ยา5กลุ่มที่เป็นสาเหตุตับอักเสบ


เอนไซม์ของตับเป็นสารเคมีที่อยู่ในตับเมื่อเซลล์ของตับได้รับอันตรายก็จะมีการหลั่งเอนไซม์ออกจากเซลล์ตับ สาเหตุที่ทำให้ค่าเอนไซม์ตับสูงได้แก่

1ผลข้างเคียงของยา

ยาบางประเภทอาจจะทำให้ค่าเอนไซม์ของตับเพิ่ม ท่านที่รับประทานต้องเฝ้าดูอาการว่ามีอาการของตับอักเสบหรือไม่ยาดังกล่าวได้แก่

1.1ยาแก้ปวด

ยากันชัก

  • phenytoin 
  • valproic acid 
  • carbamazepine 
  • phenobarbital

1.2ยาปฏิชีวนะ

1.3ยาลดไขมัน Cholesterol เช่นกลุ่ม statins:

1.4ยารักษาโรคหัวใจ

1.5ยาอื่นๆ

  • ยาต้านโรคซึมเศร้า Antidepressant drugs of the tricyclic type

เมื่อหยุดยาที่ทำให้ค่าเอนไซม์ขึ้นประมาณเป็นสัปดาห์หรือเดือนค่าจะกลับสู่ปกติ



2โรคหรือภาวะอื่นๆที่ทำให้ค่าเอนไซม์ขึ้น

  • ไวรัสตับอักเสบ
  • ตับอักเสบหรือถูกทำลายจากยา เช่น รับประทานพาราเซตตามอลเกินขนาด หรือรับประทานเห็ดพิษ
  • ตับเสียหายจากขาดเลือดเนื่องจากความดันโลหิตต่ำ

สาเหตุอื่นๆที่ทำให้เอนไซม์ของตับขึ้นสูงขึ้น

  • Hemachromatosis  เป็นโรคทางพันธุกรรมทำให้เหล็กสะสมในตับหากไม่รักษาจะกลายเป็นโรคตับแข็ง
  • Wilson's disease เป็นโรคทางพันธุกรรมมมีการสะสมของทองแดงในตับและสมอง
  • alfa-1-antitrypsin deficiency 
  • โรคภูมิคุ้มกันตัวเองทำให้ตับอักเสบ Autoimmune hepatitis
  • Celiac disease (celiac sprue) ลำไส้อักเสบจากการแพ้อาหาร
  • Crohn's disease and ulcerative colitis ลำไส้อักเสบ
  • การติดเชื้อไวรัสชนิดอื่นๆ
  • การติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อพยาธิ์ชนิดอื่นๆ
  • มะเร็งของตับ หรือมะเร็งที่แพร่กระจายมาที่ตับ
  • เนื้องอกของตับ

การค้นหาสาเหตุสำหรับผู้ที่ไม่มีอาการแต่ค่าเอนไซม์สูงกว่าปกติ

สำหรับท่านที่เช็คสุขภาพ หรือตรวจตับพบว่ามีค่าเอนไซม์สูงโดยที่ไม่มีอาการ การค้นหาเหตุจะต้องพิจารณาเป็นรายๆขึ้นกับประวัติส่วนบุคคล การเจ็บป่วย การค้นหาจะต้องอาศัย

  • ประวัติการใช้ยา
  • ประวัติการดื่มสุรา
  • ประวัติการมีเพศสัมพันธ์
  • ประวัติการได้รับเลือด
  • ประวัติการฉีดยาเสพติดเข้าเส้น
  • ประวัติโรคประจำครอบครัว

นอกจากนั้นจะต้องเฝ้าดูว่ามีอาการของโรคตับหรือไม่ เช่น

  • ตัวเหลืองตาเหลือง
  • เลือดออกง่าย หรือหยุดยาก
  • ท้องมาน
  • ตับม้ามโต
  • สับสน
  • คันตามตัว
  • อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร

แนวทางการจัดการ

  1. แนวทางการจัดการทั่วไป
    • ลดหรืองด สาเหตุที่เป็นปัจจัยเสี่ยง
    • พบแพทย์พร้อมแจ้งสาเหตุที่คาดว่าเกี่ยวข้องกับท่าน ดังข้อมูลข้างต้นทั้งหมด เพื่อประกอบการวินิจฉัยของแพทย์ เช่น พฤติกรรมเสี่ยงการเกิดตับอักเสบ การได้รับยา สมุนไพร หรือวิตามินชนิด ขนาด ระยะเวลาที่รับประทาน เป็นต้น  
  2. หากท่านมีค่าเอนไซม์ตับสูงเล็กน้อยถึงปานกลาง คือ สูงขึ้นน้อยกว่า 2 เท่าของค่าสูงสุดค่าปกติ
    • ให้พิจารณาพบแพทย์เพื่อตรวจซ้ำ ภายใน 6 เดือนหลังจากนั้น ซึ่งหากสงสัยเกิดจากแอลกอฮอล์ หรือยา สมุนไพร์เป็นสาเหตุให้หยุดการดื่มแอลกอฮอล์ ยา หรือสมุนไพร ในช่วงเวลานั้นๆตลอดระยะเวลารักษา และประเมินซ้ำ
    • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ควบคุมน้ำหนัก รักษาโรคประจำตัวให้อยู่ในค่าเป้าหมายเช่นเบาหวาน
  3. หากท่านมีค่าเอนไซม์ตับสูงมากกว่า 2 เท่าของค่าสูงสุดค่าปกติ พบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและทำการรักษาต่อไป
  4. หากท่านมีอาการต่อไปนี้ให้พบแพทย์ทันที
    • ตัวเหลือง ตาเหลือง
    • ท้องบวมมาก
    • อาการซึม เพอ มือสั่น ไม่รู้สึกตัว หมดสติ (Encephalopathy)

ข้อควรทราบ 

  1. หากมีข้อสงสัยปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
  2. ผลการประเมินค่าทางห้องปฏิบัติการนี้เป็นข้อมูลพื้นฐานความเป็นไปได้ ซึ่งต้องมีการตรวจผลทางห้องปฏิบัติการซ้ำเพื่อยืนยัน พร้อมทั้งวินิจฉัยควบคู่กับค่าผลตรวจ AST และค่าเอนไซม์ตับอื่นๆร่วมด้วยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเสมอ
  3. กรุณาแจ้งแพทย์หากท่านกำลังตั้งครรภ์ เนื่องจากผลการตรวจผิดพลาดจากความเป็นจริงได้

Albumin | Globulin | Alkaline phosphatase | AST | ALT | Bilirubin | การแข็งตัวของเลือด | Gamma Glutamic Transpeptidase | lactic dehydrogenase test | การตรวจการทำงานของตับ

เรียบเรียงวันที่ 25/1/2566

โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว

Google
 

เพิ่มเพื่อน