หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ
Roxatidine (รอกซาทิดีน) เป็นยาในกลุ่ม H2-receptor antagonist หรือ H2 blocker ซึ่งมีคุณสมบัติลดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ ยานี้ใช้สำหรับรักษาและป้องกันโรคที่เกี่ยวข้องกับภาวะกรดเกิน เช่น แผลในกระเพาะอาหาร แผลในลำไส้เล็กส่วนต้น และโรคกรดไหลย้อน การใช้ยาอย่างถูกวิธีและเข้าใจข้อควรระวังเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้การรักษาได้ผลดีและปลอดภัย
Roxatidine เป็นยาที่ทำหน้าที่ยับยั้งการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร มีรูปแบบยาเม็ดสำหรับรับประทาน ยานี้จะออกฤทธิ์โดยการปิดกั้นตัวรับฮิสตามีน (H2-receptor) ในเซลล์ผนังกระเพาะอาหาร ทำให้ปริมาณกรดที่หลั่งออกมาลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
เช่นเดียวกับยาในกลุ่ม H2-blocker ตัวอื่น ๆ Roxatidine ออกฤทธิ์โดย:
ยับยั้งตัวรับฮิสตามีน: เข้าไปจับและปิดกั้น H2-receptor ที่อยู่บนผิวของเซลล์ผนังกระเพาะอาหาร
ลดการหลั่งกรด: เมื่อตัวรับถูกปิดกั้น สารฮิสตามีนซึ่งเป็นตัวกระตุ้นหลักในการผลิตกรดจึงไม่สามารถทำงานได้ ทำให้การหลั่งกรดลดลงอย่างมีประสิทธิภาพ
Roxatidine ใช้สำหรับ:
รักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น: ทั้งในระยะเฉียบพลันและป้องกันการกลับเป็นซ้ำ
โรคกรดไหลย้อน (GERD): บรรเทาอาการแสบร้อนกลางอกและรักษาภาวะกระเพาะอาหารอักเสบจากกรดไหลย้อน
ภาวะอาหารไม่ย่อยที่เกิดจากกรดเกิน: บรรเทาอาการจุกเสียด แน่นท้อง
กระเพาะอาหารอักเสบ: ช่วยลดการระคายเคืองและอาการอักเสบ
Roxatidine มีจำหน่ายในรูปแบบยาเม็ดออกฤทธิ์นาน ขนาด 75 มก. และ 150 มก.
ขนาดที่ใช้รักษา:
แผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก: 150 มก. วันละครั้งก่อนนอน เป็นเวลา 4 สัปดาห์ และอาจลดขนาดยาเพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำเหลือ 75 มก. วันละครั้งก่อนนอน เป็นเวลา 2-4 สัปดาห์
กรดไหลย้อน: 75 มก. วันละ 2 ครั้ง หรือ 150 มก. วันละครั้ง
กระเพาะอาหารอักเสบ: 75 มก. วันละครั้งตอนเย็น
ภาวะอาหารไม่ย่อย: 75 มก. วันละ 2 ครั้ง นานไม่เกิน 4 สัปดาห์
วิธีการใช้ยา:
รับประทานยานี้วันละครั้งก่อนนอน โดย กลืนยาทั้งเม็ด ห้ามเคี้ยว
หากต้องรับประทานยาร่วมกับยาลดกรด: ให้รับประทานยาลดกรดหลังจากรับประทาน Roxatidine ไปแล้วอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการรบกวนการดูดซึมของยา
ห้ามใช้ยาในขนาดที่มากเกินไป
สิ่งที่ต้องแจ้งแพทย์หรือเภสัชกร:
ประวัติการแพ้ยา: เคยแพ้ Roxatidine หรือยาอื่น ๆ
โรคประจำตัว: โดยเฉพาะโรคตับ, โรคไต, และ Porphyria
การตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร: ยานี้อาจมีผลกระทบ จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
ข้อห้ามและข้อควรระวังพิเศษ:
ห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์ เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลยืนยันความปลอดภัยที่ชัดเจน
ผู้ป่วยโรคตับและโรคไต: ควรใช้ยาอย่างระมัดระวังและอาจต้องมีการปรับขนาดยาลง
ผลข้างเคียงทั่วไป (มักไม่รุนแรง)
ปวดศีรษะ
ท้องผูก หรือ ท้องเสีย
คลื่นไส้, อาเจียน
มึนงง, นอนไม่หลับ
อาการอันตรายที่ต้องหยุดยาและรีบพบแพทย์ทันที
อาการแพ้ยาอย่างรุนแรง: ผื่นลมพิษ, หายใจลำบาก, บวมที่ใบหน้า ลิ้น หรือคอ ซึ่งเป็นอาการที่ไม่รุนแรงและมักหายได้เอง
เก็บยาในภาชนะที่ปิดสนิท
เก็บที่อุณหภูมิห้อง ในที่แห้งและพ้นจากความร้อนและแสงแดดโดยตรง
เก็บให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ตรวจสอบวันหมดอายุก่อนใช้เสมอ
สรุป
Roxatidine เป็นยาที่มีประสิทธิภาพในการลดกรดในกระเพาะอาหาร แต่ควรใช้ยาภายใต้การดูแลของแพทย์ โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคตับหรือโรคไต และห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด หากมีอาการผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทันที
11111
ยารักษาโรคกระเพาะอาหาร Roxatidine เป็นยาที่ลดการหลั่งของกรดในกระเพาะอาหาร ดังนั้นจึงใช้รักษาแผลในกระเพาะอาหาร และยังป้องกันการกลับเป็นซ้ำของแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น
ขนาดยาและวิธีการใช้ยา
รับประทานยานี้วันละครั้งก่อนนอน โดยกลืนยาทั้งเม็ด ห้ามเคี้ยว ยานี้มีขายในรูปยาเม็ดออกฤทธิ์นาน ขนาด 75 และ 150 มก. ขนาดใช้ยาในการรักษามีดังนี้
อาการข้างเคียงของยา
อาจมีอาการปวดศีรษะ ท้องผูกหรือท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน มึนงง นอนไม่หลับ เกิดขึ้นได้ แต่ไม่รุนแรง หากทนได้
เก็บยาในภาชนะที่บรรจุมา ปิดให้สนิท และพ้นมือเด็ก เก็บที่อุณหภูมิห้องในที่แห้ง ไม่ถูกความร้อนและแสงโดยตรง
ห้าให้ยาในกรณีใดบ้าง
ควรจะระวังการใช้ยาอะไรบ้าง
ควรจะระมัดระวังการใช้ยาในผู้ป่วยที่เป็นโรคตับ การตั้งครรภ์
ยาน้ำแก้โรคกระเพาะ | ยาระบาย | ยาแก้คลื่นไส้อาเจียน | ยา cisapride | ยา hyocyamine | ยาแก้กระเพาะกลุ่ม PPI | ยาขับลม | sucralfate | ranitidine | nizatidine | cimetidine | famotidine | ยาแก้ท้องเสีย | Esomeprazole | lansoprazole | Omeprazole | Misoprostol