หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ
บทความนี้จะให้ข้อมูลที่ครบถ้วนและสำคัญเกี่ยวกับยา Dicyclomine (ไดไซโคลมีน) ซึ่งเป็นยาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเพื่อบรรเทาอาการของโรคลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome - IBS) จุดประสงค์หลักคือเพื่อให้ผู้ป่วยและบุคคลทั่วไปมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับยานี้ สามารถใช้ยาได้อย่างปลอดภัย และทราบถึงกลไกการออกฤทธิ์ ข้อบ่งใช้ และข้อควรระวังต่างๆ ที่สำคัญ การมีความรู้เกี่ยวกับยาที่คุณใช้จะช่วยให้คุณจัดการกับอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
Dicyclomine (ไดไซโคลมีน) เป็นยาในกลุ่ม Anticholinergics ซึ่งเป็นยาที่ออกฤทธิ์ลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อเรียบในทางเดินอาหาร ใช้สำหรับรักษาและบรรเทาอาการของ โรคลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome - IBS) ยานี้ช่วยลดอาการปวดเกร็งท้อง ท้องเสีย หรือท้องผูกที่เกี่ยวข้องกับ IBS โดยการคลายกล้ามเนื้อที่อยู่ในผนังลำไส้ ทำให้การเคลื่อนไหวของลำไส้ลดลง ชื่อทางการค้าที่เป็นที่รู้จักกันดี ได้แก่ Bentyl เป็นต้น Dicyclomine เป็นยาที่ต้องใช้ตามใบสั่งแพทย์เท่านั้น
อาการปวดเกร็งท้องและปัญหาการขับถ่ายในโรคลำไส้แปรปรวน (IBS) มักเกิดจากการหดเกร็งผิดปกติของกล้ามเนื้อเรียบในลำไส้ Dicyclomine ออกฤทธิ์โดยการ:
ยับยั้งสารสื่อประสาท Acetylcholine: Dicyclomine จะยับยั้งการทำงานของสารสื่อประสาท Acetylcholine ที่ตัวรับ Muscarinic ในเซลล์กล้ามเนื้อเรียบของลำไส้
คลายกล้ามเนื้อเรียบในลำไส้: Acetylcholine มีบทบาทในการกระตุ้นให้กล้ามเนื้อเรียบในทางเดินอาหารหดตัว เมื่อถูกยับยั้งด้วย Dicyclomine กล้ามเนื้อก็จะคลายตัวลง
ลดอาการปวดเกร็งท้อง: การที่กล้ามเนื้อคลายตัว ทำให้การบีบตัวที่ผิดปกติของลำไส้ลดลง อาการปวดเกร็งท้อง (Spasm) ที่เป็นอาการเด่นของ IBS จึงบรรเทาลง
ลดการขับถ่าย: การลดการเคลื่อนไหวของลำไส้ยังอาจช่วยลดอาการท้องเสียที่เกี่ยวข้องกับ IBS ได้ในบางกรณี
Dicyclomine ใช้เพื่อรักษาและบรรเทาอาการของโรคลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome - IBS) เป็นหลัก โดยมีเป้าหมายเพื่อลด:
อาการปวดเกร็งท้อง
อาการปวดเสียด
อาการท้องอืด
อาการท้องผูกหรือท้องเสียที่เกี่ยวข้องกับ IBS
Dicyclomine มีจำหน่ายในรูปแบบยาเม็ดสำหรับรับประทาน โดยทั่วไปมีขนาด 10 มิลลิกรัม (มก.) และ 20 มก.
ขนาดยาที่ใช้:
ผู้ใหญ่: โดยทั่วไปรับประทาน 20 มก. วันละ 4 ครั้ง อาจเริ่มต้นด้วยขนาด 10 มก. วันละ 4 ครั้ง และปรับเพิ่มตามการตอบสนอง
เด็ก: ปรับขนาดตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น ไม่แนะนำให้ใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 6 เดือน
ขนาดยาสูงสุด: ไม่ควรเกิน 160 มก. ต่อวัน
วิธีการใช้ยา:
รับประทานก่อนอาหารอย่างน้อย 1 ชั่วโมง และก่อนนอน: เพื่อให้ยาออกฤทธิ์ได้ดีที่สุดในการคลายกล้ามเนื้อลำไส้ก่อนรับประทานอาหาร
รับประทานยานี้ตอนท้องว่าง:
ควรรับประทานให้ตรงเวลาเดิมทุกวัน: เพื่อรักษาระดับยาในร่างกายให้คงที่
กลืนยาเม็ดทั้งเม็ดพร้อมน้ำ
หมายเหตุ: ขนาดยาและวิธีการใช้จะถูกกำหนดโดยแพทย์ผู้รักษาตามสภาพอาการและอายุของผู้ป่วย ห้ามปรับขนาดยาเองเด็ดขาด
การแจ้งข้อมูลสุขภาพของคุณอย่างครบถ้วนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อความปลอดภัยในการใช้ Dicyclomine คุณควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับ:
ประวัติการแพ้ยา: เคยแพ้ยา Dicyclomine หรือยาอื่นๆ ในกลุ่ม Anticholinergics หรือส่วนประกอบใดๆ ในยาหรือไม่
โรคประจำตัวอื่นๆ: โดยเฉพาะ
ต้อหิน (Glaucoma): โดยเฉพาะต้อหินมุมปิด เพราะ Dicyclomine อาจทำให้อาการแย่ลงได้
ต่อมลูกหมากโต (Benign Prostatic Hyperplasia - BPH): หรืออาการปัสสาวะลำบาก
ภาวะลำไส้อุดตัน (Bowel Obstruction) หรือกระเพาะปัสสาวะอุดตัน:
โรคกรดไหลย้อน (GERD) หรือโรคหลอดอาหารอักเสบ: เนื่องจาก Dicyclomine อาจทำให้หูรูดหลอดอาหารคลายตัว ทำให้อาการแย่ลงได้
โรคหัวใจและหลอดเลือด: เช่น หัวใจวาย, หัวใจเต้นผิดปกติ, ความดันโลหิตสูง
โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Myasthenia Gravis):
โรค ulcerative colitis (ลำไส้ใหญ่อักเสบเป็นแผล):
ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน (Hyperthyroidism):
โรคเส้นประสาท (Autonomic Neuropathy):
ภาวะที่เกี่ยวกับตับหรือไต: หากมีการทำงานที่ผิดปกติ
การตั้งครรภ์ หรือกำลังวางแผนตั้งครรภ์:
การให้นมบุตร: ห้ามให้นมบุตรขณะรับประทานยานี้ เนื่องจากยาอาจผ่านสู่น้ำนมแม่และอาจเป็นอันตรายต่อทารก
การผ่าตัดหรือทำฟันที่กำลังจะเกิดขึ้น: ควรแจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบว่ากำลังใช้ยานี้อยู่
ยา วิตามิน อาหารเสริม สมุนไพรอื่นๆ ที่กำลังใช้: โดยเฉพาะยา amantadine, antacids, ยาต้านซึมเศร้า (tricyclic antidepressants, MAOIs), ยาแก้แพ้, ยาขยายหลอดลม, ยาต้อหิน, Digoxin, Metoclopramide, Nitroglycerin, ยานอนหลับ, ยาแก้ปวดกลุ่มยาเสพติด (meperidine), และยาที่ใช้สำหรับ Parkinson's disease
ควรใช้ Dicyclomine ด้วยความระมัดระวังในผู้ป่วยบางราย:
อาการทางระบบประสาทและสายตา: ยาอาจทำให้เกิดอาการง่วงซึม, ตาพร่ามัว, สับสน, หลงลืม, หรือประสาทหลอนได้ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุหรือผู้ที่รับประทานยาเกินขนาด จึงไม่ควรขับรถหรือทำงานกับเครื่องจักรที่ต้องใช้สมาธิ
การดื่มแอลกอฮอล์: แอลกอฮอล์สามารถเสริมฤทธิ์การง่วงซึมของ Dicyclomine ทำให้ซึมมากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการดื่มสุราขณะใช้ยานี้
ผู้ป่วยที่มีภาวะลำไส้อุดตัน: ยานี้อาจทำให้อาการแย่ลงได้ ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีภาวะลำไส้อุดตัน
การรับประทานยานี้พร้อมกับยาลดกรด (Antacids): ควรรับประทานยาลดกรดห่างจาก Dicyclomine อย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง
อาการเกี่ยวกับหัวใจ: อาจทำให้เกิดอาการหัวใจเต้นเร็วและแรงผิดปกติ ควรระวังในผู้ป่วยโรคหัวใจ
การใช้ในอากาศร้อน: ยา Anticholinergics อาจลดการขับเหงื่อ ทำให้เสี่ยงต่อภาวะตัวร้อนเกิน (Hyperthermia)
อาการที่ต้องเฝ้าระวังและควรพบแพทย์ทันที:
อาการแพ้ยาอย่างรุนแรง: ผื่นคัน, ผื่นลมพิษ, หายใจลำบากหรือกลืนลำบาก, บวมบริเวณใบหน้า, ลำคอ, ลิ้น, ริมฝีปาก
อาการทางระบบประสาทที่รุนแรง: สับสน, หลงลืม, ประสาทหลอน, หูแว่ว, พูดจาเลอะเลือน, วิตกกังวล, อารมณ์แปรปรวน
อาการเกี่ยวกับหัวใจ: หัวใจเต้นเร็วและแรงผิดปกติ, หน้ามืด, เป็นลม, หมดสติ
อาการเกี่ยวกับระบบขับถ่าย: ปัสสาวะลำบากหรือมีอาการเจ็บเวลาปัสสาวะ
อาการอื่นๆ ที่น่ากังวล: มีไข้, ผิวแห้ง, หน้าแดง, ตาพร่ามัวรุนแรง, กล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเหนื่อยผิดปกติ
โดยทั่วไป Dicyclomine ไม่จำเป็นต้องมีการตรวจพิเศษใดๆ ระหว่างการใช้ยาเป็นประจำ แต่ควรมีการติดตามอาการและรายงานให้แพทย์ทราบหากมีอาการข้างเคียงที่น่ากังวล
Dicyclomine มีปฏิกิริยากับยาอื่นๆ หลายชนิด สิ่งสำคัญคือ ต้องแจ้งรายการยา วิตามิน อาหารเสริม สมุนไพรทั้งหมดที่คุณกำลังใช้ให้แพทย์และเภสัชกรทราบเสมอ
ยาลดกรด (Antacids): อาจลดการดูดซึม Dicyclomine ได้ ควรรับประทานห่างกันอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง
ยาต้านซึมเศร้า (Tricyclic Antidepressants, MAOIs) และยาแก้แพ้: การใช้ร่วมกันอาจเพิ่มฤทธิ์ของยาทั้งสองฝ่าย ทำให้เกิดอาการปากแห้ง ง่วงซึม หรือผลข้างเคียงอื่นๆ มากขึ้น
ยาอื่นๆ ที่มีฤทธิ์ Anticholinergic: เช่น Ipratropium, ยาแก้เมารถ, ยาสำหรับ Parkinson's disease, ยาต้านโรคจิต จะเพิ่มผลข้างเคียงของ Dicyclomine
Digoxin: Dicyclomine อาจเพิ่มการดูดซึมของ Digoxin ทำให้ระดับยาในเลือดสูงขึ้นจนอาจเกิดพิษ
Metoclopramide: Dicyclomine อาจลดประสิทธิภาพของ Metoclopramide ในการกระตุ้นการเคลื่อนไหวของทางเดินอาหาร
ยาที่อาจทำให้ง่วงซึม: การใช้ร่วมกับ Dicyclomine อาจเพิ่มอาการง่วงซึมมากขึ้น
Nitroglycerin: อาจลดประสิทธิภาพของยา Nitroglycerin
Amantadine: การใช้ร่วมกันอาจเพิ่มผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย (มักไม่รุนแรงและหายเอง):
อาการทางระบบประสาท: ง่วงซึม, ปวดศีรษะ, มึนงง, อ่อนเพลีย
อาการเกี่ยวกับตา: ตาพร่ามัว, รูม่านตาขยาย
อาการเกี่ยวกับปาก/คอ: ปากแห้ง, คอแห้ง
ระบบทางเดินอาหาร: ท้องผูก, คลื่นไส้, อาเจียน, จุกเสียดแน่นท้อง, มีก๊าซในท้องมาก, เบื่ออาหาร
ผิวหนัง: รู้สึกร้อน, หน้าแดง, ผิวแห้ง, เหงื่อออกลดลง
ผลข้างเคียงที่พบน้อยแต่รุนแรง:
ภาวะทางระบบประสาทส่วนกลาง: สับสน, หลงลืม, ประสาทหลอน, หูแว่ว, อาการทางจิต (Psychotic symptoms)
ภาวะเกี่ยวกับหัวใจ: หัวใจเต้นเร็วและแรงผิดปกติ (Tachycardia), ใจสั่น
ภาวะปัสสาวะลำบากหรือปัสสาวะไม่ออก (Urinary Retention):
อาการแพ้ยาอย่างรุนแรง: ผื่น, ลมพิษ, หายใจลำบาก, กลืนลำบาก
อ่อนแรงหรือเหนื่อยผิดปกติ:
หากพบอาการรุนแรง หรืออาการที่น่ากังวล ควรรีบหยุดยาและปรึกษาแพทย์ทันที
Dicyclomine มักรับประทานวันละ 4 ครั้ง
หากลืมรับประทานยา ให้รับประทานทันทีที่นึกได้
หากใกล้ถึงเวลาของยาครั้งถัดไป ให้ข้ามมื้อที่ลืมไป และรับประทานตามตารางปกติ
ห้ามรับประทานยาเพิ่มเป็นสองเท่าเพื่อชดเชยยาที่ลืมเด็ดขาด: เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้
เก็บยาที่อุณหภูมิห้อง: ประมาณ 20-25°C (68-77°F) หรือตามที่ระบุบนฉลากยา
เก็บในที่แห้งและพ้นจากแสงแดดโดยตรง:
เก็บในภาชนะบรรจุเดิมที่ปิดสนิท:
เก็บให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง:
ตรวจสอบวันหมดอายุก่อนใช้ยาเสมอ: ห้ามใช้ยาที่หมดอายุแล้ว
สตรีมีครรภ์: Dicyclomine จัดอยู่ใน Pregnancy Category B (จากการศึกษาในสัตว์ทดลองไม่พบความเสี่ยง) อย่างไรก็ตาม ควรใช้ยานี้เฉพาะเมื่อจำเป็นจริงๆ และอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
การให้นมบุตร: Dicyclomine อาจถูกขับออกทางน้ำนมแม่ และอาจเป็นอันตรายต่อทารกได้ ห้ามให้นมบุตรขณะรับประทานยานี้
Dicyclomine เป็นยาในกลุ่ม Anticholinergics ที่มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการปวดเกร็งท้องและอาการอื่นๆ ของโรคลำไส้แปรปรวน (IBS) การใช้ยา Dicyclomine จำเป็นต้องทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการระวังผลข้างเคียงต่อระบบประสาทและหัวใจ รวมถึงการระวังปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่น และที่สำคัญคือ ห้ามให้นมบุตรขณะใช้ยานี้ การทำความเข้าใจข้อบ่งใช้ ข้อควรระวัง และผลข้างเคียง จะช่วยให้คุณใช้ยานี้ได้อย่างปลอดภัยและได้รับประโยชน์สูงสุด
โปรดจำไว้ว่าข้อมูลในบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้ทั่วไปเท่านั้น และไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรได้ หากมีข้อสงสัยหรืออาการผิดปกติใดๆ ควรปรึกษาบุคลากรทางการแพทย์เสมอ
วันที่เผยแพร่: 1 สิงหาคม 2568, 10:30 น. ผู้เขียน: นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร, อายุรแพทย์, แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว ที่มา: SiamHealth.net
ยาน้ำแก้โรคกระเพาะ | ยาระบาย | ยาแก้คลื่นไส้อาเจียน | ยา cisapride | ยา hyocyamine | ยาแก้กระเพาะกลุ่ม PPI | ยาขับลม | sucralfate | ranitidine | nizatidine | cimetidine | famotidine | ยาแก้ท้องเสีย | Esomeprazole | lansoprazole | Omeprazole | Misoprostol