หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ
การ Sauté หรือการผัดแบบเร็ว (มาจากภาษาฝรั่งเศส “sauter” แปลว่า "กระโดด") เป็นเทคนิคการทำอาหารที่ใช้กระทะตื้นและน้ำมันหรือเนยในปริมาณน้อยเพื่อผัดวัตถุดิบที่ต้องการ การผัดแบบนี้เหมาะกับวัตถุดิบที่สุกเร็ว เช่น ผัก เนื้อหั่นชิ้นเล็ก หรืออาหารทะเล ทำให้การทำอาหารเป็นไปอย่างรวดเร็ว มีความกรอบ หอม และยังคงคุณค่าทางโภชนาการของวัตถุดิบไว้ได้เป็นอย่างดี บทความนี้จะครอบคลุมถึงหลักการพื้นฐานของการ sauté รวมถึงการเลือกใช้น้ำมัน อุณหภูมิ ข้อดี ข้อเสีย และข้อควรระวังที่ควรรู้ค่ะ
การ Sauté คือการทำอาหารโดยใช้ความร้อนสูงและน้ำมันหรือเนยเพียงเล็กน้อย การใช้ไฟแรงช่วยให้อาหารสุกเร็วและกรอบ ทำให้น้ำและรสชาติภายในวัตถุดิบไม่ระเหยออกไปมากนัก เทคนิคนี้แตกต่างจากการ stir fry ตรงที่ sauté ใช้น้ำมันน้อยกว่าและการเคลื่อนไหวของกระทะจะน้อยกว่า เน้นการเคลื่อนไหวแบบโยนวัตถุดิบขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้สุกทั่วถึง ไม่ต้องการคลุกเคล้าอย่างต่อเนื่อง
น้ำมันที่เหมาะสม: เนื่องจาก sauté ต้องการความร้อนสูง จึงควรใช้น้ำมันที่มีจุดเกิดควันสูง และไม่มีกลิ่นแรง เพื่อไม่ให้รบกวนรสชาติของอาหาร น้ำมันที่แนะนำ ได้แก่:
น้ำมันที่ไม่ควรใช้: น้ำมันบางชนิดไม่เหมาะสำหรับการ sauté เพราะมีจุดเดือดต่ำ อาจทำให้เกิดควันและสูญเสียคุณค่าทางโภชนาการ เช่น:
การทำ Sauté ควรใช้ความร้อนประมาณ 180-200 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นระดับที่สูงพอให้วัตถุดิบสุกเร็วและกรอบนอก การทดสอบว่ากระทะร้อนได้ที่แล้วหรือยัง สามารถทำได้โดยการหยดน้ำลงในกระทะเล็กน้อย ถ้าน้ำแตกตัวเป็นหยดและระเหยทันที แสดงว่ากระทะร้อนได้ที่แล้ว การทำอาหารที่อุณหภูมิสูงนี้ช่วยให้ผักหรือเนื้อสัตว์กรอบนอกนุ่มใน ไม่จำเป็นต้องใส่น้ำมันเยอะ
การ Sauté เป็นเทคนิคการผัดที่รวดเร็วและง่าย ใช้ไฟแรงและน้ำมันเพียงเล็กน้อย ทำให้สามารถเก็บรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการของวัตถุดิบไว้ได้ดี การเลือกใช้น้ำมันและการควบคุมอุณหภูมิเป็นสิ่งสำคัญในการ Sauté ที่ดี ทั้งนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันที่มีจุดเกิดควันต่ำ และเตรียมวัตถุดิบให้พร้อมก่อนเริ่ม เพื่อให้ได้อาหารที่อร่อย กรอบนอกนุ่มใน