Repaglinide: คู่มือการรักษาเบาหวานประเภท 2 อย่างครบถ้วน
เผยแพร่เมื่อ: 5 กรกฎาคม 2568, 16:15 น.
โดย: นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร, อายุรแพทย์, แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว
การรักษาเบาหวานมุ่งเน้น เพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือดให้ใกล้เคียงปกติ
และป้องกันโรคแทรกซ้อนในระยะยาว
ในการรักษาเบาหวานมีหลักการที่สำคัญคือการควบคุมอาหาร และการออกกำลังกาย
การรักษาจะไม่ได้ผลหากผู้ป่วยมาคุมอาหารหรือออกกำลังกาย ปัจจุบันการรักษาด้วยยา ได้รับความนิยมใช้ในการรักษาโรคเบาหวานชนิดที่สอง
1. ยานั้นคืออะไร
Repaglinide เป็นยารับประทานในกลุ่ม meglitinides ใช้รักษาเบาหวานประเภท 2 โดยกระตุ้นตับอ่อนให้หลั่งอินซูลินอย่างรวดเร็ว
2. กลไกการออกฤทธิ์
Repaglinide กระตุ้นช่องไอออนโพแทสเซียมในเซลล์เบต้าของตับอ่อน กระตุ้นการหลั่งอินซูลินภายใน 15-30 นาทีหลังรับประทาน ลดน้ำตาลหลังอาหาร ด้วยระยะเวลาออกฤทธิ์สั้น (3-6 ชั่วโมง) จึงลดความเสี่ยงภาวะน้ำตาลต่ำ
3. ยานี้ใช้รักษาโรคอะไร
-
รักษาเบาหวานประเภท 2 ที่ควบคุมด้วยอาหารและการออกกำลังกายไม่เพียงพอ
-
ใช้ร่วมกับ Metformin เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลเพิ่มเติม
-
ป้องกันภาวะแทรกซ้อนระยะยาว เช่น โรคหัวใจและไต
4. ตัวอย่างยาและขนาดยาที่ใช้
-
รูปแบบยา: ยาเม็ด (0.5 มก., 1 มก., 2 มก., 4 มก.)
-
ขนาดยาที่ใช้:
-
ผู้ไม่เคยใช้ยา (HbA1c <8%): เริ่ม 0.5 มก. ก่อนอาหาร 3 มื้อ
-
ผู้เคยใช้ยา (HbA1c >8%): เริ่ม 1-2 มก. ก่อนอาหาร 3 มื้อ
-
สูงสุด: 4 มก. ก่อนอาหาร 3 มื้อ (12 มก./วัน)
-
หมายเหตุ: ปรับขนาดโดยแพทย์ตามระดับน้ำตาล
5. ข้อแนะนำในการรับประทานยา
-
รับประทาน 15-30 นาทีก่อนมื้ออาหาร
-
ข้ามยาหากลืมกินมื้อนั้น
-
ควบคุมอาหารและออกกำลังกายควบคู่
-
พบแพทย์ทุก 3 เดือนเพื่อตรวจ HbA1c
6. ข้อห้ามในการใช้ยา
7. ข้อระวังในการใช้ยา
-
ระวังภาวะน้ำตาลต่ำเมื่อใช้ร่วมกับยาอื่น
-
แจ้งแพทย์หากมีโรคตับ/ไต หรือใช้ยาอื่น (เช่น Statins)
-
ตรวจระดับน้ำตาลบ่อยในช่วงเริ่มยา
8. ระหว่างที่ใช้ยาจะต้องระวังอาการหรือการตรวจพิเศษอะไร
-
อาการที่ต้องระวัง: ลมพิษ, หายใจลำบาก, บวมหน้า/ลิ้น/คอ, ชัก, ตัวเหลือง, ปัสสาวะเข้ม, ไข้, ผื่น
-
การตรวจพิเศษ: HbA1c ทุก 3 เดือน, ระดับตับ (ALT, AST), ไต (Creatinine)
9. มีโรคหรือยาอื่นๆ ที่มีผลต่อการใช้ยามีอะไรบ้าง
-
โรค: โรคตับ/ไตรุนแรงเพิ่มความเสี่ยงผลข้างเคียง
-
ยาที่มีผล: Gemfibrozil, Rifampicin (รบกวนการเผาผลาญยา)
10. ผลข้างเคียงหรือไม่พึงประสงค์ของยา
-
พบบ่อย: ภาวะน้ำตาลต่ำ (เหงื่อ, สั่น), คลื่นไส้
-
รุนแรง: ชัก, ปวดท้องร้าวหลัง, ตัวเหลือง, ไข้, ผื่น หยุดยาและพบแพทย์ทันที
11. วิธีลดหรือป้องกันผลข้างเคียงของยา
12. หากได้รับยาเกินขนาดต้องทำอย่างไร
-
อาการ: ภาวะน้ำตาลต่ำรุนแรง (สับสน, ชัก), อาเจียน
-
วิธีแก้ไข: รีบพบแพทย์ อาจต้องให้กลูโคสทางหลอดเลือด
13. หากลืมใช้ยาต้องทำอย่างไร
14. การเก็บยา
-
เก็บในอุณหภูมิห้อง (15-30°C), ปิดภาชนะให้สนิท
-
หลีกเลี่ยงความชื้นและแสงแดด, พ้นมือเด็ก
15. สรุป
Repaglinide เป็นยาที่ออกฤทธิ์เร็วช่วยลดน้ำตาลหลังอาหารในเบาหวานประเภท 2 โดยกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน การใช้ยาควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เพื่อป้องกันภาวะน้ำตาลต่ำและผลข้างเคียงรุนแรง
โรคเบาหวาน
โรคเบาหวาน | อาการโรคเบาหวาน | การวินิจฉัย | การคัดกรอง | ชนิดของเบาหวาน | หลักการรักษา | โรคแทรกซ้อน | เป้าหมายในการควบคุมเบาหวาน | การติดตามและการประเมิน | การป้องกันโรคเบาหวาน