น้ำมันมะกอก: คุณสมบัติ สารอาหาร และประโยชน์ต่อสุขภาพ
บทนำ
น้ำมันมะกอกเป็นน้ำมันที่สกัดจากผลมะกอก ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารเมดิเตอร์เรเนียน น้ำมันนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพมากที่สุด เนื่องจากอุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว วิตามินอี และสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย น้ำมันมะกอกช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ บำรุงผิวพรรณ และอาจมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง ด้วยรสชาติที่เข้มข้นและกลิ่นหอม น้ำมันมะกอกยังเหมาะสำหรับการปรุงอาหารหลากหลายรูปแบบ บทความนี้จะเจาะลึกถึงคุณสมบัติ สารอาหาร กระบวนการผลิต และประโยชน์ของน้ำมันมะกอก
คุณสมบัติของน้ำมันมะกอก
น้ำมันมะกอกมีคุณสมบัติที่โดดเด่น:
- จุดเกิดควัน: น้ำมันมะกอก Extra Virgin มีจุดเกิดควันประมาณ 190-210°C เหมาะสำหรับการปรุงอาหารที่ใช้ความร้อนปานกลาง เช่น ผัดหรือทำน้ำสลัด
- รสชาติและกลิ่น: มีรสชาติเข้มข้น กลิ่นหอมผลไม้ และอาจมีรสเผ็ดเล็กน้อยขึ้นอยู่กับชนิด
- สี: มีสีเขียวมรกตถึงเหลืองทอง ขึ้นอยู่กับกระบวนการสกัดและความบริสุทธิ์
ข้อมูลโภชนาการ
น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ (14 กรัม) ประกอบด้วย:
- แคลอรี่: 120
- โปรตีน: 0 กรัม
- ไขมัน: 14 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต: 0 กรัม
- ไฟเบอร์: 0 กรัม
- น้ำตาล: 0 กรัม
ส่วนประกอบของน้ำมันมะกอก
กรดไขมัน
สรุป
น้ำมันมะกอกอุดมไปด้วยกรดโอเลอิกไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวกรดไขมัน
นี้มีคุณประโยชน์มากมายและเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพในการ
ปรุงอาหาร
วิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ
- วิตามินอี: เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย
- วิตามินเค: ช่วยในกระบวนการแข็งตัวของเลือด
- โพลีฟีนอล (Polyphenols): สารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและอาจป้องกันมะเร็ง
- สควาลีน (Squalene): ช่วยบำรุงผิวและอาจมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง
สรุป
น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่ง
บางชนิดมี ผลกระทบทางชีวภาพที่ทรงพลัง
กระบวนการผลิตน้ำมันมะกอก
น้ำมันมะกอกผลิตจากผลมะกอก โดยมีขั้นตอนดังนี้:
- เก็บเกี่ยวผลมะกอกเมื่อสุกเต็มที่
- ล้างและบดผลมะกอกให้เป็นเนื้อครีม (Olive Paste)
- สกัดน้ำมันโดยการกดเย็น (Cold-Pressed) เพื่อให้ได้น้ำมันมะกอก Extra Virgin
- กรองน้ำมันเพื่อให้ได้น้ำมันที่บริสุทธิ์
น้ำมันมะกอก Extra Virgin ที่สกัดเย็นจะคงคุณค่าทางโภชนาการและรสชาติได้ดีที่สุด
ประโยชน์ต่อสุขภาพ
สุขภาพหัวใจ
- ลดคอเลสเตอรอล: กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวช่วยลดคอเลสเตอรอล LDL (ร้าย) และเพิ่มคอเลสเตอรอล HDL (ดี)
- ควบคุมความดันโลหิต: โพลีฟีนอลช่วยลดความดันโลหิตและป้องกันโรคหัวใจ
- ต้านอนุมูลอิสระ: วิตามินอีและโพลีฟีนอลช่วยลดความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน ลดความเสี่ยงของหลอดเลือดอุดตัน
- ช่วยลดการอักเสบ
- ปรับปรุงเยื่อบุหลอดเลือดของคุณ
- และอาจช่วยป้องกันการแข็งตัวของเลือดมากเกินไป
น้ำมันมะกอกอาจช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง
น้ำมันมะกอกเป็นแหล่งไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวเพียงแหล่งเดียว ที่เกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองและโรคหัวใจ ในการทบทวนอีกครั้งในผู้เข้าร่วม 140,000 คน ผู้ที่บริโภคน้ำมันมะกอกมีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองน้อยกว่ามาก ผู้ที่ไม่ได้
ต้านการอักเสบ
โพลีฟีนอลในน้ำมันมะกอกมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ช่วยลดการอักเสบในร่างกายและอาจลดอาการปวดข้อ น้ำมันมะกอกสามารถช่วยลดอาการปวดข้อและบวมจากโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ได้ ผลประโยชน์จะเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อใช้ร่วมกับน้ำมันปลา
อาจมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง
โพลีฟีนอลและสควาลีนมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านมและลำไส้ใหญ่
สุขภาพผิวและเส้นผม
วิตามินอีและสควาลีนช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ลดริ้วรอย และปกป้องผิวจากรังสียูวี น้ำมันมะกอกยังช่วยบำรุงเส้นผมให้เงางาม
สนับสนุนการย่อยอาหาร
น้ำมันมะกอกช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำดี ช่วยย่อยไขมัน และอาจลดอาการท้องผูก
น้ำมันมะกอกอาจต่อสู้กับโรคอัลไซเมอร์ได้
น้ำมันมะกอกแต่ละชนิดเหมือนกันหรือไม่
น้ำมันมะกอก Extra virgin จะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และสาร polyphenols ซึ่งจะลดการอักเสบและการเกิดโรค สารเหล่านี้จะมีมากในน้ำมันที่สด เมื่อเวลาผ่านไปน้ำมันที่สัมผัส ความร้อน แสง และออกซิเจน สารเหล่านี้จะลดลง ดังนั้นควรจะเลือกน้ำมันที่ใหม่และเก็บอย่างถูกต้อง
ชนิดของน้ำมันมะกอก
ข้อแนะนำในการปรุงอาหาร
- ใช้น้ำมันมะกอกในการปรุงอาหารที่อุณหภูมิไม่สูงเกิน 180-190 ° C เนื่องจากอุณหภูมิสูงจะทำให้โครงสร้างของน้ำมันเปลี่ยนไป โดยเฉพาะสารต้านอนุมูลอิสระ
- เก็บน้ำมันในตู้ที่ไม่สัมผัสแสง และเย็น ไม่เก็บน้ำมันใกล้เตาอบหรือเตา
- เลือกใช้น้ำมันสกัดเย็น
ขนาดรับประทาน
- สำหรับท้องผูก ให้รับประทาน น้ำมันมะกอก 30 มิลิเมตร
- สำหรับป้องกันโรคหัวใจ ให้รับประทาน 54 กรัม(ประมาณ 4 ช้อนโต๊ะ)
- สำหรับป้องกันโรคเบาหวาน ให้รับประทาน15-20 กรัมต่อวัน หรือรับประทานอาหารที่มีน้ำมันมะกอกมาก
- สำหรับผู้ที่มีคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ให้รับประทานน้ำมันมะกอก 23 กรับ(2ช้อนโต๊ะ)
- สำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูง ให้รับประทานน้ำมันมะกอก 30-40 กรัม
ข้อควรระวังในการใช้น้ำมันมะกอก
- สำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่รับประทานยารักษาโรคเบาหวาน น้ำมันมะกอกอาจจะทำให้ระดับน้ำตาลต่ำลง จะต้องติดตามระดับน้ำตาลโดยใกล้ชิดเพื่อป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
- สำหรับผู้ป่วยที่เป็นความดันโลหิตสูงน้ำมันมะกอกจะลดความดันโลหิต จะต้องติดตามระดับความดันโลหิตเพื่อป้องกันความดันโลหิตต่ำ
- สำหรัคนตั้งครรภ์หรือเลี้ยงบุตรด้วยนมแม่ไม่ควรรับประทานมากเกินไปเนื่องจากยังข้อมูลยืนยันความปลอดภัย
- เนื่องจากน้ำมันมะกอกจะทำให้น้ำตาลในเลือดลดลง ดังนั้นจึงควรจะหยุดน้ำมันมะกอกก่อนผ่าตัดสองสัปดาห์
ผลข้างเคียงของน้ำมันมะกอก
หากรับประทานน้ำมันมะกอก extra-virgin วันละ 2 ช้อนโต๊ะ หรือ 1 ลิตรต่อสัปดาห์ มักจะไม่เกิดผลข้างเคียง
การใช้งานในครัว
น้ำมันมะกอกมีความหลากหลายในครัว:
- น้ำสลัด: เหมาะสำหรับผสมน้ำสลัด ด้วยรสชาติเข้มข้น
- ผัด: ใช้ผัดผักหรือเนื้อสัตว์ที่ความร้อนปานกลาง
- หมักอาหาร: ใช้หมักเนื้อสัตว์เพื่อเพิ่มรสชาติ
- จิ้มขนมปัง: ผสมกับสมุนไพรและเกลือเพื่อจิ้มขนมปัง
หมายเหตุ: ไม่แนะนำให้ใช้ Extra Virgin ในการทอดที่ความร้อนสูง ควรเลือกน้ำมันมะกอกแบบกลั่น (Refined) ซึ่งมีจุดเกิดควันสูงกว่า
การดูแลผิวและเส้นผม
น้ำมันมะกอกสามารถใช้ในการดูแลความงาม:
- มอยส์เจอไรเซอร์: ใช้ทาผิวเพื่อให้ความชุ่มชื้น
- มาสก์หน้า: ผสมน้ำมันมะกอกกับน้ำผึ้งเพื่อบำรุงผิวหน้า
- บำรุงเส้นผม: ชโลมน้ำมันมะกอกที่เส้นผมก่อนสระ เพื่อให้ผมเงางามและนุ่ม
วิธีเลือกน้ำมันมะกอกคุณภาพสูง
- เลือก Extra Virgin: เลือกน้ำมันมะกอก Extra Virgin ที่สกัดเย็น เพื่อคุณภาพและรสชาติที่ดีที่สุด
- ตรวจสอบแหล่งที่มา: เลือกแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและระบุแหล่งผลิตชัดเจน
- การรับรอง: มองหาการรับรอง เช่น PDO (Protected Designation of Origin) หรือ Organic
- บรรจุภัณฑ์: เลือกขวดสีเข้มเพื่อป้องกันแสง ซึ่งอาจลดคุณภาพน้ำมัน
- กลิ่นและรสชาติ: น้ำมันมะกอกที่ดีควรมีกลิ่นหอมผลไม้และรสชาติที่สดชื่น
- เลือกซื้อน้ำมันมะกอกสกัดเย็น เนื่องจากการสกัดโดยใช้ความร้อนจะทำลายสารต้านอนุมูลอิสระ
- เลือกซื้อน้ำมันมะกอกที่ใหม่
- เลือกซื้อน้ำมันภายใน 15 เดือนนับจากวันผลิต
- อ่านฉลากบนขวดทุกครั้ง
ข้อควรระวัง
น้ำมันมะกอกมีประโยชน์มาก แต่ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง:
- ใช้ในปริมาณที่เหมาะสม: บริโภค 1-2 ช้อนโต๊ะต่อวัน เพื่อควบคุมแคลอรี
- เก็บรักษา: เก็บในที่เย็นและมืด ปิดฝาให้สนิทเพื่อป้องกันการเหม็นหืน
- หลีกเลี่ยงความร้อนสูง: หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันมะกอก Extra Virgin ในการทอดที่ความร้อนสูง อาจทำให้สูญเสียสารอาหาร
สรุป
น้ำมันมะกอกเป็นน้ำมันเพื่อสุขภาพที่อุดมด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว วิตามินอี และโพลีฟีนอล มีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ ต้านการอักเสบ และบำรุงผิวพรรณ ด้วยรสชาติที่เข้มข้นและกลิ่นหอม ทำให้เหมาะสำหรับน้ำสลัด ผัด และการดูแลความงาม การเลือกน้ำมันมะกอก Extra Virgin คุณภาพสูงและใช้ในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้ได้รับประโยชน์สูงสุด
น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ยังคงรักษาสารต้านอนุมูลอิสระและสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ ด้วยเหตุนี้จึงถือว่าดีต่อสุขภาพมากกว่าน้ำมันมะกอกที่ผ่านการกลั่นมากกว่า
ดังนั้น ตรวจสอบฉลากอย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้รับน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์จริง คุณควร อ่านรายการส่วนผสม และตรวจสอบการรับรองคุณภาพอยู่เสมอ
หมายเหตุ: ควรปรึกษานักโภชนาการหรือแพทย์เพื่อคำแนะนำที่เหมาะสม
น้ำมันมะกอก ชนิดของน้ำมันมะกอก สารอาหารในน้ำมันมะกอก การน้ำน้ำมันมะกอกปรุงอาหาร ประโยชน์ของน้ำมันมะกอก
เผยแพร่เมื่อ:
โดย: นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร

- http://pubs.acs.org/doi/abs/10.1021/jf070628u
- http://link.springer.com/article/10.1007%2Fs00394-004-0452-8
- http://www.sciencedirect.com/science/article/pii/016512189290035X
- http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/16135162
- http://journals.cambridge.org/action/displayAbstract?fromPage=online&aid=608432
- http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/12550060
- http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2040110/
- http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/10694051
- https://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/nutrition-and-healthy-eating/in-depth/fat/art-20045550
- http://nutritiondata.self.com/facts/fats-and-oils/509/2