siamhealth

หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ

ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงวิกฤต (Hyperglycemic Crises): สัญญาณอันตรายที่ต้องรู้

ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงวิกฤต (Hyperglycemic Crises) คือภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลันที่รุนแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิต เกิดจากการที่ร่างกายขาดอินซูลินอย่างรุนแรงร่วมกับมีระดับฮอร์โมนที่ออกฤทธิ์ต้านอินซูลินสูงขึ้น ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างมากจนร่างกายเสียสมดุลอย่างรุนแรง ภาวะนี้จำเป็นต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน การทำความเข้าใจภาวะนี้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ ภาวะเลือดเป็นกรดจากคีโตน (DKA) และภาวะน้ำตาลสูงจัดจนเลือดข้น (HHS)


สาเหตุที่พบบ่อย

ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงวิกฤตมักมีปัจจัยกระตุ้นที่ชัดเจน การทราบปัจจัยเหล่านี้คือขั้นตอนแรกของการป้องกัน สาเหตุที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่:


1. ภาวะเลือดเป็นกรดจากคีโตน (Diabetic Ketoacidosis - DKA)

DKA เป็นภาวะที่มักพบใน ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มีความเครียดทางกายอย่างรุนแรง

กลไกการเกิดโรค

เมื่อร่างกายขาดอินซูลินอย่างสิ้นเชิง จะไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้ ร่างกายจึงหันไปสลายไขมันแทน ซึ่งกระบวนการนี้จะสร้างสาร "คีโตน" (Ketone) ซึ่งมีความเป็นกรดออกมาในปริมาณมาก เมื่อคีโตนสะสมในเลือด จะทำให้เลือดมีภาวะเป็นกรดรุนแรง

อาการสำคัญ

อาการของ DKA มักเกิดขึ้นและรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงถึงหนึ่งวัน

ภาวะพิเศษ: Euglycemic DKA

เป็นภาวะ DKA ที่อันตรายเพราะระดับน้ำตาลในเลือดอาจไม่สูงมากนัก (ต่ำกว่า 250 มก./ดล.) ทำให้ผู้ป่วยอาจไม่ทันระวัง ภาวะนี้มักเกี่ยวข้องกับการใช้ยาเบาหวานกลุ่ม SGLT2 inhibitors


2. ภาวะน้ำตาลสูงจัดจนเลือดข้น (Hyperglycemic Hyperosmolar State - HHS)

HHS เป็นภาวะที่มักพบใน ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุที่มีการเจ็บป่วยอื่นร่วมด้วย

กลไกการเกิดโรค

ในภาวะ HHS ร่างกายยังพอมีอินซูลินอยู่บ้าง ซึ่งเพียงพอที่จะยับยั้งการสลายไขมัน จึงไม่เกิดภาวะเลือดเป็นกรดจากคีโตน แต่ไม่เพียงพอที่จะควบคุมระดับน้ำตาลได้ ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างมหาศาล (มักสูงกว่า 600 มก./ดล.) และเมื่อร่างกายพยายามขับน้ำตาลส่วนเกินออกทางปัสสาวะ จะทำให้เกิดการสูญเสียน้ำอย่างรุนแรง ส่งผลให้เลือดมีความเข้มข้นสูงมาก (Hyperosmolar) และกระทบต่อการทำงานของสมอง

อาการสำคัญ

อาการของ HHS มักค่อยๆ พัฒนาขึ้นอย่างช้าๆ ในเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์


การรับมือและการป้องกัน

การรับมือ ภาวะ DKA และ HHS ถือเป็น ภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่ต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาลทันที หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการที่น่าสงสัยตามที่กล่าวมา อย่าพยายามรักษาเองที่บ้าน ให้รีบไปพบแพทย์หรือเรียกรถพยาบาลโดยด่วนที่สุด

การป้องกัน: การดูแลตนเองเมื่อเจ็บป่วย (Sick Day Management) การป้องกันที่ดีที่สุดคือการจัดการเบาหวานอย่างถูกต้องในวันที่เจ็บป่วย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เสี่ยงที่สุด

ทบทวนวันที่

โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว






โรคเบาหวาน

โรคเบาหวานคืออะไร

ชนิดของเบาหวาน

ความแตกต่างของเบาหวานชนิดที่1และ2

อาการและสัญญาณเตือน

ใครคือกลุ่มเสี่ยง?

การตรวจและวินิจฉัยโรคเบาหวาน

เป้าหมายสำคัญในการควบคุมเบาหวาน

การเจาะน้ำตาลหลังอาหาร

เกณฑ์การควบคุมเบาหวานที่ดี

น้ำตาลหลังอาหาร

โภชนาการและการกิน

อาหารจานสุขภาพ

การออกกำลังกาย

แนวทางการออกกำลังกายในผู้ป่วยเบาหวาน

การออกกำลังกายในผู้ที่มีโรคแทรกซ้อน

ออกกำลังกายเวลาไหนด

ยารักษาเบาหวาน

เทคโนโลยีเบาหวาน

บาหวานระยะสงบ

IF กับเบาหวาน

การป้องกันและรับมือภาวะแทรกซ้อน

ภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลัน

ภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังที่ ตา, ไต, และปลายประสาท

การดูแลสุขภาพเท้า

การจัดการความเสี่ยงโรคหัวใจ

การจัดการความดันโลหิตสูง

การจัดการเรื่องไขมัน

การดูแลเบาหวานในเด็กและวัยรุ่น

การดูแลเบาหวานในสตรีตั้งครรภ์

การดูแลเบาหวานในผู้สูงอายุ

แนวทางการจัดการน้ำหนัก

เช็กลิสต์การตรวจสุขภาพประจำปี

เที่ยวกับเบาหวาน

การใช้ชีวิตอย่างมีความสุข