Nicotinic Acid (กรดนิโคตินิก): วิตามินบี 3 เพื่อสุขภาพหัวใจ
เผยแพร่เมื่อ:
โดย: นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์, แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว
บทนำ
Nicotinic Acid หรือที่รู้จักในชื่อ ไนอาซิน (Niacin) เป็นรูปแบบหนึ่งของวิตามินบี 3 ซึ่งเป็นวิตามินที่ละลายในน้ำและมีความสำคัญต่อการทำงานของร่างกายในหลายด้าน ไม่เพียงแต่ช่วยในกระบวนการเผาผลาญพลังงานและบำรุงระบบประสาทเท่านั้น แต่ Nicotinic Acid ยังถูกใช้ในทางการแพทย์เพื่อจัดการระดับไขมันในเลือด โดยช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) และไตรกลีเซอไรด์ พร้อมทั้งเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ซึ่งช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด บทความนี้จะให้ข้อมูลครอบคลุมเกี่ยวกับบทบาท ประโยชน์ แหล่งที่มา วิธีใช้ และข้อควรระวังของ Nicotinic Acid
บทบาทและกลไกการทำงานของ Nicotinic Acid
Nicotinic Acid มีบทบาทสำคัญทั้งในด้านโภชนาการและการรักษาทางการแพทย์:
- เป็นส่วนประกอบของโคเอ็นไซม์: Nicotinic Acid เป็นสารตั้งต้นของโคเอ็นไซม์ NAD (Nicotinamide Adenine Dinucleotide) และ NADP (Nicotinamide Adenine Dinucleotide Phosphate) ซึ่งจำเป็นในกระบวนการเผาผลาญพลังงานของเซลล์ การสังเคราะห์ DNA และ RNA รวมถึงการส่งสัญญาณของเซลล์
- ช่วยในการเผาผลาญพลังงาน: ช่วยเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีนให้เป็นพลังงานที่ร่างกายสามารถใช้ได้
- ลดระดับไขมันในเลือด:
- ลดการผลิต VLDL และ LDL: Nicotinic Acid ยับยั้งการปล่อยกรดไขมันอิสระจากเนื้อเยื่อไขมัน ทำให้ตับผลิต Very-low-density lipoprotein (VLDL) ซึ่งเป็นตัวตั้งต้นของ LDL น้อยลง ส่งผลให้ระดับ LDL-C และไตรกลีเซอไรด์ลดลง
- เพิ่ม HDL-C: กระตุ้นการผลิต Apolipoprotein A-I ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของ HDL ช่วยเพิ่มการกำจัดคอเลสเตอรอลจากหลอดเลือด
- ย่อยสลายไตรกลีเซอไรด์: เพิ่มการทำงานของเอนไซม์ lipoprotein lipase ซึ่งย่อยสลายไตรกลีเซอไรด์ในกระแสเลือด
- ขยายหลอดเลือด: ช่วยลดความดันโลหิตและส่งเสริมการไหลเวียนของเลือด ซึ่งอาจลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือด
- บำรุงระบบประสาท: สนับสนุนการทำงานของระบบประสาท ช่วยในเรื่องอารมณ์ ความจำ และสมาธิ ลดความเสี่ยงของโรคเกี่ยวกับสมอง เช่น อัลไซเมอร์
- บำรุงผิว: ช่วยสร้างและซ่อมแซมเซลล์ผิว ลดการอักเสบ ป้องกันผิวจากแสงแดด และรักษาความชุ่มชื้น ทำให้ผิวพรรณดูกระจ่างใส
- ช่วยย่อยอาหาร: กระตุ้นเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการย่อยอาหาร ช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น

ประโยชน์ของ Nicotinic Acid
Nicotinic Acid มีประโยชน์หลากหลายทั้งในด้านสุขภาพทั่วไปและการรักษา:
- ลดระดับคอเลสเตอรอลและไขมันในเลือด:
- ลด LDL-C ได้ 5-25% ช่วยลดการสะสมของคราบไขมันในหลอดเลือด
- ลดไตรกลีเซอไรด์ได้ 20-50% เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะไตรกลีเซอไรด์สูง (hypertriglyceridemia)
- เพิ่ม HDL-C ได้ 15-35% ซึ่งช่วยกำจัด LDL ออกจากหลอดเลือด
- ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด:
- ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจขาดเลือด (MI), หลอดเลือดสมอง, และหลอดเลือดตีบ (CAD)
- ชะลอการเกิดคราบในหลอดเลือดเมื่อใช้ร่วมกับเรซินจับกรดน้ำดี
- บำรุงระบบประสาท: ช่วยให้ระบบประสาททำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงของโรคเกี่ยวกับสมอง
- บำรุงผิวพรรณ: ลดการอักเสบของผิว รักษาสิว ป้องกันความแห้งกร้าน และส่งเสริมผิวให้กระจ่างใส
- ช่วยย่อยอาหาร: เพิ่มประสิทธิภาพการย่อยและการดูดซึมสารอาหาร
แหล่งที่มาของ Nicotinic Acid
Nicotinic Acid พบได้ในอาหารและอาหารเสริม:
- อาหารที่อุดมด้วย Nicotinic Acid:
- เนื้อสัตว์: ไก่, เนื้อวัว, หมู, ตับ, ปลา (เช่น ทูน่า, แซลมอน)
- ธัญพืช: ข้าวกล้อง, ข้าวโอ๊ต, ขนมปังโฮลวีต
- ถั่วและเมล็ด: ถั่วลิสง, อัลมอนด์
- ผักใบเขียว: ผักโขม, คะน้า, บรอกโคลี
- อาหารเสริม: มีในรูป Nicotinic Acid หรือเป็นส่วนผสมในวิตามินรวม มักใช้ในขนาดสูงเพื่อการรักษา
ปริมาณที่แนะนำและวิธีการใช้
- ปริมาณที่แนะนำต่อวัน (RDA):
- ผู้ชาย (อายุ 19 ปีขึ้นไป): 16 มก./วัน
- ผู้หญิง (อายุ 19 ปีขึ้นไป): 14 มก./วัน
- หญิงตั้งครรภ์: 18 มก./วัน
- หญิงให้นมบุตร: 17 มก./วัน
- เพื่อจัดการไขมันในเลือด:
- Immediate-release: เริ่มที่ 250 มก./วัน รับประทานวันละครั้ง ปรับขนาดทุก 4-7 วันตามผลการรักษาและผลข้างเคียง โดยทั่วไปใช้ 1.5-2 กรัม/วัน แบ่งทุก 6-8 ชั่วโมง ปรับทุก 2-4 สัปดาห์ ไม่เกิน 6 กรัม/วัน
- Extended-release (เช่น NIASPAN): เริ่มที่ 500 มก./วัน รับประทานก่อนนอน เดือนแรกให้ 500 มก./วัน เดือนที่สองเพิ่มเป็น 1000 มก./วัน และค่อย ๆ เพิ่มจนถึง 2000 มก./วัน ตามคำแนะนำของแพทย์
- คำแนะนำ:
- รับประทานพร้อมอาหารเพื่อลดอาการระคายเคืองกระเพาะ
- หากมีอาการหน้าแดงรุนแรง สามารถรับประทานแอสไพริน 325 มก. ก่อนใช้ Nicotinic Acid เพื่อบรรเทาอาการ
ข้อบ่งใช้ทางการแพทย์
- ลดระดับ Total Cholesterol (TC), LDL-C, Apolipoprotein B (Apo B), และไตรกลีเซอไรด์ พร้อมเพิ่ม HDL-C ในผู้ป่วยที่มีภาวะไขมันในเลือดสูงขั้นต้นหรือผิดปกติ
- ลดความเสี่ยงของกล้ามเนื้อหัวใจตายซ้ำในผู้ป่วยที่มีประวัติ MI และภาวะไขมันในเลือดสูง
- ใช้ร่วมกับเรซินจับกรดน้ำดีเพื่อชะลอการเกิดคราบในหลอดเลือดในผู้ป่วย CAD
- เป็นยาเสริมในผู้ป่วยที่มีไตรกลีเซอไรด์สูงและเสี่ยงต่อตับอ่อนอักเสบ ซึ่งไม่ตอบสนองต่อการควบคุมอาหารเพียงอย่างเดียว
- ข้อจำกัด: Nicotinic Acid ชนิด Extended-release ไม่ได้ลดภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบหรือการตายในผู้ป่วยที่ใช้ซิมวาสแตติน
การใช้ Nicotinic Acid ร่วมกับยาอื่น
- Simvastatin: ขนาดของ Nicotinic Acid (เช่น NIASPAN) ไม่ควรเกิน 2000 มก./วัน และ Simvastatin ไม่ควรเกิน 40 มก./วัน เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงของการสลายกล้ามเนื้อ (rhabdomyolysis) และไตวาย
- Cholestyramine: ควรให้ห่างกันอย่างน้อย 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการรบกวนการดูดซึมของยา
- ยาลดความดันโลหิต: Nicotinic Acid อาจเพิ่มผลของยาลดความดัน ระวังอาการความดันต่ำ
- ยาต้านการแข็งตัวของเลือด: อาจเพิ่มความเสี่ยงของเลือดออก ควรใช้ด้วยความระวัง
- ยาเบาหวาน: อาจลดประสิทธิภาพของยาควบคุมน้ำตาล ต้องปรับขนาดยา
ผลข้างเคียงและข้อควรระวัง
Nicotinic Acid ในขนาดต่ำจากอาหารมักปลอดภัย แต่ขนาดสูงอาจมีผลข้างเคียง:
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย:
- หน้าแดง (Flushing): พบใน 70-80% ของผู้ใช้ โดยเฉพาะช่วงเริ่มต้น อาการร้อนวูบวาบหรือผื่นแดงมักลดลงหลัง 1-2 สัปดาห์
- ผื่นคันหรือรู้สึกร้อนที่ผิวหนัง
- อาการทางเดินอาหาร: คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง
- ปวดศีรษะ
ผลข้างเคียงที่รุนแรง (พบน้อย):
- ความเสียหายของตับ (ในขนาด >2-3 กรัม/วัน) อาจทำให้ค่าเอนไซม์ตับสูง
- ระดับน้ำตาลในเลือดสูง อาจส่งผลต่อผู้ป่วยเบาหวาน
- กรดยูริกสูง เพิ่มความเสี่ยงโรคเกาต์
- กล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือสลายกล้ามเนื้อ (Myopathy, Rhabdomyolysis) โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับสแตติน
ข้อควรระวัง:
- ผู้ที่มีโรคตับ, แผลในกระเพาะ, โรคเบาหวาน, โรคเกาต์ หรือดื่มสุรามาก ควรใช้ด้วยความระวัง
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์หรือเครื่องดื่มร้อนขณะใช้ เนื่องจากอาจเพิ่มอาการหน้าแดง
- หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตรควรใช้ในขนาด RDA ไม่ควรใช้ขนาดสูงเว้นแต่แพทย์อนุญาต
- ตรวจค่าเอนไซม์ตับและระดับน้ำตาลเป็นระยะเมื่อใช้ในขนาดสูง
- อาจเพิ่มความเสี่ยงเลือดออกเมื่อใช้ร่วมกับยาต้านการแข็งตัวของเลือด
ข้อห้ามใช้
- ผู้ที่แพ้ Nicotinic Acid หรือส่วนประกอบ
- ผู้ที่มีโรคตับรุนแรงหรือผลการตรวจเลือดผิดปกติ (ค่าเอนไซม์ตับสูงโดยไม่ทราบสาเหตุ)
- ผู้ที่มีแผลในกระเพาะอาหารหรือลำไส้รุนแรง
- ผู้ที่มีเลือดออกจากหลอดเลือดแดง
สรุป
Nicotinic Acid หรือกรดนิโคตินิก เป็นวิตามินบี 3 ที่มีประโยชน์หลากหลาย ไม่เพียงแต่ช่วยในการเผาผลาญพลังงาน บำรุงระบบประสาท และดูแลผิวพรรณ แต่ยังมีประสิทธิภาพในการจัดการระดับไขมันในเลือด ลด LDL และไตรกลีเซอไรด์ เพิ่ม HDL และป้องกันโรคหัวใจ อย่างไรก็ตาม การใช้ในขนาดสูงเพื่อการรักษาควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง เช่น หน้าแดงหรือความเสียหายของตับ การรับประทานอาหารที่อุดมด้วย Nicotinic Acid เช่น เนื้อสัตว์ ปลา และธัญพืช ร่วมกับการปรับวิถีชีวิต จะช่วยส่งเสริมสุขภาพอย่างยั่งยืน
หมายเหตุ: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลทั่วไป ไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ Nicotinic Acid โดยเฉพาะในขนาดสูง
fgnd;gklmnd;lgkd
dslksihshn;asoij
sdlhshuuish
ยาลดไขมัน Nicotinic acid (วิตามินบี 3): ประโยชน์ต่อสุขภาพและโคเลสเตอรอล
กรดนิโคตินิก (Nicotinic acid) : ประโยชน์หลากหลาย นอกเหนือจากการเป็นวิตามินบี3
กรดนิโคตินิก เป็นชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งของ ไนอาซิน (Niacin) หรือที่เรารู้จักกันในนาม วิตามินบี3 เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำได้ มีความสำคัญต่อการทำงานของร่างกายในหลากหลายด้าน
บทบาทของกรดนิโคตินิก
กรดนิโคตินิกมีบทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพโดยรวม โดยทำหน้าที่หลักๆ ดังนี้
- เป็นส่วนประกอบของโคเอนไซม์: กรดนิโคตินิกเป็นสารตั้งต้นของโคเอนไซม์ NAD และ NADP ซึ่งมีบทบาทสำคัญในกระบวนการเผาผลาญพลังงานของเซลล์ การสังเคราะห์ DNA และ RNA และการส่งสัญญาณของเซลล์
- ช่วยในการเผาผลาญ: กรดนิโคตินิกช่วยในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน เพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงาน
- บำรุงระบบประสาท: กรดนิโคตินิกมีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาท ส่งผลต่ออารมณ์ ความจำ และสมาธิ
- รักษาสุขภาพผิว: กรดนิโคตินิกช่วยในการสร้างและซ่อมแซมเซลล์ผิวหนัง ลดการอักเสบ และป้องกันผิวจากแสงแดด
- ลดระดับไขมันในเลือด: กรดนิโคตินิกในปริมาณสูงสามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และไตรกลีเซอไรด์ และเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ซึ่งมีส่วนช่วยในการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด
แหล่งอาหารที่อุดมด้วยกรดนิโคตินิก
เราสามารถได้รับกรดนิโคตินิกจากอาหารต่างๆ ดังนี้
- เนื้อสัตว์: เช่น เนื้อไก่ เนื้อปลา เนื้อวัว ตับ
- ธัญพืช: เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ขนมปังโฮลวีต
- ถั่ว: เช่น ถั่วลิสง อัลมอนด์
- ผักใบเขียว: เช่น ผักโขม คะน้า
ปริมาณกรดนิโคตินิกที่แนะนำต่อวัน
ปริมาณกรดนิโคตินิกที่แนะนำต่อวันแตกต่างกันไปตามเพศและวัย โดยทั่วไป
- ผู้ชาย: 16 มิลลิกรัม
- ผู้หญิง: 14 มิลลิกรัม
- หญิงตั้งครรภ์: 18 มิลลิกรัม
- หญิงให้นมบุตร: 17 มิลลิกรัม
วิธีการใช้ยา และขนาดของยา
- ขนาดที่ใช้ 500มก-2000 มก ต่อวัน
- ในช่วงเดือนที่1จะให้ขนาด 500 มก ก่อนนอน
- เดือนที่2 จะให้ 1000 มก ต่อวัน ก่อนอนและเพิ่มจนครบ 2000 มก ก่อนนอน
- หากมีอาการร้อนตามตัวมากก็สามารถให้ aspirin 325 mg ก่อนให้ยา Nicotinic acid
การใช้ยา Nicotinic acid ร่วมกับยาชนิดอื่น
- simvastatin ซึ่งเป็นยาลดไขมันหากใช้ร่วมกันขนาดยา NIASPAN ไม่ควรจะเกิน 2000 มก ต่อวัน และ simvastatin ไม่ควรเกิน 40 มก ต่อวัน เพราะอาจจะทำให้เกิดการสลายของกล้ามเนื้อและเกิดไตวาย
- cholestylamine ซึ่งเป็นยาลดไขมัน การให้ยาทั้งสองชนิดจะต้องห่างกันอย่างน้อย 4 ชั่วโมงเพราะจะรบกวนการดูดซึมของยา
- ยาลดความดันโลหิต ยา Nicotinic acid อาจจะทำให้ความดันโลหิตต่ำในรายที่ได้รับยาลดความดันโลหิต
ข้อควรระวังในการใช้ยาNicotinic acid
- ยา Nicotinic acid ร่วมกับ simvastatin เพราะจะทำให้เกิดกล้ามเนื้อสลาย
- ต้องให้ด้วยความระมัดระวังในผู้ที่มีโรคตับ หรือดื่มสุรามาก
- ยา Nicotinic acid อาจจะทำให้ระดับน้ำตาลสูงขึ้น กรดยูริกสูงขึ้น
- เมื่อให้ยานี้ร่วมยาต้านการแข็งตัวของเลือดอาจจะทำให้เลือดออกง่ายขึ้น
ข้อห้ามในการใช้ยาNicotinic acid
- โรคตับ และมีผลการตรวจเลือดผิดปกติ
- กำลังเป็นโรคกระเพาะ
- มีเลือดออกจากหลอดเลือดแดง
- แพ้ยา Nicotinic acid
ประโยชน์ของ Nicotinic Acid ในการดูแลสุขภาพ
1. ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
Nicotinic acid เป็นที่รู้จักในฐานะสารที่มีประสิทธิภาพในการลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และไตรกลีเซอไรด์ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่อาจทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ที่ช่วยป้องกันการสะสมของไขมันในหลอดเลือด
2. ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด
การใช้ Nicotinic acid ในการลดไขมันในเลือดและควบคุมระดับคอเลสเตอรอลสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ หลอดเลือดตีบ และความดันโลหิตสูง
3. ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบประสาท
Nicotinic acid มีบทบาทในการบำรุงและเสริมสร้างระบบประสาท ช่วยให้ระบบประสาททำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเกี่ยวกับสมอง เช่น อัลไซเมอร์
4. บำรุงผิวพรรณ
Nicotinic acid มีส่วนช่วยในการบำรุงผิวหนัง โดยเฉพาะในการรักษาความชุ่มชื้นของผิว ช่วยลดการอักเสบและป้องกันสิว ทำให้ผิวพรรณดูกระจ่างใสและสุขภาพดี
5. ช่วยในการย่อยอาหาร
Nicotinic acid ช่วยกระตุ้นเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการย่อยอาหาร ทำให้ร่างกายสามารถย่อยและดูดซึมสารอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผลข้างเคียงและข้อควรระวัง
การรับประทานกรดนิโคตินิกในปริมาณสูง อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น
- อาการหน้าแดง: เป็นผลข้างเคียงที่พบบ่อยอาการร้อนวูบวาบ ผื่นแดงบนผิวหนัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเริ่มรับประทานกรดนิโคตินิกใหม่ๆ
- อาการทางเดินอาหาร: เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย
- ผลต่อตับ: การรับประทานกรดนิโคตินิกในปริมาณสูงเป็นเวลานาน อาจส่งผลต่อการทำงานของตับ
- ปวดศีรษะ คลื่นไส้
- ปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร เช่น ปวดท้อง
- การทำงานของตับผิดปกติ ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนเริ่มใช้ Nicotinic acid โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องการใช้ในปริมาณสูงเพื่อลดระดับคอเลสเตอรอลหรือไขมันในเลือด
ผู้ป่วยโรคตับ โรคเบาหวาน โรคเกาต์ หรือผู้ที่มีประวัติแพ้ยา ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานกรดนิโคตินิก
กรดนิโคตินิกอาจมีปฏิกิริยากับยาบางชนิด เช่น ยาลดคอเลสเตอรอล ยาลดความดันโลหิต ดังนั้นควรแจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาที่กำลังรับประทานอยู่
หมายเหตุ
- บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลความรู้ทั่วไปเท่านั้น ไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพได้
- ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทานกรดนิโคตินิกเสริม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีโรคประจำตัวหรือกำลังรับประทานยาอื่นๆอยู่
ข้อควรระวังในการใช้ Nicotinic Acid
1. ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับควรระมัดระวังในการใช้ Nicotinic acid เนื่องจากการใช้ในปริมาณสูงอาจส่งผลกระทบต่อตับ
2. ควรแจ้งแพทย์หากใช้ยาที่อาจมีปฏิกิริยากับ Nicotinic acid เช่น ยารักษาโรคเบาหวานหรือยาลดความดันโลหิต
3. หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตรควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ Nicotinic acid ในปริมาณที่สูง
สรุป
Nicotinic acid เป็นวิตามินที่มีบทบาทสำคัญในการลดระดับไขมันในเลือดและป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนั้นยังช่วยบำรุงระบบประสาทและผิวพรรณ การใช้ Nicotinic acid เพื่อประโยชน์ในการลดคอเลสเตอรอลควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
ทบทวนวันที่
โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว
