siamhealth

หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ

วิธีทอดอาหารอย่างปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ: คู่มือฉบับสมบูรณ์

การทอดอาหารเป็นวิธีปรุงยอดนิยมที่ให้รสชาติกรอบอร่อย แต่หากทอดไม่ถูกวิธีอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทั้งจากน้ำมันที่เสื่อมสภาพและควันพิษ บทความนี้จะแนะนำวิธีทอดอาหารอย่างปลอดภัย ครอบคลุม 4 รูปแบบการทอด การเลือกน้ำมันที่เหมาะสม และวิธีลดความเสี่ยงจากควันพิษ เพื่อให้คุณได้อาหารที่ทั้งอร่อยและดีต่อร่างกาย



รู้จักกรดไขมันในน้ำมัน: ปัจจัยสำคัญในการเลือกน้ำมันทอด

น้ำมันทุกชนิดประกอบด้วยกรดไขมัน 3 ชนิดหลัก ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพและความเหมาะสมในการทอด:

เคล็ดลับ: เลือกน้ำมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนต่ำ (เช่น น้ำมันปาล์มโอเลอิน, น้ำมันรำข้าว) สำหรับการทอด เพื่อลดการออกซิไดซ์

น้ำมันสำหรับทอด: เลือกอย่างไรให้ปลอดภัย

น้ำมันที่ใช้ทอดควรมีคุณสมบัติ ดังนี้:

ข้อควรระวัง: หลีกเลี่ยงน้ำมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนสูง เช่น น้ำมันดอกทานตะวัน (66%), น้ำมันถั่วเหลือง (63%) เพราะออกซิไดซ์ง่าย

ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 283) พ.ศ. 2547 น้ำมันที่ใช้ทอดเพื่อจำหน่ายต้องมีค่าสารโพลาร์ไม่เกิน 25% ของน้ำหนัก เพื่อความปลอดภัยต่อผู้บริโภค

ตารางจุดควันของน้ำมันสำหรับการทอด

น้ำมันจุดควัน (°C)เหมาะกับวิธีทอด
น้ำมันรำข้าว254Deep Fry, Stir Fry
น้ำมันถั่วลิสง232Deep Fry, Stir Fry
น้ำมันมะกอก (Refined)240Pan Fry, Shallow Fry
น้ำมันคาโนลา204Pan Fry, Shallow Fry
น้ำมันมะพร้าว (Refined)232Shallow Fry
น้ำมันดอกทานตะวัน226ไม่แนะนำสำหรับทอด (ออกซิไดซ์ง่าย)

วิธีการทอดอาหาร 4 รูปแบบ

1. Deep Fry (ทอดน้ำมันท่วม)

อาหารจุ่มในน้ำมันทั้งชิ้น เพื่อให้สุกทั่วถึงและกรอบ เช่น ไก่ทอด เฟรนช์ฟรายส์

ทอดน้ำมันท่วม

2. Pan Fry (ทอดกระทะ)

ใช้น้ำมันน้อยถึงปานกลาง เพื่อให้ด้านนอกกรอบและด้านในสุก เช่น สเต็ก ปลาชุบเกล็ด

ทอดกะทะ

3. Stir Fry (ผัด)

ผัดด้วยความร้อนสูงในเวลาสั้น เพื่อรักษาความกรอบ เช่น ผัดผัก ผัดไทย

4.Sautéing

คือวิธีการปรุงอาหารโดยใช้ความร้อนปานกลางถึงสูงในกระทะ ด้วยน้ำมันหรือไขมันปริมาณเล็กน้อย เพื่อให้อาหารสุกอย่างรวดเร็วและคงรสชาติ กลิ่น และสีสันตามธรรมชาติของวัตถุดิบ คำว่า "sauté" มาจากภาษาฝรั่งเศส แปลว่า "กระโดด" เนื่องจากต้องคอยพลิกหรือคนอาหารในกระทะเพื่อให้สุกทั่วถึง มักใช้กับอาหารที่หั่นเป็นชิ้นเล็ก เช่น ผัก เนื้อสัตว์ หรืออาหารทะเล

การผัด

ขั้นตอนการ Sautéing

  1. เตรียมวัตถุดิบ
    • หั่นอาหารเป็นชิ้นเล็กและสม่ำเสมอ เพื่อให้สุกพร้อมกัน (เช่น ผักหั่นเต๋า เนื้อหั่นบาง)
    • ซับวัตถุดิบให้แห้งด้วยกระดาษทิชชู่ เพื่อป้องกันน้ำมันกระเด็นและช่วยให้ผิวด้านนอกกรอบ
  2. เลือกกระทะและน้ำมัน
    • ใช้กระทะก้นแบนที่มีผิวไม่ติด (non-stick) หรือกระทะสเตนเลส
    • เลือกน้ำมันที่มีจุดควันสูง เช่น น้ำมันมะกอก (190-240°C), น้ำมันคาโนลา (204°C) หรือเนยใส (250°C) ปริมาณประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ
  3. ตั้งกระทะให้ร้อน
    • ตั้งกระทะบนไฟปานกลางถึงสูง รอจนกระทะร้อน (สังเกตจากควันบาง ๆ หรือหยดน้ำที่สัมผัสแล้วกลายเป็นลูกกลิ้ง)
    • ใส่น้ำมันหรือเนยลงไป รอจนร้อนและเคลือบก้นกระทะ
  4. ใส่วัตถุดิบและปรุง
    • ใส่วัตถุดิบลงในกระทะทีละน้อย อย่าให้แน่นเกินไป เพื่อป้องกันอาหารนึ่งแทนการทอด
    • คอยพลิกหรือคนอาหารอย่างต่อเนื่องด้วยตะหลิว เพื่อให้สุกทั่วถึง (ใช้เวลา 2-5 นาที ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบ)
    • หากใช้เครื่องปรุง เช่น กระเทียมหรือสมุนไพร ให้ใส่ในช่วงแรกเพื่อให้หอม
  5. ปรุงรสและเสิร์ฟ
    • ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย หรือเครื่องปรุงตามชอบ
    • ตักใส่จานทันทีเพื่อรักษาความกรอบและรสชาติ

ตัวอย่างอาหารที่เหมาะกับ Sautéing

เคล็ดลับ

วิธีนี้ช่วยให้อาหารมีรสชาติเข้มข้นและคงคุณค่าทางโภชนาการได้ดีกว่าการต้มหรือนึ่งครับ 😊 หากต้องการตัวอย่างสูตรเพิ่มเติม บอกมาได้เลย!

ผลกระทบของการทอดต่ออาหารและสุขภาพ

ผลต่ออาหาร

ผลต่อสุขภาพ

เคล็ดลับลดความเสี่ยง: ระบายอากาศขณะทอด หลีกเลี่ยงการทอดซ้ำ และรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผัก ผลไม้

เคล็ดลับการทอดอาหารอย่างปลอดภัย

สรุป

การทอดอาหารอย่างปลอดภัยต้องเลือกน้ำมันที่เหมาะสม (จุดควันสูง, กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนต่ำ) ควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะกับวิธีทอด (Deep Fry, Pan Fry, Stir Fry, Shallow Fry) และลดความเสี่ยงจากควันพิษด้วยการระบายอากาศและหลีกเลี่ยงการทอดซ้ำ ด้วยวิธีเหล่านี้ คุณจะได้อาหารที่ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ

เผยแพร่เมื่อ:

โดย: นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร, อายุรแพทย์, แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว

เพิ่มเพื่อน