
หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ
บทความนี้จะให้ข้อมูลที่ครบถ้วนและสำคัญเกี่ยวกับ Aluminium-Magnesium Antacid ซึ่งเป็นยาลดกรดที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเพื่อบรรเทาอาการไม่สบายท้องที่เกิดจากกรดเกินในกระเพาะอาหาร จุดประสงค์หลักคือเพื่อให้ผู้ป่วยและบุคคลทั่วไปมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับยานี้ สามารถใช้ยาได้อย่างปลอดภัย และทราบถึงกลไกการออกฤทธิ์ ข้อบ่งใช้ และข้อควรระวังต่างๆ ที่สำคัญ การมีความรู้เกี่ยวกับยาที่คุณใช้จะช่วยให้คุณจัดการกับอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
Aluminium-Magnesium Antacid (อะลูมิเนียม-แมกนีเซียม แอนตาซิด) เป็นยาลดกรดในกระเพาะอาหารชนิดผสมที่ประกอบด้วยสารออกฤทธิ์หลักสองชนิดคือ อะลูมิเนียมไฮดรอกไซด์ (Aluminium Hydroxide) และ แมกนีเซียมไฮดรอกไซด์ (Magnesium Hydroxide) ยาทั้งสองชนิดนี้มีคุณสมบัติในการสะเทินกรด (Neutralize stomach acid) ทำให้กรดในกระเพาะอาหารมีสภาพเป็นกลาง ลดอาการระคายเคืองและไม่สบายท้อง
ยาลดกรดชนิดนี้เป็นยาที่สามารถหาซื้อได้เองทั่วไป (Over-The-Counter - OTC) และมีจำหน่ายในหลายรูปแบบ เช่น ยาน้ำแขวนตะกอน (Suspension), ยาเม็ดเคี้ยว หรือยาเม็ดสำหรับรับประทาน ชื่อการค้าที่คุ้นเคย เช่น Milk of Magnesia (ส่วนใหญ่เป็นแมกนีเซียม), Maalox, Alum Milk เป็นต้น มักใช้สำหรับบรรเทาอาการแสบร้อนกลางอก (Heartburn), อาหารไม่ย่อย, ท้องอืด, หรืออาการไม่สบายท้องอื่นๆ ที่เกิดจากกรดเกิน
ยาลดกรดกลุ่ม Aluminium-Magnesium Antacid ทำงานโดยกลไกทางเคมีเพื่อลดความเป็นกรดในกระเพาะอาหาร:
สะเทินกรดโดยตรง: ทั้งอะลูมิเนียมไฮดรอกไซด์และแมกนีเซียมไฮดรอกไซด์ เป็นสารประกอบที่เป็นเบส (Alkaline) เมื่อรับประทานเข้าไป สารเหล่านี้จะทำปฏิกิริยาทางเคมีโดยตรงกับกรดไฮโดรคลอริก (Hydrochloric acid) ซึ่งเป็นกรดในกระเพาะอาหาร
สร้างน้ำและเกลือ: ปฏิกิริยาระหว่างเบสของยาลดกรดกับกรดไฮโดรคลอริกจะเกิดเป็นน้ำและเกลือที่ไม่มีฤทธิ์เป็นกรด ทำให้ความเป็นกรดในกระเพาะอาหารลดลงอย่างรวดเร็ว
ลดอาการระคายเคือง: การลดความเป็นกรดในกระเพาะอาหารช่วยบรรเทาอาการแสบร้อน ระคายเคือง และปวดท้องที่เกิดจากกรดกัดเยื่อบุ
ความแตกต่างและผลเสริมฤทธิ์ของส่วนประกอบ:
แมกนีเซียมไฮดรอกไซด์: ออกฤทธิ์ลดกรดได้เร็วและมีประสิทธิภาพสูง แต่มีผลข้างเคียงคืออาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย (Laxative effect)
อะลูมิเนียมไฮดรอกไซด์: ออกฤทธิ์ลดกรดได้ช้ากว่าและมีประสิทธิภาพน้อยกว่าแมกนีเซียม แต่มีผลข้างเคียงคืออาจทำให้เกิดอาการท้องผูก (Constipating effect)
การผสมผสาน: การรวมกันของอะลูมิเนียมและแมกนีเซียมในยาลดกรด ช่วยให้ยาออกฤทธิ์ได้ทั้งเร็วและนานขึ้น อีกทั้งยังช่วย หักล้างผลข้างเคียงเรื่องท้องเสียและท้องผูกซึ่งกันและกัน ทำให้โอกาสเกิดผลข้างเคียงต่อระบบขับถ่ายน้อยลง และเป็นยาที่ปลอดภัยสำหรับใช้ทั่วไป
ยาลดกรดชนิดนี้ใช้สำหรับบรรเทาอาการไม่สบายท้องที่เกิดจากกรดเกิน:
อาการแสบร้อนกลางอก (Heartburn): อาการที่เกิดจากกรดในกระเพาะไหลย้อนขึ้นมาที่หลอดอาหาร
อาการอาหารไม่ย่อย (Indigestion) และท้องอืด (Dyspepsia): ที่มีสาเหตุมาจากกรดเกิน
ภาวะกรดไหลย้อน (Gastroesophageal Reflux Disease - GERD) ชั่วคราว: ใช้บรรเทาอาการเมื่อมีอาการกำเริบเล็กน้อยถึงปานกลาง
แผลในกระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็กส่วนต้น (Peptic Ulcer Disease): ใช้เป็นยาเสริมเพื่อบรรเทาอาการปวดที่เกิดจากกรด
อาการปวดท้องที่เกิดจากกรดเกิน:
Aluminium-Magnesium Antacid มีหลายรูปแบบและขนาดที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์และอายุของผู้ป่วย:
ก. ยาน้ำแขวนตะกอน (Suspension):
ผู้ใหญ่และเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป: 10-20 มล. เมื่อมีอาการ หรือตามคำแนะนำของแพทย์/เภสัชกร (ไม่ควรเกินปริมาณสูงสุดที่ระบุบนฉลาก)
เด็กอายุ 6-11 ปี: 5-10 มล. เมื่อมีอาการ (ตามคำแนะนำของแพทย์/เภสัชกร)
เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี: ไม่แนะนำให้ใช้ เว้นแต่แพทย์สั่งโดยตรง
ข. ยาเม็ดเคี้ยว:
ผู้ใหญ่และเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป: เคี้ยว 1-2 เม็ด เมื่อมีอาการ หรือตามคำแนะนำของแพทย์/เภสัชกร (ไม่ควรเกินปริมาณสูงสุดที่ระบุบนฉลาก)
วิธีใช้: เคี้ยวยาให้ละเอียดก่อนกลืน แล้วดื่มน้ำตามเล็กน้อย
วิธีการใช้ยา:
รับประทานเมื่อมีอาการ: หรือตามเวลาที่แนะนำ (เช่น 1-3 ชั่วโมงหลังอาหาร และก่อนนอน)
เขย่ายาน้ำแขวนตะกอนให้เข้ากันดีก่อนใช้เสมอ:
ไม่ควรรับประทานยาเกินปริมาณสูงสุดที่ระบุบนฉลาก: หรือเกินกว่าระยะเวลาที่แนะนำ (โดยทั่วไปไม่ควรเกิน 2 สัปดาห์) หากอาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์
ดื่มน้ำตามเล็กน้อย: หลังรับประทานยา เพื่อช่วยให้ยาลงสู่กระเพาะอาหารได้ดีขึ้น
หมายเหตุ: ขนาดยาและวิธีการใช้จะถูกกำหนดโดยแพทย์หรือเภสัชกรตามสภาพอาการและอายุของผู้ป่วย ห้ามปรับขนาดยาเองเด็ดขาด
การแจ้งข้อมูลสุขภาพของคุณอย่างครบถ้วนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อความปลอดภัยในการใช้ Aluminium-Magnesium Antacid คุณควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับ:
ประวัติการแพ้ยา: เคยแพ้ยา Aluminium-Magnesium Antacid หรือส่วนประกอบใดๆ ในยาหรือไม่
โรคประจำตัวอื่นๆ: โดยเฉพาะ
โรคไต (Kidney disease) หรือกำลังฟอกไต: การทำงานของไตที่บกพร่องอาจทำให้มีการสะสมของอะลูมิเนียมและแมกนีเซียมในร่างกาย ซึ่งเป็นอันตรายได้
ภาวะท้องผูกหรือท้องเสียเรื้อรัง:
ภาวะที่ทำให้กลืนลำบาก:
ภาวะลำไส้อุดตัน:
ภาวะขาดฟอสเฟตในเลือด (Hypophosphatemia): (จากการใช้อะลูมิเนียมไฮดรอกไซด์เป็นเวลานาน)
การตั้งครรภ์ หรือกำลังวางแผนตั้งครรภ์:
การให้นมบุตร:
ยา วิตามิน อาหารเสริม สมุนไพรอื่นๆ ที่กำลังใช้: รวมถึงยาที่ซื้อเอง โดยเฉพาะยาโรคหัวใจ (เช่น Digoxin), ยาปฏิชีวนะบางชนิด (เช่น Tetracyclines, Quinolones), ยาไทรอยด์, หรือยาที่ต้องมีการดูดซึมในกระเพาะอาหารที่เป็นกรด
ควรใช้ Aluminium-Magnesium Antacid ด้วยความระมัดระวังในผู้ป่วยบางราย:
ผู้ป่วยโรคไตบกพร่อง: ห้ามใช้ในผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง หรือกำลังฟอกไต เว้นแต่แพทย์สั่ง เนื่องจากอะลูมิเนียมและแมกนีเซียมอาจสะสมในร่างกายและทำให้เกิดพิษได้
การใช้เป็นเวลานาน: การใช้ยาลดกรดต่อเนื่องเป็นเวลานาน (เกิน 2 สัปดาห์) โดยไม่มีคำแนะนำจากแพทย์ อาจบดบังอาการของโรคร้ายแรง เช่น แผลในกระเพาะอาหาร หรือมะเร็งกระเพาะอาหาร ควรปรึกษาแพทย์หากต้องใช้ยาเป็นประจำ
ปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่น: ยาลดกรดสามารถลดการดูดซึมของยาอื่นๆ หลายชนิดได้ (ดูหัวข้อ 8) ควรรับประทานยาลดกรดให้ห่างจากยาอื่นๆ อย่างน้อย 2 ชั่วโมง
ผลข้างเคียงต่อระบบขับถ่าย: แม้จะลดผลข้างเคียงกันเอง แต่บางรายก็อาจมีอาการท้องเสีย (จากแมกนีเซียม) หรือท้องผูก (จากอะลูมิเนียม) ได้
ในเด็กเล็ก: ไม่แนะนำให้ใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เว้นแต่แพทย์สั่ง
อาการที่ต้องเฝ้าระวังและควรพบแพทย์ทันที:
อาการปวดท้องไม่ดีขึ้น หรือแย่ลง: หลังจากใช้ยาไปแล้ว
มีไข้, คลื่นไส้, อาเจียนที่รุนแรง:
ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำคล้ายยางมะตอย หรืออาเจียนเป็นเลือด: (อาจบ่งชี้เลือดออกในทางเดินอาหาร)
น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ:
ปฏิกิริยาแพ้ยาอย่างรุนแรง: ผื่นลมพิษขึ้นทั่วตัว, บวมที่ใบหน้า ลิ้น หรือคอ, หายใจลำบาก (เป็นภาวะฉุกเฉิน)
อาการที่บ่งชี้ถึงพิษจากอะลูมิเนียม/แมกนีเซียม (ในผู้ป่วยไตบกพร่อง): อ่อนเพลีย, กล้ามเนื้ออ่อนแรง, เวียนศีรษะ, สับสน
โดยทั่วไป Aluminium-Magnesium Antacid ไม่จำเป็นต้องมีการตรวจพิเศษใดๆ ระหว่างการใช้ยาเป็นประจำ แต่หากใช้เป็นเวลานานในผู้ป่วยบางราย แพทย์อาจพิจารณาตรวจระดับอิเล็กโทรไลต์ในเลือด
ยาลดกรด Aluminium-Magnesium Antacid มีปฏิกิริยากับยาอื่นๆ หลายชนิด เนื่องจากสามารถเปลี่ยนแปลงค่า pH ในกระเพาะอาหาร และส่งผลต่อการดูดซึมของยา สิ่งสำคัญคือ ต้องแจ้งรายการยา วิตามิน อาหารเสริม สมุนไพรทั้งหมดที่คุณกำลังใช้ให้แพทย์และเภสัชกรทราบเสมอ
ยาที่ต้องระวังเป็นพิเศษ:
ยาปฏิชีวนะบางชนิด: โดยเฉพาะ Tetracyclines (เช่น Doxycycline) และ Quinolones (เช่น Ciprofloxacin, Levofloxacin) ยาลดกรดสามารถลดการดูดซึมของยาเหล่านี้ได้อย่างมาก ควรรับประทานยาปฏิชีวนะเหล่านี้ห่างจากยาลดกรดอย่างน้อย 2-4 ชั่วโมง
ยาไทรอยด์ (Levothyroxine): ยาลดกรดสามารถลดการดูดซึมของยาไทรอยด์ได้ ควรรับประทานยาไทรอยด์ห่างจากยาลดกรดอย่างน้อย 4 ชั่วโมง
Digoxin (ยาโรคหัวใจ): ยาลดกรดอาจลดการดูดซึมของ Digoxin
Iron supplements (ธาตุเหล็ก): อาจลดการดูดซึมธาตุเหล็ก
ยาที่ต้องมีการดูดซึมในกระเพาะอาหารที่เป็นกรด: ยาลดกรดจะไปลดกรด ทำให้ยาเหล่านี้ดูดซึมได้ไม่ดี (เช่น Ketoconazole)
โซเดียมโพลีสไตรีน ซัลโฟเนต (Sodium Polystyrene Sulfonate - Kayexalate): ซึ่งเป็นยาที่ใช้ลดโพแทสเซียมในเลือด ห้ามใช้ร่วมกับยาลดกรดที่มีแมกนีเซียมและอะลูมิเนียม เพราะอาจทำให้เกิดภาวะลำไส้อุดตันและเนื้อตายได้
ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs (เช่น Aspirin, Ibuprofen): แม้บางคนจะใช้ยาลดกรดเพื่อลดการระคายเคืองกระเพาะจาก NSAIDs แต่ก็ควรระวัง เพราะยาลดกรดไม่ได้ป้องกันผลข้างเคียงของ NSAIDs ที่ทำให้เกิดเลือดออกในทางเดินอาหารได้
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย (มักไม่รุนแรงและหายเอง):
ระบบทางเดินอาหาร:
ท้องเสีย: พบบ่อยหากมีส่วนประกอบของแมกนีเซียมมาก หรือในผู้ที่ไวต่อยา
ท้องผูก: พบบ่อยหากมีส่วนประกอบของอะลูมิเนียมมาก หรือในผู้ที่ไวต่อยา
คลื่นไส้, อาเจียน
ปวดท้อง, ไม่สบายท้อง
อื่นๆ: ปากแห้ง, รู้สึกมีชอล์กในปาก
ผลข้างเคียงที่พบน้อยแต่รุนแรง (มักเกิดจากการใช้ยาเกินขนาด, ใช้เป็นเวลานาน, หรือในผู้ป่วยโรคไต):
ภาวะอะลูมิเนียมสะสมในร่างกาย (Aluminum Toxicity): ในผู้ป่วยโรคไต อาจทำให้เกิดอาการทางระบบประสาท (สมองเสื่อม), กระดูกอ่อนแรง (Osteomalacia)
ภาวะแมกนีเซียมในเลือดสูง (Hypermagnesemia): ในผู้ป่วยโรคไต อาจทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย, กล้ามเนื้ออ่อนแรง, หัวใจเต้นช้า, ความดันโลหิตต่ำ
ภาวะขาดฟอสเฟตในเลือด (Hypophosphatemia): จากการใช้อะลูมิเนียมไฮดรอกไซด์เป็นเวลานาน
ปฏิกิริยาแพ้ยาอย่างรุนแรง: ผื่น, คัน, บวม, หายใจลำบาก (พบน้อยมาก)
หากพบอาการรุนแรง หรืออาการที่น่ากังวล ควรรีบหยุดยาและปรึกษาแพทย์ทันที
ใช้ยาตามคำแนะนำบนฉลากยา หรือตามที่แพทย์/เภสัชกรแนะนำอย่างเคร่งครัด: ห้ามใช้เกินขนาด หรือนานเกินไป
แยกรับประทานยาลดกรดห่างจากยาอื่นๆ: อย่างน้อย 2 ชั่วโมง เพื่อป้องกันปฏิกิริยาระหว่างยา
ดื่มน้ำตามเล็กน้อย: หลังรับประทานยา (โดยเฉพาะยาเม็ดเคี้ยว)
สังเกตอาการขับถ่าย: หากมีอาการท้องเสียหรือท้องผูกมาก ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกร
ปรึกษาแพทย์หากต้องใช้ยาเป็นประจำ: หรืออาการไม่ดีขึ้นหลังจากใช้ยาไป 2 สัปดาห์ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของอาการ
หากได้รับ Aluminium-Magnesium Antacid เกินขนาด อาจเกิดอาการท้องเสียรุนแรง, ท้องผูกรุนแรง, หรืออาการคลื่นไส้ อาเจียน และปวดท้อง วิธีแก้ไข: ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที การรักษาจะเน้นที่การดูแลตามอาการและประคับประคอง
ยาลดกรดชนิดนี้มักใช้เมื่อมีอาการเท่านั้น จึงไม่มี "การลืม" รับประทานยาเป็นประจำ
หากมีอาการไม่สบายท้อง ก็สามารถรับประทานยาได้ตามคำแนะนำ
เก็บยาที่อุณหภูมิห้อง: ประมาณ 20-25°C (68-77°F) หรือตามที่ระบุบนฉลากยา
เก็บในที่แห้งและพ้นจากแสงแดดโดยตรง:
เก็บในภาชนะบรรจุเดิมที่ปิดสนิท:
เขย่ายาน้ำแขวนตะกอนให้เข้ากันดีก่อนเก็บและก่อนใช้:
เก็บให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง:
ตรวจสอบวันหมดอายุก่อนใช้ยาเสมอ: ห้ามใช้ยาที่หมดอายุแล้ว
สตรีมีครรภ์: Aluminium-Magnesium Antacid จัดเป็นยาที่ค่อนข้างปลอดภัยสำหรับสตรีมีครรภ์เมื่อใช้ตามขนาดที่แนะนำและไม่ใช้เป็นเวลานาน อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยานี้เสมอ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรก
การให้นมบุตร: ยาเหล่านี้ถูกขับออกทางน้ำนมได้ในปริมาณเล็กน้อย และโดยทั่วไปถือว่าปลอดภัยสำหรับทารกที่กินนมแม่ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
Aluminium-Magnesium Antacid เป็นยาลดกรดชนิดผสมที่มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการไม่สบายท้องที่เกิดจากกรดเกิน เช่น แสบร้อนกลางอก อาหารไม่ย่อย ด้วยกลไกการสะเทินกรดโดยตรงและผลข้างเคียงต่อระบบขับถ่ายที่หักล้างกัน ทำให้เป็นยาที่ปลอดภัยและใช้ได้สะดวก อย่างไรก็ตาม การใช้ยาลดกรดนี้จำเป็นต้องทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการระวังปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่น และการปรึกษาแพทย์หากมีอาการต่อเนื่องหรือรุนแรง การทำความเข้าใจข้อบ่งใช้ ข้อควรระวัง และผลข้างเคียง จะช่วยให้คุณใช้ยานี้ได้อย่างปลอดภัยและได้รับประโยชน์สูงสุด
โปรดจำไว้ว่าข้อมูลในบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้ทั่วไปเท่านั้น และไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรได้ หากมีข้อสงสัยหรืออาการผิดปกติใดๆ ควรปรึกษาบุคลากรทางการแพทย์เสมอ
ยาน้ำแก้โรคกระเพาะ | ยาระบาย | ยาแก้คลื่นไส้อาเจียน | ยา cisapride | ยา hyocyamine | ยาแก้กระเพาะกลุ่ม PPI | ยาขับลม | sucralfate | ranitidine | nizatidine | cimetidine | famotidine | ยาแก้ท้องเสีย | Esomeprazole | lansoprazole | Omeprazole | Misoprostol
วันที่เผยแพร่: 29 กรกฎาคม 2568, 22:00 น. ผู้เขียน: นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร, อายุรแพทย์, แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว ที่มา: SiamHealth.net