Rosuvastatin: คู่มือครบถ้วนสำหรับยาลดคอเลสเตอรอล
Rosuvastatin เป็นยาในกลุ่ม Statin ที่มีประสิทธิภาพสูงในการลดระดับคอเลสเตอรอลและป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด บทความนี้รวบรวมข้อมูลครบถ้วนเกี่ยวกับ Rosuvastatin ตั้งแต่กลไกการทำงาน ข้อบ่งชี้ ประโยชน์ ขนาดและวิธีใช้ ผลข้างเคียง ข้อควรระวัง และการใช้ร่วมกับยาอื่น เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจและใช้ยานี้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
Rosuvastatin คืออะไร?
Rosuvastatin เป็นยาในกลุ่ม HMG-CoA reductase inhibitors หรือ Statins ใช้สำหรับลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดเลว LDL (Low-Density Lipoprotein) (LDL) และไตรกลีเซอไรด์ในเลือด พร้อมทั้งเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดดีHDL cholesterol (ไขมันชนิดดี) ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น หัวใจวายและหลอดเลือดสมองตีบ ยานี้มีชื่อทางการค้า เช่น Crestor และได้รับการพัฒนาเพื่อป้องกันและรักษาภาวะที่เกี่ยวข้องกับการสะสมไขมันในร่างกาย
กลไกการทำงาน
Rosuvastatin ทำงานโดยยับยั้งเอนไซม์ HMG-CoA reductase ในตับ ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการสังเคราะห์คอเลสเตอรอล เมื่อเอนไซม์นี้ถูกยับยั้ง:
- ร่างกายผลิตคอเลสเตอรอลน้อยลง
- ตับดึง LDL จากกระแสเลือดไปใช้มากขึ้น
- ระดับ LDL ลดลง 40-60%
- ระดับไตรกลีเซอไรด์ลดลง 10-35%
- ระดับ HDL เพิ่มขึ้น 5-15%
- ลดการอักเสบและการสะสมคราบพลัคในหลอดเลือด (Atherosclerosis)
ข้อบ่งชี้ในการใช้ยา
Rosuvastatin ใช้ในผู้ใหญ่และเด็กอายุ 7 ปีขึ้นไปสำหรับ:
- ภาวะไขมันในเลือดสูง (Hypercholesterolemia)
- ภาวะไขมันในเลือดสูงแบบผสม (Mixed Dyslipidemia)
- ภาวะไขมันในเลือดสูงถ่ายทอดทางพันธุกรรม (Familial Hypercholesterolemia)
- ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมอง
- ป้องกันโรคหัวใจในผู้ที่มีความเสี่ยงสูง (ตามเกณฑ์ JUPITER trial):
- อายุมากกว่า 50 ปี (ชาย) หรือ 60 ปี (หญิง)
- High-sensitivity C-reactive protein (hs-CRP) > 2 mg/L
- มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจอย่างน้อย 1 ปัจจัย เช่น ความดันโลหิตสูง ระดับ HDL ต่ำ สูบบุหรี่ หรือมีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจ
ประโยชน์ของ Rosuvastatin
- ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด: ลดโอกาสเกิดหัวใจขาดเลือดและหลอดเลือดสมองตีบ โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง
- ลดระดับคอเลสเตอรอลที่สูง: ลด LDL ได้มากถึง 40-60% และเพิ่ม HDL ได้ 5-15%
- ลดการอักเสบในหลอดเลือด: ป้องกันการตีบหรืออุดตันของหลอดเลือด
- ลดความเสี่ยงในผู้ป่วยเบาหวาน: ป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากหลอดเลือด
- ป้องกันโรคหลอดเลือดส่วนปลาย: ลดการเกิดคราบพลัคในหลอดเลือด
ขนาดและวิธีใช้ยา
- ขนาดยา:
- ผู้ใหญ่: เริ่มต้น 5-10 มก. วันละครั้ง ปรับได้สูงสุด 40 มก./วัน
- เด็ก (7-17 ปี): 5-20 มก. วันละครั้ง (ขึ้นกับอายุและน้ำหนัก)
- ผู้ป่วยโรคไต:
- อัตรากรองของไต (CrCl) < 60 mL/min: เริ่ม 5 มก./วัน สูงสุด 20 มก./วัน
- อัตรากรองของไต < 30 mL/min: ไม่แนะนำให้ใช้
- ผู้ที่มีความเสี่ยงตาม JUPITER trial: 10-20 มก./วัน
- ผู้ป่วยเชื้อสายเอเชีย: เริ่มที่ 5 มก./วัน
- ใช้ร่วมกับยาอื่น:
- Cyclosporine: ไม่เกิน 5 มก./วัน
- Gemfibrozil: ไม่เกิน 10 มก./วัน
- Ritonavir, Lopinavir/Ritonavir, Atazanavir/Ritonavir: ไม่เกิน 10 มก./วัน
- Niacin หรือ Fenofibrate: ลดขนาดเพื่อลดความเสี่ยงกล้ามเนื้อสลาย
- วิธีใช้:
- รับประทานวันละครั้ง ก่อนหรือหลังอาหารได้
- รับประทานเวลาเดียวกันทุกวันเพื่อรักษาระดับยาในร่างกาย
- หากลืมรับประทาน: รับประทานทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าใกล้ยาครั้งถัดไป ให้ข้ามไป อย่าเพิ่มขนาดยา
- ปรับขนาดทุก 4 สัปดาห์หรือตามดุลยพินิจแพทย์ ขึ้นกับระดับไขมันในเลือด
- ตรวจเลือดดูระดับไขมันและการทำงานของตับตามแพทย์สั่ง
- หลีกเลี่ยงน้ำเกรปฟรุตและแอลกอฮอล์
- ห้ามหยุดยาเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์
- ห้ามใช้ในสตรีตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
การป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด(Approval based on JUPITER trial )
จะให้ยาป้องกันในผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจโดยมีเกณฑ์ดังนี้
- อายุ (>50 ปี ชาย; >60 ปี หญิง) และ
- ผลการตรวจเลือดพบ high-sensitivity C-reactive protein สูง(>2 mg/L)และ
- มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดอย่างน้อย1ข้อ (ความดันโลหิตสูง, low HDL-C, สูบบุหรี่, ประวัติสมาชิกในครอบครัวเป็นโรคหัวใจก่อนวัย)
ขนาดยาที่ให้ 10-20 mg ต่อวัน
ยานี้ใช้เพื่อลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
วิธีใช้ยา
- เริ่มต้นให้ยา 5-10 มก และปรับยาทุก 4 สัปดาห์ชนาดที่เหมาะสมประมาณ วันละ 20 มก ต่อวัน แต่ให้ได้สูงสุดไม่เกิน 40 มก ต่อวัน
- สำหรับผู้ที่ใช้ gemfibrozil จะให้ยา Rosuvastatin ไม่เกินวันละ 10 มก ต่อวัน
- ลดขนาดยาลงหากใช้ร่วมกับ niacin หรือ fenofibrate เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดการสลายของกล้ามเนื้อ
- ให้ลดขนาดยาลงไม่เกิน 5 mg/ต่อวันเมื่อให้ร่วมกับ cyclosporine
- ให้ลดขนาดยาลงไม่เกิน 10 mg/day เมื่อให้ร่วมกับ ritonavir, lopinavir/ritonavir, or atazanavir/ritonavir
- สำหรับผู้ที่ไตเสื่อมจะต้องลดขนาดของยาลง
อัตรากรองของไต CrCl (ml/min) |
ขนาดของยาที่แนะนำ |
<60 |
เริ่มต้น, 5 mg/day.ขนาดเต็มที่: 20 mg/day. |
<30 |
ไม่ควรใช้ |
- รับประทานวันละ 1 ครั้ง รับประทานยานี้ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ หรือให้ใช้ยานี้ตามวิธีใช้ที่ระบุบนฉลากยาอย่างเคร่งครัด โดยห้ามใช้ยาในขนาดที่มากหรือน้อยกว่าที่ระบุ และหากมีข้อสงสัยให้สอบถามแพทย์หรือเภสัชกร
- ห้ามหยุดใช้ยาด้วยตัวเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์
- หากใช้ยาลดกรดร่วมกับการรับประทานยานี้ ให้รับประทานยาลดกรดหลังยานี้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในระหว่างที่รับประทานยานี้อยู่
- ห้ามให้นมบุตรในระหว่างที่รับประทานยานี้อยู่
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย:
- ปวดกล้ามเนื้อ (3-13%)
- ปวดข้อ (10%)
- ปวดศีรษะ (3-6%)
- คลื่นไส้ ท้องอืด ท้องผูก หรือท้องเสีย (2-4%)
- อ่อนเพลีย (1-3%)
- เจ็บคอ (9%)
- นอนไม่หลับ ฝันร้าย (4%)
- ค่า CPK เพิ่มขึ้น (3%)
- เบาหวาน (3%)
ผลข้างเคียงที่รุนแรง (พบน้อย):
- กล้ามเนื้อสลาย (Rhabdomyolysis): ปวดกล้ามเนื้อรุนแรง อ่อนแรง ปัสสาวะสีเข้ม
- ตับอักเสบ: ตัวเหลือง ตาเหลือง ปวดท้องด้านขวา (พบ <1%)
- เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด: อาจเพิ่มความเสี่ยงเบาหวาน
- อาการหลงลืม: หายเมื่อหยุดยา
เมื่อใดควรหยุดยาและพบแพทย์:
- ปวดกล้ามเนื้อรุนแรง อ่อนแรง ปัสสาวะสีเข้ม
- ตัวเหลือง ตาเหลือง เบื่ออาหาร คลื่นไส้รุนแรง
- ผื่น ลมพิษ หายใจลำบาก บวมที่ใบหน้า คอ ลิ้น
- ไข้ เหนื่อยง่าย น้ำหนักเพิ่ม ปัสสาวะออกน้อย
ข้อห้ามในการใช้ยา
- ผู้แพ้ Rosuvastatin หรือยาในกลุ่ม Statins
- ผู้ป่วยโรคตับกำเริบหรือผลตรวจตับผิดปกติ
- ผู้ป่วยไตเสื่อมรุนแรง (CrCl < 30 mL/min)
- สตรีตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร (จัดอยู่ในประเภท X เนื่องจากอาจเป็นอันตรายต่อทารก)
ข้อควรระวัง
- ใช้ด้วยความระมัดระวังในผู้ป่วยโรคตับ ไต หรือผู้สูงอายุ (เสี่ยงกล้ามเนื้อสลาย)
- ตรวจการทำงานของตับ (LFT) และค่าเอนไซม์ตับก่อนและระหว่างใช้ยา
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์มากเกินไป เนื่องจากเพิ่มความเสี่ยงต่อตับ
- ใช้ยาขนาดสูง (40 มก./วัน) อาจเพิ่มความเสี่ยงกล้ามเนื้อสลาย
- ผู้ป่วยที่มีภาวะเสี่ยงกล้ามเนื้อตาย เช่น โลหิตเป็นพิษ ความดันโลหิตต่ำ การผ่าตัดใหญ่ อุบัติเหตุ หรือเกลือแร่ผิดปกติ
- ผู้ป่วยโรคลมชักที่ควบคุมไม่ได้
- อาจเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดและน้ำตาลเฉลี่ย (HbA1c) ซึ่งอาจนำไปสู่การวินิจฉัยเบาหวาน
- ผู้ป่วยเชื้อสายเอเชีย: เริ่มที่ขนาด 5 มก./วัน เนื่องจากอาจมีการดูดซึมยามากกว่าปกติ
- แจ้งแพทย์หากต้องเข้ารับการผ่าตัดหรือทำฟัน
การใช้ Rosuvastatin ร่วมกับยาอื่น
- Cyclosporine: ลดขนาด Rosuvastatin ไม่เกิน 5 มก./วัน
- Gemfibrozil: ลดขนาดไม่เกิน 10 มก./วัน เนื่องจากเพิ่มความเสี่ยงกล้ามเนื้อสลาย
- Warfarin: อาจเพิ่มความเสี่ยงเลือดออก ต้องติดตาม INR
- ยาคุมกำเนิด: อาจเพิ่มระดับยาคุมในเลือด
- ยารักษาเชื้อรา (เช่น Itraconazole): อาจทำให้ผลตรวจตับผิดปกติ
- ยาลดกรด: รับประทานห่างกันอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เนื่องจากลดการดูดซึม Rosuvastatin
- Niacin หรือ Fenofibrate: ลดขนาดยาเพื่อลดความเสี่ยงกล้ามเนื้อสลาย
- Ritonavir, Lopinavir/Ritonavir, Atazanavir/Ritonavir: ลดขนาดไม่เกิน 10 มก./วัน
การเก็บรักษา
- เก็บที่อุณหภูมิห้อง (15-30°C) ห่างจากแสงแดด ความชื้น และมือเด็ก
การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต
- รับประทานอาหารไขมันต่ำ
- ออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาที/สัปดาห์
- ควบคุมน้ำหนัก เลิกสูบบุหรี่ ลดแอลกอฮอล์
บทสรุป
Rosuvastatin เป็นยาลดคอเลสเตอรอลที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยลด LDL ได้มากถึง 40-60% และป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด ควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ ระวังผลข้างเคียง เช่น ปวดกล้ามเนื้อหรือตับอักเสบ และใช้ควบคู่กับการปรับวิถีชีวิตเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
หมายเหตุ: บทความนี้ให้ข้อมูลทั่วไป ไม่สามารถทดแทนคำแนะนำจากแพทย์ โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหากมีข้อสงสัย
เผยแพร่เมื่อ:
โดย: นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์, แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว