siamhealth

หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ

 

บทนำ

ผลิตภัณฑ์นมมประโยชน์ต่อร่างกาย ให้พลังงาน แคลเซียม โปรตีน และสารอาหารอื่นๆ อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์นมอาจจะมีไขมันอิ่มตัวสูง และแนวทางการบริโภคอาหารโดยทั่วไปแนะนำให้ลดปริมาณของกรดไขมันอิ่มตัว (SFAS) เพื่อลดการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ (CAD) การศึกษาล่าสุดพบว่าการใช้ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (โอเมก้า 6 (n-6) กรดไขมันไม่อิ่มตัวพบมากในน้ำมันพืช) แทนไขมันอิ่มตัวจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด เว้นแต่ว่าการได้รับ omega-3 (n–3) polyunsaturated fatty acids ในอัตราส่วนที่เหมาะสมจึงจะลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนั้นการทดแทน SFAS ด้วยอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูงก็จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด มีการศึกษาพบว่าการบริโภคนมและผลิตภัณฑ์นมลดการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ภาวะอ้วนลงพุง metabolic syndrome ซึ่งเป็นความเสี่ยงของภาวะไขมันผิดปกติ ภาวะดื้อต่ออินซูลิน ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น และโรคอ้วนในช่องท้อง ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและโรคหัวใจและหลอดเลือด ผลิตภัณฑ์นมเช่นชีสก็ไม่มีผลเสียต่อระดับไขมันตามที่คาดการณ์ไว้ แคลเซี่ยม และสารอาหารอื่นในนมจะลดผลเสียของไขมันคอเลสเตอรอล LDL และไตรกลีเซอไรด์ โยเกิร์ตซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์นม และเป็นโปรไบโอติก การบริโภคโยเกิร์ต น่าจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพ

สาเหตุการเสียด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดยังสูงแม้ว่าอัตราการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือดจะลดลงเนื่องจากจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น มีหลักฐานเชื่อได้ว่าเราสามารถป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดโดยการปรับพฤติกรรม

ซึ่งสามารถลดอุบัติการณ์ของกล้ามเนื้อหัวใจตาย (MI) โดย> 60% ลดอุบัติการณ์ของโรคหลอดเลือดสมองประมาณ 30% และเพิ่มอายุขัยโดยเฉลี่ยของ 1.3 Y

นมและผลิตภัณฑ์น้ำหนักตัว

การบริโภคผลิตภัณฑ์นมที่ได้รับการศึกษาอย่างกว้างขวางสำหรับบทบาทที่เป็นไปได้ในการควบคุมน้ำหนักตัว มีหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่าการบริโภคผลิตภัณฑ์จากนมช่วยลดไขมันในร่างกาย แต่น้ำหนักตัวเปลี่ยนแปลง โยเกิร์ตอาจจะมีผลกับน้ำหนักและไขมันในร่างกายมากกว่าอาหารประเภทนมอื่น ๆ ซึ่งต้องศึกษาเพิ่ม กลไกที่ผลต่อน้ำหนักเชื่อว่าเกิดจากการเปลี่ยนแปลง microbiota ในลำไส้

มีการศึกษาประมาณแสนสองหมื่นคนเป็นเวลา 4 ปีพบว่าอาหารที่เพิ่มน้ำหนักได้แก่

อาหารที่ทำให้น้ำหนักลด

ผลกระทบของการบริโภคนมกับน้ำหนักและองค์ประกอบของร่างกาย

ได้รับการตรวจสอบจาการศึกษาโดยมีการศึกษาในคนพอจะสรุปได้ว่า

กลไก

ไขมันในเลือด

เชื่อว่าแคลเซี่ยมในนมจะจับกับไขมันทำให้เกิดเกลือซึ่งจะออกทางอุจาระได้มีการทดลองพบว่า หากอาหารมีแคลเซี่ยมสูงจะทำให้ไขมันไม่ดูดซึม และขับออกทางอุจาระ

น้ำหนัก

ดังนั้นโปรตีนนมอาจจะเป็นปัจจัยสำคัญที่อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคนมและน้ำหนักตัวสุขภาพ

และผลิตภัณฑ์นมและโรคโรคหัวใจ

เชื่อว่าการบริโภคผลิตภัณฑ์นมจะลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองตีบ และอัตราการเสียชีวิต แต่จากการศึกษาทางระบาดวิทยาพบว่ามีความขัดแย้งพบ

ไขมันอิ่มตัวและความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด

อาหารซึ่งมีปริมาณไขมันอิ่มสูงเป็นตัวการเพิ่มขึ้นของคอเลสเตอรอลรวมและ LDL และเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด CAD ดังนั้นจึงมีการแนะนำให้ลดการบริโภคไขมันอิ่มตัว SFA ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีหลักฐานโดยตรงสำหรับการรับประทานไขมันอิ่มตัวและโรคหัวใจและหลอดเลือด ประชาชนได้รับคำแนะนำให้รับประทานไขมันซึ่งทำจากพืชเพื่อลดการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ทางอุตสาหกรรมได้ทำน้ำมันซึ่งมีน้ำมันทราส์สูง เช่นมาร์การีน อาหารขบเคี้ยว น้ำมัพืช ซึ่งมีความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด พบว่าการรับประทานไขมันทรานส์เพียงวันละ 5 กรัมจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดถึงร้อยละ 30

เมื่อลดการบริโภคไขมันอิ่มตัวต้องมีการทดแทนด้วยสารอาหารอื่น

สำหรับไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนมีหลายชนิด แต่ละชนิดมีผลต่อสุขภาพไม่เหมือนกัน น้ำมันพืชส่วนใหญ่จะเป็นชนิด n–6 PUFA ซึ่งจากการศึกษาเป็นเวลา 3 ปีพบว่าจะทำให้อัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มมากขึ้น แต่ n–3 PUFAsจะลดการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด จึงแนะนำให้ใช้น้ำมันที่มีทั้ง n–3 และ n–6 PUFAs ซึ่งพบได้ในน้ำมัน canola oil และ olive oil

ผลกระทบของผลิตภัณฑ์นมไขมันกลูโคสและ Homeostasis

ผลิตภัณฑ์นมมไขมันอิ่มตัว SFAS และคอเลสเตอรอลสูง ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด แต่กรดไขมันในนมจะเป็นชนิด ห่วงโซ่สั้น shorter chain fatty acids เหมือนกับที่พบในน้ำมันมะพร้าว medium-chain SFAs ซึ่งมีประโยชน์กับสุขภาพ ซึ่งจะเพิ่มปริมาณคอเลสเตอรอล แต่มีผลดีต่อ HDL ซึ่งป้องกันโรค นอกจากนั้น โปรตีน แคลเซี่ยม ไขมันในนมยังมีประโยชน์ในแง่ลดความดันโลหิต ลดการอักเสบ ลดการเกิดโรคเบาหวาน

มีการศึกษาการดื่มนม น้ำเปล่า และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล ที่มีผลต่อไขมันในช่องท้อง ไขมันในตับ กล้ามเนื้อ และไขมันในเลือด ผลการศึกษา

มีการศึกษาถึงการรับประทานโยเกิร์ตกับไขมันในเลือดพบว่าการรับประทานโยเกิร์ตจะลดไขมัน LDL ลงร้อยละ 8 และระดับความดันก็ลดลง

มีการศึกษาคนที่รับประทานชีส 49 คนเป็นเวลา 6 สัปดาห์ พบว่าคนที่รับประทานชีสจะมีระดับไขมัน tal cholesterol,LDL,HDL Cholesterol ลดลงเชื่อว่าเกิดจากปริมาณแคลเซี่ยมจำนวนมากที่ลดการดูดซึมไขมัน

นอกจากนั้นผลิตภัณฑ์นมเช่น นมพร่องมันเนย โยเกิร์ต จะลดความเสี่ยงของการเกิดความดันโลหิตสูงได้ร้อยละ13 ส่วนนมที่มีปริมารไขมันสูงไม่สามารถลดความดันดหลิต จึงแนะนำให้ดื่มนมพร่องมันเนย หรือรับประทานโยเกิร์ต2-3ส่วนต่อวัน

สรุป

การบริโภคผลิตภัณฑ์นมจะมีประโยชน์ต่อร่างกาย

ผลิตภัณฑ์จากนมจะมีคุณค่าทางอาหาร โปรตีน แคลเซี่ยม ซึ่งเชื่อว่าจะลดไขมันในร่างกาย และปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด การทดแทนไขมันอิ่มตัวด้วย n–6 PUFAs หรืออาหารแป้งที่มีดัชนีน้ำตาลสูงจะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด