
หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ
อาการเวียนศีรษะ หน้ามืด หรือบ้านหมุน เป็นสัญญาณเตือนที่ "ห้ามมองข้าม" โดยเด็ดขาดสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน เพราะเบื้องหลังอาการที่ดูเหมือนธรรมดานี้ อาจซ่อนสาเหตุได้ตั้งแต่ภาวะที่จัดการได้ง่าย ไปจนถึงภาวะฉุกเฉินที่เป็นอันรายถึงชีวิต
การทำความเข้าใจสาเหตุที่เป็นไปได้ทั้งหมด และเรียนรู้วิธี "สืบสวนอาการ" ของตนเองเบื้องต้น คือทักษะสำคัญที่จะช่วยให้คุณประเมินสถานการณ์ รับมือได้อย่างถูกต้อง และให้ข้อมูลที่สำคัญแก่แพทย์ได้อย่างครบถ้วน
หากมีอาการเวียนศีรษะร่วมกับอาการเหล่านี้ อย่าลังเล ให้รีบโทรแจ้งสายด่วน 1669 ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์:
1. โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)
สัญญาณเตือน: เวียนศีรษะ ร่วมกับ ปากเบี้ยว, พูดไม่ชัด, ชาหรืออ่อนแรงใบหน้าซีกใดซีกหนึ่ง, แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก
2. โรคหัวใจ (Heart Attack / Arrhythmia)
สัญญาณเตือน: เวียนศีรษะ ร่วมกับ เจ็บแน่นหน้าอกรุนแรง, หายใจหอบเหนื่อย, ใจสั่นรุนแรง, เหงื่อแตก
3. ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia)
สัญญาณเตือน: เป็นสาเหตุอันดับ 1 ที่ต้องนึกถึงเสมอ! เวียนศีรษะ ร่วมกับ ใจสั่น, มือสั่น, เหงื่อออก, หิวจัด, กระสับกระส่าย
4. ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง (Hyperglycemia)
สัญญาณเตือน: เวียนศีรษะแบบมึนๆ งงๆ ร่วมกับ กระหายน้ำมาก, ปัสสาวะบ่อย, และอ่อนเพลีย
5. ภาวะความดันโลหิตตกในท่ายืน (Orthostatic Hypotension)
สัญญาณเตือน: หน้ามืด วูบ หรือเวียนศีรษะทันทีที่เปลี่ยนท่าทาง (เช่น ลุกจากเตียง)
6. ภาวะโลหิตจาง (Anemia)
สัญญาณเตือน: เวียนศีรษะ ร่วมกับ อาการอ่อนเพลีย, เหนื่อยง่าย, หน้าซีด (พบบ่อยในผู้ป่วยเบาหวานที่มีภาวะแทรกซ้อนที่ไต)
7. ภาวะเกลือแร่ผิดปกติ (Electrolyte Imbalance)
สัญญาณเตือน: เวียนศีรษะ ร่วมกับ อาการอ่อนเพลีย, คลื่นไส้, หรือเป็นตะคริว (อาจเกิดจากยาขับปัสสาวะ หรืออาการท้องเสีย/อาเจียน)
8. ผลข้างเคียงจากยา (Medication Side Effects)
ยาที่เป็นสาเหตุได้บ่อย:
ยาลดความดันโลหิตทุกกลุ่ม: (ยาขับปัสสาวะ, Beta-blockers, ACEi/ARBs, ฯลฯ) ทำให้ความดันลดต่ำลงหรือเกิดภาวะความดันตกในท่ายืน
ยาเบาหวานกลุ่ม SGLT2 inhibitors: (Dapagliflozin, Empagliflozin) ทำให้มีการขับน้ำออกทางปัสสาวะเพิ่มขึ้น
ยาเบาหวานที่เสี่ยงน้ำตาลต่ำ: อินซูลิน, ยากลุ่มซัลโฟนีลยูเรีย
ยาอื่นๆ: เช่น ยารักษาปลายประสาทอักเสบ (Gabapentin)
เมื่อเริ่มรู้สึกเวียนศีรษะ ให้ทำตาม 4 ขั้นตอนต่อไปนี้อย่างมีสติ:
ขั้นตอนที่ 1: ป้องกันการล้ม (Safety First!)
หยุดกิจกรรมทุกอย่างทันที และ นั่งหรือนอนลงกับพื้นราบ เพื่อป้องกันการหกล้ม
ขั้นตอนที่ 2: เป็นนักสืบสุขภาพของตนเอง (Self-Assessment) ในขณะที่นั่งพัก ให้รวบรวมข้อมูลสำคัญสำหรับแพทย์:
ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดทันที: เพื่อแยกภาวะน้ำตาลต่ำ (< 70) หรือสูง (> 250)
วัดความดันโลหิต 2 ท่า: วัดขณะนั่ง/นอนพัก แล้วลุกขึ้นยืน 1-3 นาที แล้ววัดซ้ำ หากความดันตัวบนในท่ายืน "ลดลง" มากกว่า 20 → สงสัยภาวะความดันตกในท่ายืน
คลำชีพจรของตนเอง: นับอัตราการเต้น (ปกติ 60-100) และสังเกตจังหวะว่าสม่ำเสมอหรือไม่
ขั้นตอนที่ 3: จัดการเบื้องต้นตามข้อมูลที่ได้
หากสงสัยภาวะน้ำตาลต่ำ (< 70): ปฏิบัติตาม "กฎ 15" ทันที
หากสงสัยภาวะน้ำตาลสูง (> 250): ดื่มน้ำเปล่ามากๆ
หากสงสัยภาวะความดันตกในท่ายืน: นั่งหรือนอนพัก และครั้งต่อไปให้ลุกขึ้นอย่างช้าๆ
ขั้นตอนที่ 4: ประเมินสถานการณ์และขอความช่วยเหลือ
หากมีสัญญาณเตือนของโรคหลอดเลือดสมองหรือโรคหัวใจ ให้รีบ โทร 1669 ทันที
หากอาการไม่ดีขึ้น หรือเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ควรจดบันทึกข้อมูลที่รวบรวมได้และนำไปปรึกษาแพทย์ในนัดครั้งถัดไป
บทสรุป: การเรียนรู้ที่จะประเมินตนเองเบื้องต้น จะช่วยให้คุณและแพทย์สามารถค้นหาสาเหตุที่แท้จริงและวางแผนการรักษาที่ถูกต้องได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น
ทบทวนวันที่
โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว