น้ำมัน Canola: คุณสมบัติ ประโยชน์ และข้อควรระวัง
บทนำ
น้ำมัน Canola เป็นน้ำมันพืชที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ด้วยรสชาติที่เบา จุดเกิดควันสูง และคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ทำให้เป็นวัตถุดิบหลักในครัวเรือนและอุตสาหกรรมอาหาร ไม่ว่าจะใช้ในการทอด ผัด อบ หรือทำน้ำสลัด น้ำมัน Canola ถือเป็นตัวเลือกที่หลากหลายและดีต่อสุขภาพเมื่อบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม มีข้อถกเถียงเกี่ยวกับกระบวนการผลิตและความปลอดภัยของน้ำมันชนิดนี้ บทความนี้จะเจาะลึกถึงที่มา คุณสมบัติ กระบวนการผลิต ประโยชน์ ข้อกังวล และคำแนะนำ เพื่อให้ผู้อ่านตัดสินใจได้ว่าน้ำมัน Canola เหมาะกับการใช้งานของตนหรือไม่
น้ำมัน Canola คืออะไร
น้ำมัน Canola สกัดจากเมล็ดของพืช Canola (Brassica napus) ซึ่งเป็นพืชในตระกูลผักกาด (Brassicaceae) และเป็นพันธุ์ที่พัฒนามาจากเรพซีด (rapeseed) ชื่อ "Canola" ย่อมาจาก "Canadian Oil, Low Acid" ซึ่งสะท้อนถึงต้นกำเนิดในแคนาดาและการมีกรด erucic acid ต่ำ พืช Canola ถูกพัฒนาขึ้นในช่วงทศวรรษ 1970 โดยนักวิทยาศาสตร์ชาวแคนาดา ผ่านการผสมข้ามพันธุ์เพื่อกำจัดสารที่อาจเป็นอันตราย เช่น กรด erucic acid และ glucosinolates ซึ่งพบในเรพซีดดั้งเดิม ทำให้ Canola ปลอดภัยสำหรับการบริโภคของมนุษย์
น้ำมัน Canola มีสีเหลืองทองอ่อน กลิ่นและรสชาติอ่อน ๆ ไม่กลบรสชาติของอาหาร จึงเหมาะสำหรับการปรุงอาหารหลากหลายประเภท ปัจจุบัน แคนาดาเป็นผู้ผลิตและส่งออกน้ำมัน Canola รายใหญ่ที่สุดในโลก โดยน้ำมันชนิดนี้เป็นน้ำมันพืชที่นิยมมากเป็นอันดับสาม รองจากน้ำมันปาล์มและน้ำมันถั่วเหลือง
กระบวนการผลิตน้ำมัน Canola
น้ำมัน Canola ผลิตได้สองวิธีหลัก คือ การสกัดเย็น (Cold Pressing) และการสกัดด้วยความร้อน (Hot Pressing) ซึ่งรวมถึงการกลั่น (Refined)
1. การสกัดเย็น (Cold Pressing)
- กระบวนการ:
- ทำความสะอาดและอบแห้งเมล็ด Canola
- นำเมล็ดไปผ่านลูกกลิ้งเพื่อทำให้แตกและเพิ่มพื้นที่ผิว
- บีบอัดเมล็ดด้วยเครื่องอัดไฮดรอลิกโดยไม่ใช้ความร้อน (อุณหภูมิไม่เกิน 49 องศาเซลเซียส)
- กรองน้ำมันเพื่อกำจัดสิ่งเจือปน
- ข้อดี:
- รักษาคุณค่าทางโภชนาการ เช่น วิตามิน E และสารต้านอนุมูลอิสระ
- รสชาติและกลิ่นหอมตามธรรมชาติ
- ไม่มีสารตกค้างจากตัวทำละลาย
- ข้อเสีย:
- ผลผลิตน้ำมันต่ำ
- ต้นทุนการผลิตสูง
- อายุการเก็บรักษาสั้น
2. การสกัดด้วยความร้อนและการกลั่น (Hot Pressing and Refined)
- กระบวนการ:
- ทำความสะอาดและอบแห้งเมล็ด Canola
- นำเมล็ดไปผ่านลูกกลิ้งเพื่อทำให้แตก
- ให้ความร้อนเมล็ด (100-120 องศาเซลเซียส) เพื่อทำให้ไขมันเหลว
- สกัดน้ำมันด้วยเครื่องอัดไฮดรอลิกหรือใช้ตัวทำละลาย เช่น hexane
- กลั่นน้ำมันโดยกำจัดสิ่งเจือปน เช่น ไขมันอิสระและสารสี ด้วยน้ำ กรดอินทรีย์ การกรองด้วยดินเหนียว และการกลั่นด้วยไอน้ำ
- ข้อดี:
- ผลผลิตน้ำมันสูง
- ต้นทุนการผลิตต่ำ
- อายุการเก็บรักษานาน
- ข้อเสีย:
- ความร้อนและตัวทำละลายอาจทำลายสารอาหารบางชนิด เช่น วิตามิน E
- อาจมีไขมันทรานส์เล็กน้อยจากการกลั่น
ตัวเลือกที่เหมาะสม
- น้ำมัน Canola สกัดเย็น: เหมาะสำหรับน้ำสลัดหรืออาหารที่ไม่ผ่านความร้อน เพื่อรักษาคุณค่าทางโภชนาการ
- น้ำมัน Canola Refined: เหมาะสำหรับการทอด ผัด และอบ เนื่องจากมีจุดเกิดควันสูง
คุณสมบัติของน้ำมัน Canola
- ลักษณะทางกายภาพ: สีเหลืองทองอ่อน กลิ่นและรสชาติอ่อน ๆ
- จุดเกิดควัน:
- สกัดเย็น: ~180 องศาเซลเซียส (เหมาะสำหรับการผัดหรือน้ำสลัด)
- Refined: 204 องศาเซลเซียส (เหมาะสำหรับการทอดและอบ)
- รสชาติ: เป็นกลาง ไม่กลบรสชาติของอาหาร
ข้อมูลโภชนาการ
น้ำมัน Canola 1 ช้อนโต๊ะ (14 กรัม) ประกอบด้วย:
- แคลอรี่: 124
- ไขมันทั้งหมด: 14 กรัม
- ไขมันอิ่มตัว: 1 กรัม (7%)
- ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว: 9 กรัม (63%)
- ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน: 4 กรัม (28%)
- โอเมก้า-3 (ALA): 1,279 มก.
- โอเมก้า-6: 2,738 มก.
- วิตามิน E: 2.4 มก. (12% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน) *เฉพาะในน้ำมันสกัดเย็น*
- วิตามิน K: มีส่วนช่วยในกระบวนการแข็งตัวของเลือดและสุขภาพกระดูก
น้ำมัน Canola มีอัตราส่วนโอเมก้า-6 ต่อโอเมก้า-3 ที่ดี (2:1) ซึ่งเหมาะสมสำหรับสุขภาพโดยรวม
ประโยชน์ต่อสุขภาพของน้ำมัน Canola
- สุขภาพหัวใจ: อุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว และไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอล LDL (ไขมันเลว) และลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) รับรองว่าการบริโภคน้ำมัน Canola 1.5 ช้อนโต๊ะต่อวัน อาจลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจเมื่อใช้ทดแทนไขมันอิ่มตัว
- ไขมันอิ่มตัวต่ำ: มีไขมันอิ่มตัวเพียง 7% ซึ่งต่ำที่สุดในบรรดาน้ำมันพืชทั่วไป
- อุดมไปด้วยวิตามิน E: ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายและบำรungสุขภาพผิว (เฉพาะน้ำมันสกัดเย็น)
- คุณสมบัติต้านการอักเสบ: โอเมก้า-3 (ALA) ช่วยลดการอักเสบ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อโรคข้ออักเสบ
- ควบคุมน้ำหนัก: ไขมันดีช่วยให้รู้สึกอิ่มนาน ลดการกินมากเกินไป
- สุขภาพสมองและระบบประสาท: โอเมก้า-3 และโอเมก้า-6 สนับสนุนการทำงานของสมองและพัฒนาการของทารก
- อาจลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง: การวิจัยบางชิ้นชี้ว่าน้ำมัน Canola อาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยเบาหวาน และลดตัวบ่งชี้การอักเสบ
ประโยชน์ต่อสุขภาพของน้ํามันคาโนลา
- สุขภาพหัวใจ: น้ํามันคาโนลาอุดมไปด้วยซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีและลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ นอกจากนี้ยังมีกรดไขมันโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ซึ่งจําเป็นต่อการรักษาสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด
- ไขมันอิ่มตัวต่ํา: เมื่อเทียบกับน้ํามันปรุงอาหารอื่นๆ น้ํามันคาโนลามีไขมันอิ่มตัวในระดับต่ําสุด ทําให้เป็นตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพสําหรับการปรุงอาหารทุกวัน
- อุดมไปด้วยวิตามินอี: สารต้านอนุมูลอิสระนี้ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายและสนับสนุนสุขภาพผิวโดยรวม
- คุณสมบัติต้านการอักเสบ: กรดไขมันโอเมก้า 3 ในน้ํามันคาโนลาสามารถช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสภาวะต่างๆ เช่น โรคข้ออักเสบ
- การควบคุมน้ําหนัก: ไขมันที่ดีต่อสุขภาพในน้ํามันคาโนลาสามารถช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มนานขึ้นช่วยในการควบคุมน้ําหนัก และลดแนวโน้มที่จะกินมากเกินไป
- กรดไขมันโอเมก้า 3:น้ำมันคาโนลาเป็นแหล่งที่ดีของกรดอัลฟา-ไลโนเลนิก (ALA) ซึ่งเป็นกรดไขมันโอเมก้า 3 ประเภทหนึ่งที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบและอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ
- วิตามินอีและเค:น้ำมันคาโนลามีวิตามินอี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ปกป้องเซลล์จากความเสียหาย และวิตามินเค ซึ่งมีความสำคัญต่อการแข็งตัวของเลือดและสุขภาพกระดูก
ข้อกังวลเกี่ยวกับน้ำมัน Canola
- กระบวนการผลิต: น้ำมัน Canola Refined ผ่านการกลั่นด้วยความร้อนและตัวทำละลาย ซึ่งอาจทำลายสารอาหาร เช่น วิตามิน E และอาจมีไขมันทรานส์เล็กน้อย (0.2-1%) ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพหัวใจ
- โอเมก้า-6 สูง: แม้จะมีอัตราส่วนที่ดี (2:1) แต่การบริโภคมากเกินไปอาจเพิ่มการอักเสบในร่างกาย
- การตัดต่อพันธุกรรม (GMO): เมล็ด Canola ส่วนใหญ่ในปัจจุบันถูกดัดแปลงพันธุกรรมให้ทนต่อสารกำจัดวัชพืช แม้การวิจัยยืนยันว่า GMO ปลอดภัย แต่บางคนอาจกังวล
- กรด Erucic Acid ตกค้าง: แม้ Canola ปัจจุบันจะมีกรด erucic acid ต่ำ (<2%) ซึ่งอยู่ในระดับปลอดภัย แต่บางคนอาจกังวลถึงผลกระทบในระยะยาว
- การศึกษาที่ขัดแย้ง: มีงานวิจัยบางชิ้นที่ชี้ว่าน้ำมัน Canola อาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคอ้วนลงพุงหรือส่งผลต่อการทำงานของสมอง แต่ผลวิจัยเหล่านี้ยังไม่ชัดเจนและต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับน้ำมัน Canola
บางคนสับสนว่าน้ำมัน Canola กับน้ำมันเรพซีดดั้งเดิมที่ใช้ในอุตสาหกรรม (เช่น น้ำมันหล่อลื่นหรือสบู่) ซึ่งมีกรด erucic acid สูงและไม่เหมาะสำหรับการบริโภค น้ำมัน Canola สมัยใหม่ได้รับการพัฒนาให้ปลอดภัย และการวิจัยยืนยันว่าไม่มีอันตรายต่อหัวใจเมื่อบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม
การใช้น้ำมัน Canola
- การทอดและผัด: จุดเกิดควันสูง (204 องศาเซลเซียส สำหรับแบบ Refined) เหมาะสำหรับการทอด ผัด และย่าง
- การอบ: ใช้แทนเนยหรือน้ำมันอื่นในสูตรอบ เช่น ใช้ ¾ ถ้วย แทนเนย 1 ถ้วย เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่นุ่มชุ่มชื้น
- น้ำสลัดและน้ำหมัก: รสชาติอ่อน ๆ เหมาะสำหรับน้ำสลัดเมื่อผสมกับน้ำส้มสายชูหรือเครื่องปรุงอื่น ๆ
- การย่าง: ทาเนื้อสัตว์หรือผักก่อนย่างเพื่อป้องกันการติดและเพิ่มความกรอบ
- การใช้งานอื่น ๆ: ใช้ในเครื่องสำอาง (เช่น มอยส์เจอไรเซอร์) หรือเป็นส่วนผสมในไบโอดีเซล
วิธีเลือกและเก็บน้ำมัน Canola
- การเลือก: เลือกน้ำมัน Canola สกัดเย็นหรือออร์แกนิก (Non-GMO) เพื่อคุณภาพสูงและการแปรรูปน้อยที่สุด
- การเก็บรักษา: เก็บในที่เย็น มืด และปิดผนึกแน่น เพื่อป้องกันการเกิดออกซิเดชัน สามารถเก็บได้นานถึง 1 ปี
คำแนะนำการใช้งาน
- สำหรับการทอดหรือผัด: ใช้แบบ Refined เพื่อความทนความร้อนสูงประมาณ 400°F (204°C)
- การย่าง: ใช้น้ํามันคาโนลาทาเนื้อสัตว์และผักก่อนย่างเพื่อป้องกันการเกาะติดและเพิ่มความกรอบเล็กน้อย
- การอบ: น้ํามันคาโนลาสามารถใช้ในสูตรการอบเพื่อทดแทนเนยหรือน้ํามันอื่นๆ โดยให้เนื้อสัมผัสที่เบากว่าและมีไขมันที่ดีต่อสุขภาพ
- สำหรับน้ำสลัด: ใช้แบบสกัดเย็นเพื่อรักษาคุณค่าทางโภชนาการ
- ควบคุมปริมาณ: บริโภคในปริมาณที่เหมาะสม (1-2 ช้อนโต๊ะต่อวัน) เพื่อหลีกเลี่ยงการบริโภคโอเมก้า-6 มากเกินไป
- หลากหลายแหล่งไขมัน: สลับกับไขมันดีจากแหล่งอื่น เช่น ปลา ถั่ว หรืออะโวคาโด
- ปรึกษาแพทย์: หากมีข้อกังวลเกี่ยวกับสุขภาพ เช่น โรคหัวใจหรือการอักเสบ
สรุป
น้ำมัน Canola เป็นน้ำมันพืชที่หลากหลายและดีต่อสุขภาพเมื่อใช้อย่างเหมาะสม ด้วยไขมันอิ่มตัวต่ำ ไขมันไม่อิ่มตัวสูง และจุดเกิดควันที่เหมาะสม ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการปรุงอาหารหลากหลายรูปแบบ ประโยชน์ เช่น การลดความเสี่ยงโรคหัวใจและการต้านการอักเสบ ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงอาหาร อย่างไรก็ตาม ควรระวังข้อกังวล เช่น การแปรรูปที่อาจมีไขมันทรานส์เล็กน้อย และการใช้เมล็ด GMO หากเลือกใช้ ควรพิจารณาน้ำมันสกัดเย็นหรือออร์แกนิก และบริโภคในปริมาณที่สมดุล เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุด
น้ำมันคาโนลา น้ำมันคาโนลาผสม น้ำมันคาโนลาประโยชน์
เผยแพร่เมื่อ:
โดย: นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว