
หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ
โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน แต่เป็นผลลัพธ์ของปัจจัยเสี่ยงและพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่สะสมมานานหลายปี ข่าวดีที่สุดคือ นี่เป็นโรคที่ สามารถป้องกันหรือชะลอการเกิดได้อย่างมีนัยสำคัญ หากคุณรู้ตัวและลงมือปรับเปลี่ยนตั้งแต่วันนี้
กุญแจสำคัญคือการทำความเข้าใจภาวะ "ก่อนเบาหวาน" (Prediabetes) ซึ่งเปรียบเสมือน "สัญญาณไฟเหลือง" ที่ร่างกายกำลังเตือนว่าระดับน้ำตาลในเลือดของคุณสูงกว่าปกติ และกำลังมุ่งหน้าสู่การเป็นเบาหวานเต็มตัว นี่คือ "หน้าต่างแห่งโอกาส" ที่ดีที่สุดในการหยุดยั้งโรคนี้
คุณมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 หากมีคุณสมบัติต่อไปนี้:
มีผลตรวจ น้ำตาลสะสม (HbA1c) อยู่ในช่วง 5.7 - 6.4% (ภาวะก่อนเบาหวาน)
มีภาวะ น้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน (โดยเฉพาะการมีไขมันสะสมที่หน้าท้อง)
มี ประวัติคนในครอบครัวสายตรง (พ่อ, แม่, พี่, น้อง) เป็นโรคเบาหวาน
ขาดการออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอ
มีอายุ 35 ปีขึ้นไป
เคยมีประวัติเป็น เบาหวานขณะตั้งครรภ์
หากคุณมีคุณสมบัติตั้งแต่ 1 ข้อขึ้นไป การปฏิบัติตามแนวทางต่อไปนี้คือสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
งานวิจัยระดับโลกอย่าง Diabetes Prevention Program (DPP) ได้พิสูจน์แล้วว่า การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตอย่างจริงจังสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดเบาหวานได้ถึง 58% โดยมีหัวใจสำคัญอยู่ที่ 3 เสาหลักนี้:
นี่คือเสาหลักที่ทรงพลังที่สุด การลดน้ำหนักตัวลงเพียง 5-7% ของน้ำหนักเริ่มต้น สามารถลดภาวะดื้อต่ออินซูลินและลดความเสี่ยงเบาหวานได้อย่างมหาศาล
ตัวอย่าง: หากคุณหนัก 80 กิโลกรัม เป้าหมายการลดน้ำหนักของคุณคือเพียง 4-6 กิโลกรัมเท่านั้น
วิธีปฏิบัติ: เน้นการควบคุมอาหารและการออกกำลังกายควบคู่กันไป

ไม่ใช่การ "อดอาหาร" แต่คือการ "เลือกกิน" ให้ถูกต้อง
ใช้หลัก "จานอาหารสุขภาพ 2:1:1": ในทุกมื้อ แบ่งจานของคุณออกเป็น 4 ส่วน:
2 ส่วน (ครึ่งจาน): เป็นผักใบเขียวหรือผักอื่นๆ
1 ส่วน (1/4 ของจาน): เป็นโปรตีนไขมันต่ำ (ปลา, อกไก่, เต้าหู้, ไข่)
1 ส่วน (1/4 ของจาน): เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน (ข้าวกล้อง, ขนมปังโฮลวีท, เผือก, มัน)
ลด "น้ำตาลเติมเพิ่ม" (Added Sugars): หลีกเลี่ยงน้ำหวาน, น้ำอัดลม, ชา, กาแฟหวานจัด
เลือกไขมันดี: เน้นไขมันจากพืช เช่น อะโวคาโด, ถั่ว, และน้ำมันมะกอก
การออกกำลังกายช่วยให้กล้ามเนื้อดึงน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้ดีขึ้น
เป้าหมาย: ออกกำลังกายความหนักปานกลาง (เช่น เดินเร็ว, ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ) สะสมให้ได้อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ (หรือ 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์)
ขัดจังหวะการนั่ง: พยายามลุกขึ้นยืนหรือเดินทุกๆ 30-60 นาที เพื่อลดผลเสียจากการนั่งนานๆ
นอนหลับให้เพียงพอ: การนอนน้อย (น้อยกว่า 6-7 ชั่วโมง/คืน) ส่งผลเสียต่อฮอร์โมนและเพิ่มภาวะดื้ออินซูลิน
จัดการความเครียด: ความเครียดเรื้อรังทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น หาเวลาผ่อนคลายด้วยวิธีที่คุณชอบ
งดสูบบุหรี่: การสูบบุหรี่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานอย่างมีนัยสำคัญ
การป้องกันเบาหวานคือการเดินทางที่ต้องอาศัยความสม่ำเสมอ การเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงตั้งแต่วันนี้ คือการลงทุนเพื่อสุขภาพที่ดีที่สุดในระยะยาว ปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจคัดกรองและวางแผนการดูแลที่เหมาะสมกับคุณ
ทบทวนวันที่
โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว