หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ
วันที่เรียบเรียง: 18 มิถุนายน 2568
ผู้เรียบเรียง: นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภานุภัทร, อายุรแพทย์, แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว
Felodipine (เฟโลดิพีน) เป็นยาในกลุ่ม Calcium Channel Blockers (CCBs) ประเภท Dihydropyridine ใช้รักษาความดันโลหิตสูง (Hypertension) และอาการเจ็บหน้าอกจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (Angina Pectoris) ยานี้ช่วยขยายหลอดเลือด ลดความดันโลหิต และลดภาระการทำงานของหัวใจ ในประเทศไทย มีจำหน่ายในชื่อการค้า เช่น Plendil, Renedil, หรือยาสามัญ รูปแบบยาคือยาเม็ดออกฤทธิ์นาน (Extended-Release Tablets) ขนาด 2.5, 5, และ 10 มก.
Felodipine ออกฤทธิ์โดย:
ยับยั้งการไหลเข้าของแคลเซียม ผ่านช่องแคลเซียมในกล้ามเนื้อเรียบของหลอดเลือดแดง ทำให้:
หลอดเลือดแดงขยายตัว ลดแรงต้านทานของหลอดเลือดส่วนปลาย (Peripheral Vascular Resistance)
ความดันโลหิตลดลง
เพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังกล้ามเนื้อหัวใจในผู้ป่วย Angina Pectoris ลดอาการเจ็บหน้าอก
ลดภาระการทำงานของหัวใจโดยลด Afterload
Felodipine ใช้เพื่อ:
ความดันโลหิตสูง (Hypertension): ใช้เดี่ยวหรือร่วมกับยาลดความดันอื่น เช่น ACE Inhibitors, Beta-Blockers, หรือ Thiazide Diuretics เพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง, หัวใจวาย, และปัญหาไต
อาการเจ็บหน้าอก (Stable Angina Pectoris): บรรเทาอาการเจ็บหน้าอกจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดและเพิ่มความทนต่อการออกกำลังกาย
รูปแบบยา:
ยาเม็ดออกฤทธิ์นาน (Extended-Release): 2.5, 5, 10 มก.
วิธีใช้:
รับประทานวันละ 1 ครั้ง ตอนเช้า โดยกลืนยาทั้งเม็ดพร้อมน้ำ 1 แก้ว
ควรรับประทานตอนท้องว่าง (ก่อนอาหาร 1 ชม. หรือหลังอาหาร 2 ชม.) เพื่อการดูดซึมที่ดี
ห้ามเคี้ยว, บด, หรือหักยา เพราะจะทำให้ยาออกฤทธิ์เร็วเกินไป
ขนาดยาขึ้นอยู่กับสภาวะโรค, การตอบสนอง, และการทำงานของตับ/ไต
ห้ามหยุดยาทันทีโดยไม่ปรึกษาแพทย์ เพราะอาจทำให้ความดันสูงขึ้นหรือเจ็บหน้าอกกำเริบ
ขนาดยา:
ความดันโลหิตสูง:
ผู้ใหญ่: เริ่มต้น 5 มก./วัน ปรับขนาดทุก 1-2 สัปดาห์ สูงสุด 10 มก./วัน
ผู้สูงอายุ (>65 ปี) หรือตับบกพร่อง: เริ่มต้น 2.5 มก./วัน
Angina Pectoris:
เริ่มต้น 5 มก./วัน ปรับขนาดตามการตอบสนอง สูงสุด 10 มก./วัน
ไตบกพร่อง: ไม่ต้องปรับขนาดยา แต่ควรติดตามความดันและผลข้างเคียง
หมายเหตุ:
ตรวจความดันโลหิตและชีพจรสม่ำเสมอ (แจ้งแพทย์หาก <90/60 mmHg หรือ >140/90 mmHg)
อาการควรดีขึ้นภายใน 2-4 สัปดาห์ หากไม่ดีขึ้น แจ้งแพทย์
หากใช้ร่วมกับยาลดความดันอื่น เริ่มขนาดต่ำเพื่อป้องกันความดันต่ำ
รับประทานยาเวลาเดียวกันทุกวัน (เช่น ทุกเช้า) เพื่อผลการรักษาที่ดี
เปลี่ยนอิริยาบถช้า ๆ (จากนั่งหรือนอนเป็นยืน) โดยเฉพาะช่วงเริ่มใช้ยา เพื่อป้องกันวิงเวียน
ควบคุมอาหารโซเดียมต่ำ, ออกกำลังกายเบา ๆ (เช่น เดิน 30 นาที/วัน), หยุดสูบบุหรี่, และลดน้ำหนักเพื่อสนับสนุนการรักษา
หลีกเลี่ยงน้ำเกรพฟรุตหรือผลเกรพฟรุต เพราะเพิ่มการดูดซึมยาและเสี่ยงความดันต่ำ
ดื่มน้ำเพียงพอเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ โดยเฉพาะหากมีอาการท้องเสียหรือเหงื่อออกมาก
หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ เพราะเพิ่มความเสี่ยงความดันต่ำและง่วงซึม
แจ้งแพทย์หากมีอาการ เช่น ผื่น, บวมหน้า/คอ, เจ็บหน้าอก, หรือบวมขา
พบแพทย์ตามนัดเพื่อตรวจความดันโลหิต, การทำงานของตับ (LFT), และไต (CrCl, eGFR)
หากต้องผ่าตัด (รวมถึงทันตกรรม) แจ้งแพทย์ว่ากำลังใช้ Felodipine
สำหรับผู้ป่วยความดันสูง: ใช้ยาต่อเนื่องแม้ไม่มีอาการ เพราะอาจต้องใช้ตลอดชีวิต
ห้ามใช้ในผู้ที่มี:
แพ้ Felodipine หรือ CCBs อื่นในกลุ่ม Dihydropyridine เช่น Amlodipine, Nifedipine
ความดันโลหิตต่ำรุนแรง (Systolic BP <90 mmHg)
หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน หรือหัวใจล้มเหลวที่ควบคุมไม่ได้
ลิ้นหัวใจตีบรุนแรง (Severe Aortic Stenosis)
ภาวะช็อกจากหัวใจ (Cardiogenic Shock)
หัวใจเต้นช้ารุนแรง หรือผิดจังหวะรุนแรง (เช่น Sick Sinus Syndrome, AV Block เกรด 2-3 โดยไม่มีเครื่องกระตุ้น)
หัวใจวายเฉียบพลัน (Acute Myocardial Infarction) พร้อมภาวะหัวใจล้มเหลว
ใช้ด้วยความระวังในผู้ที่มี:
ตับบกพร่อง: เสี่ยงยาคั่งในร่างกาย เริ่มขนาดต่ำ (2.5 มก.) และตรวจ LFT
ไตบกพร่อง: ติดตามความดันและผลข้างเคียง แม้ไม่ต้องปรับขนาดยา
ผู้สูงอายุ (>65 ปี): ไวต่อผลข้างเคียง เช่น ความดันต่ำ, บวมขา, หรือเสี่ยงล้ม
โรคหัวใจ: เช่น หัวใจเต้นช้า, เจ็บหน้าอกเฉียบพลัน, หรือหัวใจล้มเหลวเรื้อรัง
ภาวะขาดน้ำ หรือความดันต่ำ (เช่น อาเจียน, ท้องเสีย, เหงื่อออกมาก)
ประวัติแพ้ยา หรือผื่นจากยาอื่น
หญิงตั้งครรภ์ (ประเภท C): ใช้เมื่อประโยชน์มากกว่าโทษ ปรึกษาแพทย์
หญิงให้นมบุตร: ไม่แนะนำ เนื่องจากอาจขับออกในน้ำนม ปรึกษาแพทย์
หลีกเลี่ยงยาที่รบกวนการเผาผลาญ Felodipine เช่น Cimetidine, Ketoconazole, Erythromycin
แจ้งแพทย์หากมีอาการ เช่น หัวใจเต้นเร็ว, เจ็บหน้าอก, หรือบวมขา
รุนแรง (หยุดยาและพบแพทย์ทันที):
อาการแพ้: ผื่นลมพิษ, คัน, บวมหน้า/ตา/ปาก/ลิ้น/คอ, หายใจหรือกลืนลำบาก
ความดันต่ำรุนแรง: หน้ามืด, เป็นลม, อ่อนแรง
เจ็บหน้าอก: แน่นหน้าอกด้านซ้าย ร้าวไปแขน/ไหล่ หรือเจ็บหน้าอกกำเริบ
หัวใจเต้นผิดจังหวะ: หัวใจเต้นเร็ว/รัว, หัวใจเต้นช้า, ชีพจรอ่อน
หายใจลำบาก: หายใจถี่, หายใจมีเสียงวี๊ด
ควรปรึกษาแพทย์:
บวมน้ำ: บวมมือ, แขน, ขา, หรือเท้า (Peripheral Edema)
ปวดศีรษะรุนแรง, มึนงง, สับสน
หน้าแดง, รู้สึกร้อนวูบวาบ
เหนื่อยล้าผิดปกติ, คลื่นไส้
การตรวจพิเศษ:
ตรวจความดันโลหิต , ชีพขจร, ECG (หากสงสัยหัวใจผิดจังหวะ)
ตรวจ LFT, CrCl/eGFR ในผู้ป่วยตับหรือไตบกพร่อง
Angina: ตรวจ Stress Test หรือ Coronary Angiography
ยาที่เพิ่มระดับ Felodipine ในร่างกาย (เสี่ยงความดันต่ำ):
Cimetidine, Ketoconazole, Itraconazole, Erythromycin: ลดการเผาผลาย Felodipine ผ่าน CYP3A4
ยาที่ลดระดับ Felodipine (เสรี่ยงความดันสูง):
Carbamazepine, Phenobarbital, Phenytoin: เพิ่มการเผาผลาย Felodipine
ยาที่ Felodipine อาจรบกวน:
ยาลดความดันอื่น (เช่น ACE Inhibitors, Beta-Blockers): เสี่ยงความดันต่ำ
Digoxin: ติดตามระดับ Digoxin ในอาจา
อาหาร/เครื่องดื่ม:
น้ำเกรพฟรุต: เพิ่มการดูดซึม Felodipine เสี่ยงความดันต่ำ
แอลกอฮอล์: เพิ่มความเสี่ยงความดันต่ำและง่วง
แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยา, อาหารเสริม, หรือสมุนไพรทั้งหมด
พบบ่อย:
บวน้ำ (Peripheral Edema): บวมหลังเท้า, ขา, หรือมือ
ปวดศีรษะ, มึนงง, อ่อนเพลีย
หน้าแดง, รู้สึกร้อนวูบวาบ
หัวใจเต้นเร็วหรือรู้สึกใจสั่น
รุนแรง (พบน้อย):
อาการแพ้: ผื่นลมพิษ, คัน, บวมหน้า/ตา/ปาก/ลิ้น/คอ, หายใจลำบาก
ความดันต่ำรุนแรง: หน้ามืด, เป็นลม, อ่อนแรง
เจ็บหน้าอกกำเริบ: แน่นหน้าอก, ร้าวไปแขน/ไหล่
หัวใจเต้นผิดจังหวะ: หัวใจเต้นเร็ว/ช้า/รัว, ชีพจรอ่อน
หายใจลำบาก: หายใจถี่, มีเสียงวี๊ด
หากพบอาการรุนแรง หยุดยาและพบแพทย์ทันที
รับประมานยาตามขนาดที่แพทย์สั่ง
เปลี่ยนอิริยยาบถช้า ๆ หากหน้ามืด หากหน้ามืด นั่งหรือนอนราบ ไม่หนุนหมอน
ยกขาสูงเมื่อนั่งเพื่อลดบวมขา
หลีกเลี่ยงน้ำเกรพฟรุตและแอลกอฮอล์
หากปวดศีรษะหรือหน้าแดง พักผ่อนในที่เงียบและเย็น
หากบวมขาหรือเจ็บหน้าอก แจ้งแพทย์ทันที
หากลืมภายใน 12 ชม. รับประทานทันทีที่นึกได้
หากเกิน 12 ชม. ข้ามมื้อนั้นและรับประมานมื้อถัดไปตามปกติ อย่ารับประทานสองเท่า
แจ้งแพทย์หากลืมบ่อยหรือมีอาการ เช่น ความดันสูงหรือเจ็บหน้าอก
อาการ: ความดันต่ำรุนแรง, วิงเวียน, เป็นลม, หัวใจเต้นช้า, ช็อก
ติดต่อโรงพยาบาลทันที อาจต้องให้สารน้ำหรือยาเพิ่มความดัน
เก็บในภาชนะเดิม ปิดสนิท ป้องกันแสงและความชื้น
เก็บที่อุณหภูมิ 15-30°C ห่างจากความร้อนและห้องน้ำ
เก็บให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ทิ้งยาที่หมดอายุโดยปรึกษาเภสัชกร
Felodipine ใช้รักษาอะไร?
ใช้รักษาความดันโลหิตสูงและอาการเจ็บหน้าอกจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (Angina Pectoris)
ทำไม Felodipine ทำให้บวน้ำที่ขา?
เป็นผลจากการขยายหลอดเลือด ทำให้ของเหลวรั่วไหลสู่เนื้อเยื่อ แจ้งแพทย์หากบวมมาก
ต้องหลีกเลี่ยงอะไรเมื่อใช้ Felodipine?
หลกเลี่ยงน้ำเกรพฟรุต, แอลกอฮอล์, และยา เช่น Cimetidine, Etoconazole
Felodipine ปลอดภัยในหญิงตั้งครรภ์หรือไม่?
ประเภท C ใช้เมื่อประโยชน์มากกว่าโทษ ปรึกษาแพทย์
ผลข้างเคียง เช่น บวมขาหรือเจ็บหน้าอก จัดการอย่างไร?
หากบวมขาหรือเจ็บหน้าอก หยุดยาและพบแพทย์ทันที
Felodipine เป็นยาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาความดันโลหิตสูงและอาการเจ็บหน้าอกจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ช่วยขยายหลอดเลือดและลดภาระการทำงานของหัวใจ การใช้ยาต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เนื่องจากเสี่ยงต่อผลข้างเคียง เช่น บวน้ำ, ความดันต่ำ, และอาการแพ้ ผู้ป่วยควรตรวจความดันและการทำงานของตับ/ไตสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงน้ำเกรพฟรุต, แอลกอฮอล์, และยาที่รบกวนการเผาผลาย การปฏิบัติตามคำแนะนำและปรับพฤติกรรม เช่น ควบคุมอาหารโซเดียมต่ำ จะช่วยให้การรักษาปลอดภัยและได้ผลดี
Nifedipine | Amlodipine | Felodipine | Nicardipine | Nimodipine | Diltiazem |