
หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ
ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงวิกฤต (Hyperglycemic Crises) คือภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลันที่รุนแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิต เกิดจากการที่ร่างกายขาดอินซูลินอย่างรุนแรงร่วมกับมีระดับฮอร์โมนที่ออกฤทธิ์ต้านอินซูลินสูงขึ้น ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างมากจนร่างกายเสียสมดุลอย่างรุนแรง ภาวะนี้จำเป็นต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน การทำความเข้าใจภาวะนี้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ ภาวะเลือดเป็นกรดจากคีโตน (DKA) และภาวะน้ำตาลสูงจัดจนเลือดข้น (HHS)
ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงวิกฤตมักมีปัจจัยกระตุ้นที่ชัดเจน การทราบปัจจัยเหล่านี้คือขั้นตอนแรกของการป้องกัน สาเหตุที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่:
DKA เป็นภาวะที่มักพบใน ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มีความเครียดทางกายอย่างรุนแรง
เมื่อร่างกายขาดอินซูลินอย่างสิ้นเชิง จะไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้ ร่างกายจึงหันไปสลายไขมันแทน ซึ่งกระบวนการนี้จะสร้างสาร "คีโตน" (Ketone) ซึ่งมีความเป็นกรดออกมาในปริมาณมาก เมื่อคีโตนสะสมในเลือด จะทำให้เลือดมีภาวะเป็นกรดรุนแรง
อาการของ DKA มักเกิดขึ้นและรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงถึงหนึ่งวัน
ภาวะพิเศษ: Euglycemic DKA
เป็นภาวะ DKA ที่อันตรายเพราะระดับน้ำตาลในเลือดอาจไม่สูงมากนัก (ต่ำกว่า 250 มก./ดล.) ทำให้ผู้ป่วยอาจไม่ทันระวัง ภาวะนี้มักเกี่ยวข้องกับการใช้ยาเบาหวานกลุ่ม SGLT2 inhibitors
HHS เป็นภาวะที่มักพบใน ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุที่มีการเจ็บป่วยอื่นร่วมด้วย
ในภาวะ HHS ร่างกายยังพอมีอินซูลินอยู่บ้าง ซึ่งเพียงพอที่จะยับยั้งการสลายไขมัน จึงไม่เกิดภาวะเลือดเป็นกรดจากคีโตน แต่ไม่เพียงพอที่จะควบคุมระดับน้ำตาลได้ ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างมหาศาล (มักสูงกว่า 600 มก./ดล.) และเมื่อร่างกายพยายามขับน้ำตาลส่วนเกินออกทางปัสสาวะ จะทำให้เกิดการสูญเสียน้ำอย่างรุนแรง ส่งผลให้เลือดมีความเข้มข้นสูงมาก (Hyperosmolar) และกระทบต่อการทำงานของสมอง
อาการของ HHS มักค่อยๆ พัฒนาขึ้นอย่างช้าๆ ในเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์
การรับมือ ภาวะ DKA และ HHS ถือเป็น ภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่ต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาลทันที หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการที่น่าสงสัยตามที่กล่าวมา อย่าพยายามรักษาเองที่บ้าน ให้รีบไปพบแพทย์หรือเรียกรถพยาบาลโดยด่วนที่สุด
การป้องกัน: การดูแลตนเองเมื่อเจ็บป่วย (Sick Day Management) การป้องกันที่ดีที่สุดคือการจัดการเบาหวานอย่างถูกต้องในวันที่เจ็บป่วย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เสี่ยงที่สุด
ทบทวนวันที่
โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว