
หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ
บทนำ ภาวะเลือดเป็นกรดจากคีโตน หรือ Diabetic Ketoacidosis (DKA) คือภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลันที่รุนแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งเกิดจากการที่ร่างกายขาดฮอร์โมนอินซูลินอย่างรุนแรง DKA เป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่พบบ่อยในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 และอาจเป็นอาการแสดงแรกที่นำไปสู่การวินิจฉัยโรค การทำความเข้าใจสาเหตุ อาการเตือน และวิธีป้องกันที่ถูกต้อง คือสิ่งสำคัญที่สุดในการหลีกเลี่ยงภาวะวิกฤตนี้
เมื่อร่างกายขาดอินซูลินอย่างสิ้นเชิง เซลล์ต่างๆ จะไม่สามารถนำน้ำตาลกลูโคสในเลือดไปใช้เป็นพลังงานได้ ร่างกายจึงต้องหาพลังงานจากแหล่งอื่นโดยการ สลายไขมันที่เก็บสะสมไว้ออกมาใช้แทน กระบวนการสลายไขมันนี้จะสร้างสารที่เป็นผลพลอยได้คือ "คีโตน (Ketone)" ซึ่งมีความเป็นกรดสูง
เมื่อคีโตนถูกผลิตออกมาในปริมาณมากและสะสมในกระแสเลือด จะทำให้เลือดมีภาวะเป็นกรดรุนแรง ซึ่งรบกวนการทำงานของอวัยวะสำคัญทั่วร่างกายและนำไปสู่อาการต่างๆ ที่เป็นอันตราย
ภาวะ DKA มักมีปัจจัยกระตุ้นที่ชัดเจน การทราบปัจจัยเหล่านี้คือขั้นตอนแรกของการป้องกัน:
การขาดยาอินซูลิน: เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด อาจเกิดจากการลืมฉีด, ปรับลดขนาดยาเอง, หรืออินซูลินปั๊มมีปัญหา
การเจ็บป่วยหรือการติดเชื้อ: เช่น ปอดอักเสบ, การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ, หรือแม้แต่ไข้หวัดใหญ่ ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนความเครียดซึ่งต้านฤทธิ์อินซูลิน ทำให้ต้องการอินซูลินมากขึ้น
การวินิจฉัยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ครั้งแรก: ผู้ป่วยจำนวนมากไม่ทราบว่าตนเองเป็นโรค จนกระทั่งเกิดภาวะ DKA
ภาวะเครียดรุนแรงทางร่างกาย: เช่น อุบัติเหตุ, การผ่าตัดใหญ่, หรือโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
ยาบางชนิด: เช่น ยาสเตียรอยด์ (Corticosteroids) หรือยาเบาหวานกลุ่ม SGLT2 inhibitors ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะ DKA ได้แม้น้ำตาลในเลือดไม่สูงมาก (Euglycemic DKA)
อาการของ DKA มักเกิดขึ้นและรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงถึงหนึ่งวัน สัญญาณเตือนที่สำคัญได้แก่:
ระดับน้ำตาลในเลือดสูง: โดยทั่วไปสูงกว่า 250 มก./ดล.
กระหายน้ำมากและปัสสาวะบ่อยผิดปกติ
คลื่นไส้ อาเจียน และปวดท้อง (พบได้บ่อยมาก)
หายใจหอบลึก และมีกลิ่นลมหายใจคล้ายผลไม้สุกหรือน้ำยาล้างเล็บ (กลิ่นอะซิโตน) ซึ่งเป็นอาการเฉพาะของภาวะนี้
อ่อนเพลียมาก, ผิวแห้ง, ซึมลง, สับสน และอาจหมดสติได้หากไม่ได้รับการรักษา
การวินิจฉัย DKA จะใช้เกณฑ์ 3 ข้อหลักร่วมกัน คือ:
ระดับน้ำตาลในเลือดสูง (≥ 250 มก./ดล.)
ตรวจพบคีโตนในเลือดหรือปัสสาวะ
เลือดมีภาวะเป็นกรด (pH < 7.3 หรือ Bicarbonate < 18 mmol/L)
การรักษา DKA เป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่ ต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาลทันที หลักการรักษาคือการแก้ไขภาวะขาดน้ำและเกลือแร่, การให้สารน้ำทางหลอดเลือด, การให้อินซูลินเพื่อหยุดการสร้างคีโตนและลดระดับน้ำตาลในเลือด, และการรักษาปัจจัยกระตุ้น
การป้องกัน: การดูแลตนเองเมื่อเจ็บป่วย (Sick Day Management) การป้องกันที่ดีที่สุดคือการจัดการเบาหวานอย่างถูกต้องในวันที่คุณเจ็บป่วย:
ห้ามหยุดฉีดอินซูลินเด็ดขาด: แม้ว่าจะรับประทานอาหารไม่ได้ ร่างกายยังต้องการอินซูลินเพื่อต่อสู้กับความเจ็บป่วย
ตรวจระดับน้ำตาลให้บ่อยขึ้น: ควรตรวจทุก 2-4 ชั่วโมง
ตรวจหาคีโตน: หากระดับน้ำตาลสูงกว่า 250 มก./ดล. ควรตรวจหาคีโตนในปัสสาวะหรือเลือดทันที
ดื่มน้ำให้เพียงพอ: ดื่มน้ำเปล่าหรือเครื่องดื่มไม่มีน้ำตาลบ่อยๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
รับประทานอาหาร: พยายามรับประทานอาหารอ่อนๆ ที่มีคาร์โบไฮเดรต เช่น โจ๊ก หรือซุป
ควรไปพบแพทย์เมื่อใด? ควรรีบไปพบแพทย์หรือโรงพยาบาลทันทีหาก:
มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือปวดท้องรุนแรง
ตรวจพบคีโตนในปัสสาวะในระดับปานกลางถึงสูง
ระดับน้ำตาลในเลือดยังคงสูงมากแม้จะฉีดอินซูลินเพิ่มแล้ว
มีไข้สูง หรืออาการเจ็บป่วยไม่ดีขึ้น
111111
คืออะไรเป็นภาวะฉุกเฉินที่พบบ่อย โดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่หนึ่ง ภาวะนี้เกิดจากการเสียสมดุลของอินซูลิน ซึ่งอาจจะขาดหรือน้อยไป กับฮอร์โมนต้านฤทธิ์อินซูลิน เช่น glucagon steroid และ catecholamine สูงขึ้นทำให้ผู้ป่วยเกิดภาวะระดับน้ำตาลสูง และภาวะกรดในเลือด และมีการคั่งของคีโตนในเลือด คีโตนนี้เป็นกรดจะตรวจพบในปัสสาวะหากว่าอินซูลินไม่พอ และเบาหวานควบคุมไม่ดี
ปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดมีอะไรบ้าง
ปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดภาวะนี้ได้แก่โรคหรือภาวะความเครียดที่เกิดขึ้น เช่น
หากยังไม่ได้รับการรักษาจะเกิดอาการต่อมา
จากอาการดังกล่าวร่วมกับการตรวจดังนี้
หลักการรักษาคือขจัดสิ่งทีชักจูง และชดเชยสิ่งที่ขาด ได้แก่
ภาวะนี้สามารถป้องกันได้โดยให้ความรู้ ผู้ป่วยควรได้รับคำแนะนำว่าเมื่อมีอาการปัสสาวะมากขึ้น คอแห้งกระหายน้ำจะต้องตรวจหาน้ำตาลในเลือดหรือปัสสาวะทันที ถ้าน้ำตาลในเลือดสูงกว่า 300 มก./ดล หรือน้ำตาลในปัสสาวะ 3+ จะต้องทดสอบหาคีโตนในปัสสาวะทันที ถ้าตรวจพบคีโตนแล้วยังไม่เกิดอาการอื่นโดยเฉพาะคลื่นไส้อาเจียน ให้ดื่มน้ำมากๆ และเพิ่มยาฉีดชนิดออกฤทธิ์เร็ว 6-12 ยูนิตแล้วสังเกตุ 4-6 ชมโดยการตรวจน้ำตาล ถ้าเกิน 240 มก.%ให้ตรวจหาคีโตนถ้าไม่ดีขึ้นรีบพบแพทย์ ข้อสำคัญถ้าน้ำตาลในเลือดมากกว่า 240 มก.% และตรวจพบคีโตนในปัสสาวะห้ามออกกำลังกาย
คีโตนเกิดจากการเผาผลาญไขมันเนื่องมาจากร่างกายไม่สามารถใช้น้ำตาลกลูโคสเป็นพลังงาน การพบคีโตนในเลือดแดงแสดงถึง
ภาวะคีโตซีส | ภาวะหมดสติจากน้ำตาลสูง | ภาวะน้ำตาลต่ำ
| ภาวะฉุกเฉินในผู้ป่วยเบาหวาน |
โรคแทรกซ้อนจากเบาหวาน
โรคแทรกซ้อน | ภาวะฉุกเฉิน | โรคหัวใจ | โรคความดันโลหิตสูง| โรคไต | โรคตา | โรคปลายประสาทอักเสบ | โรคเบาหวานกับเท้า