หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ
Sucralfate (ซูคราลเฟต) เป็นยาที่ใช้สำหรับรักษาและป้องกันแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น ยาชนิดนี้ไม่ได้ออกฤทธิ์โดยการลดกรดโดยตรง แต่จะทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันแผล ทำให้แผลมีโอกาสฟื้นตัวได้ดีขึ้น การใช้ยาอย่างถูกต้องตามคำแนะนำของแพทย์เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการรักษา
Sucralfate เป็นยาที่ทำหน้าที่เคลือบแผลในระบบทางเดินอาหาร ยานี้มีโครงสร้างคล้ายน้ำตาลและอะลูมิเนียม เมื่อรับประทานเข้าไปแล้ว ยาจะทำปฏิกิริยากับกรดในกระเพาะอาหารกลายเป็นสารคล้ายเจลที่มีความหนืดสูง เพื่อไปเคลือบบริเวณแผล
ยา Sucralfate ทำงานโดย:
สร้างเกราะป้องกันแผล: ยาจะไปเคลือบและยึดติดกับโปรตีนในบริเวณแผล สร้างเป็นชั้นเคลือบที่แข็งแรง
ปกป้องแผลจากกรด: ชั้นเคลือบนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้แผลสัมผัสกับกรด, น้ำดี, และเอนไซม์ pepsin ซึ่งจะช่วยลดการระคายเคืองและส่งเสริมให้แผลหายเร็วขึ้น
กระตุ้นการหลั่งสารปกป้อง: ยาจะกระตุ้นให้เยื่อบุกระเพาะอาหารหลั่งสาร prostaglandin ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยปกป้องเยื่อบุและส่งเสริมการสร้างเซลล์ใหม่
Sucralfate มีข้อบ่งใช้หลักดังนี้:
รักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น: รวมถึงแผลที่เกิดจากความเครียดหรือยาบางชนิด
ป้องกันการเกิดแผลซ้ำ: โดยเฉพาะแผลที่ลำไส้เล็กส่วนต้น
โรคกรดไหลย้อน: ใช้เป็นทางเลือกในการบรรเทาอาการในบางกรณี
Sucralfate มีจำหน่ายทั้งในรูปแบบยาเม็ดและยาน้ำ (ชนิดแขวนตะกอน)
ขนาดที่ใช้รักษา:
แผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก: 1 กรัม วันละ 4 ครั้ง (ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง และก่อนนอน) หรือ 2 กรัม วันละ 2 ครั้ง (เช้า-เย็น)
ป้องกันแผลซ้ำ: 1 กรัม วันละ 2 ครั้ง
ระยะเวลาการรักษา: โดยทั่วไปใช้เวลา 4-8 สัปดาห์ หรือจนกว่าแผลจะหาย
วิธีการใช้ยา:
ควรรับประทานยาขณะท้องว่าง: คือ ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง หรือหลังอาหาร 2 ชั่วโมง
ห้ามรับประทานยานี้พร้อมกับยาลดกรดชนิดอื่น: หากจำเป็นต้องใช้ ควรรับประทานยาลดกรดก่อนหรือหลังจากรับประทานยา Sucralfate อย่างน้อย 30 นาที
ห้ามรับประทานร่วมกับยาอื่น: เนื่องจากยา Sucralfate อาจลดการดูดซึมของยาอื่น ๆ ได้ ควรรับประทานยาอื่นก่อนหรือหลัง Sucralfate อย่างน้อย 2 ชั่วโมง
สิ่งที่ต้องแจ้งแพทย์หรือเภสัชกร:
ประวัติการแพ้ยา: เคยแพ้ยา Sucralfate หรือไม่
รายการยาที่กำลังใช้: แจ้งให้แพทย์ทราบถึงรายการยาทั้งหมด โดยเฉพาะยาที่อาจทำปฏิกิริยากับ Sucralfate เช่น Warfarin, Cimetidine, Digoxin, Phenytoin, Ranitidine, และยาปฏิชีวนะกลุ่ม Quinolone
โรคประจำตัว: โดยเฉพาะโรคไต, โรคเบาหวาน, หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการกลืนอาหาร
ข้อควรระวังพิเศษ:
ผู้ป่วยโรคไต: ยา Sucralfate มีส่วนประกอบของอะลูมิเนียม หากใช้ร่วมกับยาลดกรดที่มีอะลูมิเนียม อาจทำให้เกิดการสะสมของอะลูมิเนียมในร่างกาย ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยโรคไต
ผู้ป่วยที่ต้องรับยาทางสายยาง: ยาน้ำ Sucralfate อาจทำให้สายอุดตันได้
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย (มักไม่รุนแรง)
ท้องผูก (เป็นผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุด) หรือท้องร่วง
คลื่นไส้, อาเจียน, ปวดท้อง
ปวดศีรษะ, เวียนศีรษะ, ง่วงซึม
คันตามผิวหนัง หรือมีผื่น
อาการอันตรายที่ต้องหยุดยาและรีบพบแพทย์ทันที
อาการแพ้ยาอย่างรุนแรง: ผื่นลมพิษ, หายใจลำบาก, บวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก หรือลิ้น
เก็บยาในภาชนะบรรจุเดิมที่ปิดสนิท
เก็บที่อุณหภูมิห้อง ในที่แห้งและพ้นจากความร้อนและแสงแดดโดยตรง
เก็บให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ตรวจสอบวันหมดอายุก่อนใช้เสมอ
สรุป
Sucralfate เป็นยาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาแผลในทางเดินอาหาร โดยมีกลไกการออกฤทธิ์เฉพาะในการเคลือบแผลเพื่อปกป้องจากกรด ผู้ป่วยควรใช้ยาอย่างเคร่งครัดตามคำแนะนำของแพทย์ โดยเฉพาะเรื่องเวลาในการรับประทานยาเพื่อป้องกันการรบกวนการดูดซึมของยาอื่น หากมีอาการผิดปกติใดๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทันที
ยาน้ำแก้โรคกระเพาะ | ยาระบาย | ยาแก้คลื่นไส้อาเจียน | ยา cisapride | ยา hyocyamine | ยาแก้กระเพาะกลุ่ม PPI | ยาขับลม | sucralfate | ranitidine | nizatidine | cimetidine | famotidine | ยาแก้ท้องเสีย | Esomeprazole | lansoprazole | Omeprazole | Misoprostol