siamhealth

หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ

10 ชนิดอาหารที่มีไขมันดี: บำรุงสุขภาพหัวใจและสมอง

 

ในอดีต โคเลสเตอรอลถูกมองว่าเป็นผู้ร้ายต่อสุขภาพ แต่การวิจัยใหม่ ๆ เช่น จาก American Heart Association (AHA) พบว่าโคเลสเตอรอลจากอาหาร เช่น ไข่ ไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจโดยตรง และไขมันดี (Healthy Fats) บางชนิดยังช่วยบำรุงร่างกาย บทความนี้จะแนะนำ 10 ชนิดอาหารที่มีไขมันดี พร้อมประโยชน์และวิธีการบริโภค



10 ชนิดอาหารที่มีไขมันดี

  1. อะโวคาโด (Avocado):
    • ประโยชน์: อะโวคาโดแตกต่างจากผลไม้อื่นที่มีปริมาณไขมันถึงร้อยละ70 ในขณะที่ผลไม่อื่นมีแต่น้ำตาล ไขมันของผลมีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว(หนึ่งตำแหน่ง) (oleic acid) ถึง 70% ช่วยลดคอเลสเตอรอลร้าย (LDL) และเพิ่มไขมันดี (HDL) อีกทั้งมีโพแทสเซียมและไฟเบอร์สูง
    • วิธีใช้: ทำกัวคาโมเล่, ใส่ในสลัด, หรือทาขนมปัง

  2. น้ำมันที่มีผลดีต่อสุขภาพ

  3. ชีส (Cheese):
    • ประโยชน์: อุดมไปด้วยแคลเซียม, ฟอสฟอรัส, ซีลีเนียม, วิตามิน B12, และโปรตีน งานวิจัยจาก University of Copenhagen (2015) พบว่ากรดไขมันในชีสอาจลดความเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2
    • วิธีใช้: ใส่ในแซนด์วิช, สลัด, หรือกินเป็นของว่าง (เลือกแบบไขมันเต็ม)
  4. ดาร์กช็อกโกแลต (Dark Chocolate):
    • ประโยชน์: ไขมัน 65% ของพลังงาน, มีใยอาหาร, ธาตุเหล็ก ,แมกนีเซี่ยม , ทองแดง, และสารต้านอนุมูลอิสระ งานวิจัยจาก Harvard (2018) พบว่าการกินดาร์กช็อกโกแลต 5 ครั้งต่อสัปดาห์ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจได้ถึง 57%
    • วิธีใช้: เลือกดาร์กช็อกโกแลตที่มีโกโก้ 70% ขึ้นไป กินวันละ 20-30 กรัม
  5. ไข่ (Whole Eggs):
    • ประโยชน์: มีโคเลสเตอรอล 212 มก. แต่ไม่เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจตามงานวิจัยจาก AHA (2019) อุดมไปด้วยวิตามิน A, D, E, โคลีน, และสารต้านอนุมูลอิสระ (Lutein, Zeaxanthin) ดีต่อสมองและตา
    • วิธีใช้: ต้ม, ทอดด้วยน้ำมันมะกอก, หรือใส่ในสลัด (เลือกไข่ไก่ปล่อยอิสระ)
  6. ปลาที่มีไขมัน (Fatty Fish):
    • ประโยชน์: ปลาแซลมอน, ปลาทราต, ปลาแมคเคอเรล, ปลาซาร์ดีน, และปลาเฮอริ่ง มีกรดไขมันโอเมก้า-3 (EPA, DHA) ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ, ซึมเศร้า, และบำรุงสมอง
    • วิธีใช้: อบ, ย่าง, หรือรมควัน กิน 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์
  7. ถั่ว (Nuts):
    • ประโยชน์: ถั่วอัลมอนด์, วอลนัท, และอื่น ๆ มีไขมันไม่อิ่มตัว, ไฟเบอร์, วิตามิน E, และแมกนีเซียม งานวิจัยจาก AHA (2020) พบว่าลดความเสี่ยงโรคหัวใจ, เบาหวาน, และโรคอ้วน
    • วิธีใช้: กินเป็นของว่าง (วันละ 20-30 กรัม), ใส่ในสลัด, หรือบดเป็นเนยถั่ว
  8. เมล็ดชิอะ (Chia Seeds):
    • ประโยชน์: พลังงานส่วนใหญ่จากไขมัน (ALA โอเมก้า-3) และไฟเบอร์สูง ช่วยลดความดันโลหิตและการอักเสบ
    • วิธีใช้: ผสมในน้ำ, สมูทตี้, หรือทำพุดดิ้ง (วันละ 1-2 ช้อนโต๊ะ)
  9. น้ำมันมะกอก Extra Virgin:
    • ประโยชน์: ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว, วิตามิน E, K, และสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความดันโลหิต, ลด LDL, และต้านการอักเสบ
    • วิธีใช้: ราดสลัด, ผัดเบา ๆ, หรือจิ้มขนมปัง (วันละ 1-2 ช้อนโต๊ะ)
  10. น้ำมันมะพร้าว (Coconut Oil):
    • ประโยชน์: มีไขมันอิ่มตัว (Medium-Chain Triglycerides) ที่ตับเผาผลาญได้ดี งานวิจัยจาก BMJ (2016) พบว่าประเทศที่กินน้ำมันมะพร้าวมาก เช่น ศรีลังกา ไม่มีอัตราโรคหัวใจสูง
    • วิธีใช้: ใช้ปรุงอาหาร, ผสมสมูทตี้, หรือทาขนมปัง (วันละ 1-2 ช้อนชา)
  11. โยเกิร์ต (Yogurt):
    • ประโยชน์: โยเกิร์ตไขมันเต็มมีโปรไบโอติก, ช่วยระบบย่อย, ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและโรคอ้วน
    • วิธีใช้: กินเปล่า, ผสมผลไม้, หรือทำสมูทตี้ (เลือกแบบไม่เติมน้ำตาล)

ตารางเปรียบเทียบอาหารที่มีไขมันดี

อาหารประเภทไขมันดีประโยชน์หลัก
อะโวคาโดไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวลด LDL, บำรุงผิว
ชีสไขมันอิ่มตัว (ในปริมาณที่เหมาะสม)ลดความเสี่ยงเบาหวาน, บำรุงกระดูก
ดาร์กช็อกโกแลตไม่อิ่มตัวลดความเสี่ยงโรคหัวใจ, ต้านอนุมูลอิสระ
ไข่ไม่อิ่มตัว, โคลีนบำรุงสมอง, ตา
ปลาที่มีไขมันโอเมก้า-3บำรุงหัวใจ, สมอง, ลดซึมเศร้า
ถั่วไม่อิ่มตัวลดความเสี่ยงโรคหัวใจ, เบาหวาน
เมล็ดชิอะALA (โอเมก้า-3)ลดความดัน, ลดการอักเสบ
น้ำมันมะกอกไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวลด LDL, ต้านการอักเสบ
น้ำมันมะพร้าวไขมันอิ่มตัว (MCT)เผาผลาญดี, บำรุงสุขภาพ
โยเกิร์ตไขมันอิ่มตัว (ในปริมาณที่เหมาะสม)ระบบย่อยดี, ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ

เคล็ดลับการกินไขมันดี

สรุป

โคเลสเตอรอลและไขมันดีจากอาหาร เช่น อะโวคาโด, ปลาแซลมอน, และน้ำมันมะกอก ไม่ได้เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่กลับช่วยบำรุงหัวใจ, สมอง, และลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง การเลือกกินอย่างเหมาะสมและหลากหลายจะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีในระยะยาว

เผยแพร่เมื่อ:

โดย: นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร, อายุรแพทย์, แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว

เพิ่มเพื่อน

 

อ้างอิง

1https://www.emedihealth.com/eggs.html