
หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ
สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน การดูแลเท้าไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย แต่เป็นกิจวัตรสำคัญที่ช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้ การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยที่เท้าอาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาใหญ่ที่กำลังจะตามมา โดยเฉพาะเมื่อเกิดร่วมกับ "ภาวะปลายประสาทเสื่อม" ซึ่งทำให้การรับความรู้สึกเจ็บปวดลดลง จนเกิดแผลลุกลามได้โดยไม่รู้ตัว
เท้าที่ผิดรูปหรือมีความผิดปกติของผิวหนังจะสร้างจุดกดทับหรือจุดเสียดสีที่ผิดปกติ และนี่คือ 8 ลักษณะเท้าที่เสี่ยงต่อการเกิดแผลซึ่งผู้ป่วยเบาหวานต้องหมั่นสังเกตเป็นพิเศษ
ตาปลา (Corns and Calluses): ผิวหนังที่หนาและแข็งด้าน มักเกิดบริเวณฝ่าเท้าหรือปุ่มกระดูกที่รับแรงกดซ้ำๆ จากรองเท้าที่ไม่เหมาะสม แม้ดูเหมือนไม่เป็นอันตราย แต่ใต้ตาปลาอาจเกิดเป็นแผลลึกได้ การดูแลตาปลา

นิ้วหัวแม่เท้าเก (Hallux Valgus or Bunions): คือภาวะที่นิ้วหัวแม่เท้าเอนเข้าไปหานิ้วชี้ ทำให้กระดูกโคนนิ้วโปนออกมาด้านข้าง กลายเป็นจุดที่เสียดสีกับรองเท้าได้ง่ายจนเกิดเป็นแผลอักเสบ

นิ้วเท้างอ (Hammer or Claw Toes): เกิดจากความไม่สมดุลของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นในเท้า ทำให้นิ้วเท้างอผิดรูป บริเวณข้อนิ้วที่นูนขึ้นจะกลายเป็นจุดที่ถูกรองเท้ากดทับจนเป็นแผลได้ง่ายที่สุด

เล็บขบ (Ingrown Toenails): การตัดเล็บผิดวิธีหรือใส่รองเท้าที่บีบหน้าเท้ามากเกินไป ทำให้ขอบเล็บงอกทิ่มเข้าไปในผิวหนัง เกิดเป็นแผลและเป็นช่องทางให้เชื้อโรคเข้าไป ทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อได้

ผิวแห้งแตก (Dry, Cracked Skin): ภาวะปลายประสาทอัตโนมัติที่เสื่อมลงทำให้ต่อมเหงื่อทำงานลดลง ผิวหนังจึงแห้งและแตกง่าย โดยเฉพาะบริเวณส้นเท้า รอยแตกเหล่านี้คือประตูสู่การติดเชื้อแบคทีเรีย

การติดเชื้อรา (Fungal Infections): เช่น โรคฮ่องกงฟุต (Athlete's Foot) ที่มักเกิดตามซอกนิ้วเท้า ทำให้ผิวหนังเปื่อย ยุ่ย และเป็นแผล ซึ่งง่ายต่อการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน

แผลพุพอง (Blisters): เกิดจากการเสียดสีของผิวหนังกับรองเท้าที่คับหรือหลวมเกินไป สำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่ไม่รู้สึกเจ็บ อาจไม่รู้ตัวว่ามีแผลพุพองจนกระทั่งแผลแตกและติดเชื้อ

หูด (Warts): แม้เกิดจากเชื้อไวรัส แต่การพยายามตัดหรือแกะหูดด้วยตนเองอาจทำให้เกิดบาดแผลขนาดใหญ่และติดเชื้อรุนแรงตามมาได้

การป้องกันคือหัวใจสำคัญ
การตระหนักรู้และป้องกันปัญหาตั้งแต่เนิ่นๆ คือวิธีที่ดีที่สุด ควรตรวจเท้าของตนเองอย่างละเอียดทุกวัน เลือกสวมรองเท้าที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยเบาหวานโดยเฉพาะ และปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านเท้าทันทีเมื่อพบความผิดปกติ
ทบทวนวันที่
โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว