siamhealth

หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ

Nifedipine: คู่มือการใช้ยาอย่างปลอดภัยและข้อมูลสำคัญสำหรับการรักษาความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ

 

บทความนี้จะให้ข้อมูลที่ครบถ้วนและสำคัญเกี่ยวกับยา Nifedipine ซึ่งเป็นยาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการรักษาภาวะความดันโลหิตสูงและอาการเจ็บหน้าอกจากโรคหัวใจ จุดประสงค์หลักคือเพื่อให้ผู้ป่วยและบุคคลทั่วไปมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับยานี้ สามารถใช้ยาได้อย่างปลอดภัย และทราบถึงข้อควรระวังต่างๆ ที่สำคัญ การมีความรู้เกี่ยวกับยาที่คุณใช้จะช่วยให้คุณจัดการกับโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น


1. Nifedipine คืออะไร?

Nifedipine (ไนเฟดิพีน) เป็นยาในกลุ่ม Calcium Channel Blockers (CCBs) ประเภท Dihydropyridine ใช้สำหรับรักษาภาวะความดันโลหิตสูง (Hypertension) และอาการเจ็บหน้าอกจากโรคหัวใจ (Angina) ซึ่งรวมถึง Prinzmetal Angina (อาการเจ็บหน้าอกจากหลอดเลือดหัวใจหดเกร็ง) และ Chronic Stable Angina (อาการเจ็บหน้าอกที่สัมพันธ์กับการออกแรง)

Nifedipine มีทั้งรูปแบบยาเม็ดรับประทานแบบ ออกฤทธิ์ทันที (Immediate-Release, IR) และแบบ ออกฤทธิ์นาน (Extended-Release, ER) ชื่อทางการค้าที่เป็นที่รู้จักกันดี ได้แก่ Procardia, Procardia XL, Adalat CC, Nifedical XL, Afeditab CR และยังมีในรูปแบบยาสามัญ (Generic) ด้วย ในประเทศไทย Nifedipine เป็นยาที่ต้องใช้ตามใบสั่งแพทย์เท่านั้น


2. กลไกการออกฤทธิ์: Nifedipine ทำงานอย่างไร?

Nifedipine ออกฤทธิ์โดยการไปยับยั้งช่องแคลเซียมชนิด L-type ที่พบมากในเซลล์กล้ามเนื้อเรียบของหลอดเลือดและเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ เมื่อช่องแคลเซียมถูกยับยั้ง จะส่งผลให้:

ความแตกต่างระหว่างรูปแบบยา:


3. Nifedipine ใช้รักษาโรคอะไร?

Nifedipine ใช้รักษาโรคและภาวะต่างๆ ดังนี้:

การใช้แบบ Off-Label (การใช้นอกเหนือข้อบ่งชี้ที่ได้รับการอนุมัติ แต่มีข้อมูลสนับสนุน):

ในประเทศไทย Nifedipine มักใช้ในผู้ป่วยความดันโลหิตสูงและอาการเจ็บหน้าอก และรูปแบบ ER เป็นที่นิยมใช้มากกว่า


4. ขนาดและวิธีการใช้ยา

Nifedipine มีหลายขนาดและรูปแบบการใช้ ขึ้นอยู่กับภาวะที่รักษาและรูปแบบยา:

ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่:

ขนาดยาสำหรับเด็ก (เฉพาะความดันโลหิตสูง):

สำหรับ Preterm Labor (การยับยั้งการคลอดก่อนกำหนด):

วิธีการใช้ยา:

หมายเหตุ: ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีปัญหาการทำงานของตับหรือไต อาจต้องใช้ยาในขนาดที่ต่ำกว่าปกติ และต้องติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิด แพทย์จะเป็นผู้ปรับขนาดยาตามการตอบสนองและสภาพของผู้ป่วย


5. ข้อแนะนำในการใช้ยา

เพื่อการใช้ Nifedipine อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด:


6. ข้อห้ามในการใช้ยา

Nifedipine มีข้อห้ามใช้ในผู้ป่วยบางกลุ่มดังนี้:


7. ข้อควรระวังในการใช้ยา

ควรใช้ Nifedipine ด้วยความระมัดระวังในผู้ป่วยบางราย:


8. อาการที่ต้องระวังและควรพบแพทย์ทันที

อาการทั่วไปที่อาจพบ (และพบบ่อยประมาณ 20-30%):

อาการรุนแรงที่ต้องพบแพทย์ทันที:

หากมีอาการรุนแรงเหล่านี้เกิดขึ้น ควร หยุดยาและติดต่อแพทย์ทันที หรือโทร 1669 (ในประเทศไทย)


9. ปฏิกิริยาระหว่างยา: ใช้ร่วมกับยาอื่นได้หรือไม่?

Nifedipine สามารถทำปฏิกิริยากับยาอื่นๆ ได้หลายชนิด ซึ่งอาจส่งผลต่อระดับยา Nifedipine ในเลือด หรือยาอื่นที่ใช้ร่วมกัน สิ่งสำคัญคือ ต้องแจ้งรายการยา วิตามิน อาหารเสริม และสมุนไพรทั้งหมดที่คุณกำลังใช้ให้แพทย์และเภสัชกรทราบเสมอ

ยาที่ต้องระวังเป็นพิเศษ:

วิธีป้องกัน:


10. ผลข้างเคียงหรือไม่พึงประสงค์ของยา

ผลข้างเคียงที่พบบ่อย (พบ 20-30% ของผู้ใช้):

ผลข้างเคียงที่รุนแรง (พบน้อย):

ในประเทศไทย พบอาการบวมที่ขา/ข้อเท้า (Peripheral Edema) และภาวะความดันโลหิตต่ำ (Hypotension) บ่อยในผู้สูงอายุที่ใช้ยานี้


11. วิธีลดหรือป้องกันผลข้างเคียง


12. หากได้รับยาเกินขนาดต้องทำอย่างไร?

หากรับประทานยา Nifedipine เกินขนาด อาจเกิดอาการรุนแรง เช่น ความดันโลหิตต่ำมาก, หัวใจเต้นช้า, มึนงงรุนแรง, หมดสติ วิธีแก้ไข: ควรรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลหรือปรึกษาแพทย์ทันที การรักษาจะมุ่งเน้นที่การดูแลประคับประคอง การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ และการรักษาอาการเฉพาะหน้า


13. หากลืมใช้ยาต้องทำอย่างไร?


14. การเก็บรักษายา


15. ความปลอดภัยในสตรีมีครรภ์และให้นมบุตร


สรุป

Nifedipine เป็นยาในกลุ่ม Calcium Channel Blocker ที่มีประสิทธิภาพสูงในการรักษาภาวะความดันโลหิตสูงและอาการเจ็บหน้าอก โดยการลดความต้านทานของหลอดเลือดและเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงหัวใจ การใช้ยา Nifedipine ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และเฝ้าระวังผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เช่น ภาวะความดันโลหิตต่ำ, อาการบวมที่ขา/ข้อเท้า, และภาวะเหงือกบวมโต นอกจากนี้ ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงเกรปฟรุตและสมุนไพรบางชนิด และเข้ารับการตรวจติดตามการรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้การใช้ยาเป็นไปอย่างปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

โปรดจำไว้ว่าข้อมูลในบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้ทั่วไปเท่านั้น และไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรได้ หากมีข้อสงสัยหรืออาการผิดปกติใดๆ ควรปรึกษาบุคลากรทางการแพทย์เสมอ

แหล่งอ้างอิง:

วันที่เผยแพร่: 27 กรกฎาคม 2568, 11:00 น. ผู้เขียน: นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร, อายุรแพทย์, แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว ที่มา: SiamHealth.net

 

Nifedipine | Amlodipine | Felodipine | Nicardipine | Nimodipine | Diltiazem |

ยาลดความดันโลหิตกลุ่ม Calcium blocker