siamhealth

หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ

Sitagliptin: คู่มือการใช้งานและข้อมูลสำคัญสำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2

เผยแพร่เมื่อ: 26 กรกฎาคม 2568, 21:03 น. โดย: นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร, อายุรแพทย์, แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว

บทความนี้จะให้ข้อมูลที่ครบถ้วนและสำคัญเกี่ยวกับยา Sitagliptin ซึ่งเป็นยาสำหรับรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้ป่วยและบุคคลทั่วไปมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับยานี้ สามารถใช้ยาได้อย่างปลอดภัย และทราบถึงข้อควรระวังต่างๆ ที่สำคัญ การมีความรู้เกี่ยวกับยาที่คุณใช้จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น


1. Sitagliptin คืออะไร?

Sitagliptin (ซิตากลิปติน) เป็นยารับประทานในกลุ่ม Dipeptidyl Peptidase-4 (DPP-4) Inhibitors หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า "Gliptins" ใช้สำหรับรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในผู้ใหญ่ ยานี้ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดเมื่อใช้ร่วมกับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย Sitagliptin มักใช้เป็นยาเดี่ยว หรือใช้ร่วมกับยาเบาหวานอื่นๆ เช่น Metformin, Sulfonylureas, หรือ Insulin ในประเทศไทย มีจำหน่ายในชื่อการค้า เช่น Januvia ยานี้มีข้อดีที่สำคัญคือ โดยทั่วไปไม่ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยที่กังวลเรื่องน้ำหนัก


2. กลไกการออกฤทธิ์: Sitagliptin ทำงานอย่างไร?

Sitagliptin ออกฤทธิ์โดยกลไกที่เฉพาะเจาะจงเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดดังนี้:

การออกฤทธิ์ของ Sitagliptin ขึ้นอยู่กับระดับน้ำตาลในเลือด จึงมีความเสี่ยงต่อภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia) น้อยมากเมื่อใช้เป็นยาเดี่ยว ยานี้ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดตอนเช้า (Fasting Plasma Glucose: FPG) และลดระดับน้ำตาลสะสม (HbA1c) ลงได้ประมาณ 0.5-0.8%


3. ยานี้ใช้รักษาโรคอะไร?

Sitagliptin ใช้สำหรับ:

ข้อสำคัญ: Sitagliptin ไม่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 (Type 1 Diabetes Mellitus) หรือผู้ป่วยที่มีภาวะเลือดเป็นกรดรุนแรงจากเบาหวาน (Diabetic Ketoacidosis)


4. ขนาดและรูปแบบยาที่แนะนำ

รูปแบบยา: ยาเม็ดสำหรับรับประทาน มีจำหน่ายในขนาด 25 มิลลิกรัม (mg), 50 มิลลิกรัม (mg), และ 100 มิลลิกรัม (mg)

ขนาดยาที่ใช้:

ข้อแนะนำในการรับประทานยา:

หมายเหตุ: ขนาดยาที่เหมาะสมจะต้องได้รับการปรับโดยแพทย์ผู้รักษาตามระดับน้ำตาลในเลือด การทำงานของไต และการตอบสนองของผู้ป่วยแต่ละราย ห้ามปรับขนาดยาเองเด็ดขาด


5. ข้อแนะนำในการรับประทานยาเพิ่มเติม


6. ข้อห้ามในการใช้ยา

Sitagliptin มีข้อห้ามใช้ในผู้ป่วยบางกลุ่มดังนี้:


7. ข้อควรระวังในการใช้ยา

ควรใช้ Sitagliptin ด้วยความระมัดระวังในผู้ป่วยบางราย:


8. ระหว่างที่ใช้ยาจะต้องระวังอาการหรือการตรวจพิเศษอะไร?

อาการที่ต้องเฝ้าระวังและควรพบแพทย์ทันที:

sitagliptin

การตรวจพิเศษ:


9. โรคหรือยาอื่นๆ ที่มีผลต่อการใช้ยา Sitagliptin

สิ่งสำคัญคือ ต้องแจ้งรายการยา วิตามิน อาหารเสริม และสมุนไพรทั้งหมดที่คุณกำลังใช้ให้แพทย์และเภสัชกรทราบเสมอ


10. ผลข้างเคียงหรือไม่พึงประสงค์ของยา

ผลข้างเคียงที่พบบ่อย:

ผลข้างเคียงที่พบน้อยแต่รุนแรง:

หากพบอาการรุนแรง เช่น ปวดท้องรุนแรง อาเจียน ผื่นรุนแรง หายใจลำบาก หรือบวมน้ำ ให้หยุดยาและพบแพทย์ทันที


11. วิธีลดหรือป้องกันผลข้างเคียง


12. หากรับประทานยาเกินขนาดต้องทำอย่างไร?

หากรับประทานยา Sitagliptin เกินขนาดและมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดท้อง, คลื่นไส้, มึนงง, วิตกกังวล หรือมีอาการของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำรุนแรง (เช่น สับสน, ชัก) วิธีแก้ไข: ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที หรือติดต่อโรงพยาบาล/ศูนย์พิษวิทยาเพื่อขอคำแนะนำ แพทย์อาจพิจารณาการรักษาตามอาการ และอาจต้องมีการฟอกไตในบางกรณีเพื่อกำจัดยา


13. หากลืมใช้ยาต้องทำอย่างไร?


14. การเก็บรักษายา


15. สรุป

Sitagliptin เป็นยาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โดยการเพิ่มระดับฮอร์โมนอินครีติน ซึ่งช่วยเพิ่มการหลั่งอินซูลินและลดการสร้างกลูโคสจากตับ การออกฤทธิ์ที่ขึ้นอยู่กับระดับน้ำตาลทำให้มีความเสี่ยงต่อภาวะน้ำตาลต่ำน้อยเมื่อใช้เป็นยาเดี่ยว และไม่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น การใช้ยา Sitagliptin ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ โดยเฉพาะในผู้ที่มีประวัติตับอ่อนอักเสบหรือโรคไต ควรมีการตรวจการทำงานของไตและติดตามอาการอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งปรับพฤติกรรมการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย เพื่อให้การรักษาปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด


วันที่เรียบเรียง: 26 กรกฎาคม 2568 ผู้เรียบเรียง: นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร, อายุรแพทย์, แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว

 

เพิ่มเพื่อน