคุมความดันอื่น
- ผู้ป่วยไตเสื่อม (ปรับตาม Creatinine Clearance, CrCl):
- CrCl 21-40 มล./นาที: เริ่ม 25 มก./วัน สูงสุด 100 มก./วัน
- CrCl 10-20 มล./นาที: เริ่ม 12.5 มก./วัน สูงสุด 75 มก./วัน
- CrCl <10 มล./นาที: เริ่ม 6.25 มก./วัน สูงสุด 37.5 มก./วัน
ข้อแนะนำในการรับประทานยา
- รับประทานยาในเวลาเดียวกันทุกวัน
- ควบคุมอาหารโซเดียมต่ำ ออกกำลังกายเบาๆ เช่น เดินเร็ว งดสูบบุหรี่ ลดความเครียด
- ตรวจวัดความดันโลหิตและชีพจรสม่ำเสมอ
- ดื่มน้ำเพียงพอเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงความดันต่ำ
- เปลี่ยนท่าทางช้าๆ (เช่น จากนอนเป็นยืน) เพื่อป้องกันวิงเวียน
- พบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผลและปรับขนาดยา
ข้อห้ามในการใช้ยา
- ห้ามใช้ในผู้ที่มี:
- แพ้ Captopril หรือยา ACE Inhibitors อื่น
- ประวัติ Angioedema จาก ACE Inhibitors
- ไตวายรุนแรง (CrCl <10 มล./นาที) โดยไม่มีการควบคุม
- โพแทสเซียมในเลือดสูง (Hyperkalemia) ที่ควบคุมไม่ได้
- ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ (ประเภท C ในไตรมาส 1, ประเภท D ในไตรมาส 2-3) เนื่องจากอาจเป็นอันตรายต่อทารก
- ห้ามใช้ร่วมกับ Aliskiren ในผู้ป่วยเบาหวานหรือไตบกพร่อง (CrCl <60 มล./นาที)
- ไม่แนะนำในเด็ก เว้นแต่แพทย์พิจารณาว่าจำเป็น
ข้อระวังในการใช้ยา
- ใช้ด้วยความระวังในผู้ที่มี:
- ไตหรือตับบกพร่อง
- ภาวะขาดน้ำ (เช่น จากท้องเสีย อาเจียน หรือยาขับปัสสาวะ)
- เบาหวาน เนื่องจากเสี่ยงโพแทสเซียมสูง
- โรคหลอดเลือดสมองหรือหัวใจขาดเลือด
- ผู้สูงอายุ (>65 ปี) อาจไวต่อผลข้างเคียง เช่น ความดันต่ำหรือไตผิดปกติ
- ห้ามรับประทานยาลดกรดพร้อม Captopril (รออย่างน้อย 2 ชม. หลัง Captopril หรือ 4 ชม. ก่อน Captopril)
- หลีกเลี่ยงยาแก้ไอ หวัด หรือยาแก้ปวด (เช่น NSAIDs) โดยไม่ปรึกษาแพทย์
อาการที่ต้องระวัง
- ความดันโลหิตต่ำ: วิงเวียน หน้ามืด เป็นลม
- โพแทสเซียมสูง: อ่อนแรง ใจสั่น กล้ามเนื้ออ่อน
- ไตผิดปกติ: ปัสสาวะน้อยลง บวม น้ำหนักเพิ่ม
- Angioedema: บวมหน้า ริมฝีปาก ลิ้น คอ หายใจลำบาก
- ไอแห้งเรื้อรัง: พบบ่อยใน ACE Inhibitors
- การตรวจพิเศษ:
- ตรวจความดันโลหิต ชีพจร
- ตรวจการทำงานของไต (CrCl, Serum Creatinine) และโพแทสเซียม
- ตรวจการทำงานของตับ (LFT) และนับเม็ดเลือด (CBC) ในบางกรณี
ปฏิกิริยาระหว่างยา
- ยาที่เพิ่มโพแทสเซียมสูง: Potassium-sparing Diuretics (เช่น Spironolactone), Potassium Supplements
- ยาที่เพิ่มความดันต่ำ: Diuretics (เช่น Furosemide), ARBs (เช่น Losartan), Aliskiren
- ยาที่ลดประสิทธิภาพ: NSAIDs (เช่น Ibuprofen)
- ยาที่เพิ่มพิษ: Lithium (เพิ่มระดับในเลือด)
- แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาหรืออาหารเสริมทั้งหมด
ผลข้างเคียง
- พบบ่อย:
- ไอแห้งเรื้อรัง
- วิงเวียน มึนงง (โดยเฉพาะเมื่อเริ่มยา)
- ปวดศีรษะ
- อ่อนเพลีย
- รสชาติเปลี่ยน (รสโลหะ)
- คลื่นไส้ อาเจียน
- รุนแรง (พบน้อย):
- ความดันโลหิตต่ำ
- โพแทสเซียมสูง
- ไตผิดปกติ
- Angioedema (บวมหน้า คอ)
- Neutropenia (เม็ดเลือดขาวต่ำ)
- หากพบอาการรุนแรง เช่น หายใจลำบาก บวมหน้า ปัสสาวะน้อย ใจสั่น หยุดยาและพบแพทย์ทันที
วิธีลดผลข้างเคียง
- ลุกช้าๆ เพื่อป้องกันวิงเวียน
- ดื่มน้ำเพียงพอ
- หลีกเลี่ยงอาหารโพแทสเซียมสูง (เช่น กล้วย ส้ม) เว้นแต่แพทย์แนะนำ
- หากไอแห้งรุนแรง ปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาเปลี่ยนเป็น ARBs
- หยุดยาและพบแพทย์หากมีอาการรุนแรง
การลืมรับประทานยา
- รับประทานทันทีที่จำได้ หากยังไม่ถึงมื้อถัดไป
- หากใกล้ถึงมื้อถัดไป ข้ามมื้อที่ลืม อย่ารับประทานสองเท่า
การรับประทานยาเกินขนาด
- อาการ เช่น วิงเวียนรุนแรง ความดันต่ำ ใจสั่น
- ติดต่อโรงพยาบาลหรือศูนย์พิษวิทยาทันที
การเก็บยา
- เก็บที่อุณหภูมิ 15-30°C ในที่แห้ง พ้นแสงแดด
- เก็บให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
- ตรวจวันหมดอายุก่อนใช้
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
- Captopril ใช้รักษาอะไร?
รักษาความดันโลหิตสูง หัวใจล้มเหลว ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายหลังหัวใจวาย และโรคไตจากเบาหวาน
- Captopril ทำให้ไอแห้งหรือไม่?
ใช่ เป็นผลข้างเคียงพบบ่อย หากรุนแรง ปรึกษาแพทย์เพื่อเปลี่ยนยา
- Captopril ปลอดภัยในผู้ป่วยเบาหวานหรือไม่?
ปลอดภัยและมีประโยชน์ในโรคไตจากเบาหวาน แต่ต้องตรวจโพแทสเซียมและไตสม่ำเสมอ
- Captopril ใช้ในหญิงตั้งครรภ์ได้หรือไม่?
ห้ามใช้ โดยเฉพาะไตรมาส 2-3 เนื่องจากอาจเป็นอันตรายต่อทารก
- Captopril ต่างจาก ARBs อย่างไร?
Captopril เป็น ACE Inhibitor มีโอกาสไอแห้งมากกว่า ARBs เช่น Candesartan
สรุป
Captopril เป็นยาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาความดันโลหิตสูง หัวใจล้มเหลว และปกป้องไตในผู้ป่วยเบาหวาน ช่วยผ่อนคลายหลอดเลือดและลดภาระหัวใจ การใช้ยาต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เนื่องจากอาจเกิดผลข้างเคียง เช่น ไอแห้ง ความดันต่ำ หรือโพแทสเซียมสูง ผู้ป่วยควรตรวจความดันและไตสม่ำเสมอ ปฏิบัติตามคำแนะนำ และปรับพฤติกรรมเพื่อผลการรักษาที่ดี
สำหรับผู้ที่มีการเสื่อมของไต การให้บาจะปรับตามสภาพการทำงานของไต
| อัตรากรองของไตCrCl (ml/min) |
ขนาดยาที่แนะนำ |
| 21-40 |
Initially, 25 mg daily. Max: 100 mg daily. |
| 10-20 |
Initially, 12.5 mg daily. Max: 75 mg daily. |
| <10 |
Initially, 6.25 mg daily. Max: 37.5 mg daily. |
้
Captopril | Enalapril | Lisinopril | Perindopril | Ramipril |
ทบทวนวันที่
โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว
