การเจาะเลือดหาระดับแคลเซี่ยม

ทำไมถึงต้องเจาะหาระดับแคลเซี่ยม

  • เพื่อตรวจการทำงานของต่อมไทรอยด์ ไต การแพร่กระจายของมะเร็งบางชนิด การอักเสบของตับอ่อน นิ่วในไต
  • ตรวจว่าอาการของผู้ป่วยเกิดจากแคลเซี่ยมในเลือดต่ำหรือไม่ เช่น กล้ามเนื้อเป็นตะคริว กล้ามเนื้อกระตุก ซึมลง หรือสับสน
  • เพื่อตรวจว่าอาการของผู้ป่วยเกิดจากแคลเซี่ยมในเลือดสูงได้แก่ อ่อนแรง เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน ท้องผูกปัสสาวะบ่อย ปวดกระดูก

ข้อสังเกต

การเจาะหาระดับแคลเซี่ยมไม่ได้บอกว่าท่านรับประทานหารที่มีแคลเซี่ยมพอหรือไม่ และไม่ได้บอกว่าท่านมีโรคกระดูกพรุนหรือไม่ เพียงแค่บอกว่ามีแคลเซี่ยมในเลือดท่านเป็นปริมาณเท่าใด

วิธีการเจาะเลือด

ให้งดวิตามินที่มีแคลเซี่ยมเป็นส่วนประกอบประมาณ8-12 ชั่วโมง วิธีการเจาะเลือด

  • เจ้าหน้าที่จะนำสายยางมารัดที่ต้นแขนเพื่อให้เส้นเลือดดำโป่ง
  • ทำความสะอาดบริเวณผิวหนังที่จะเจาะเลือดด้วยแอลกอออลล์
  • ใช้เข็มเจาะเข้าหลอดเลือดดำ สำหรับผู้ที่มีเส้นเลือดขนาดเล็กอาจจะต้องเจาะหลายครั้ง
  • ดูดเลือดเก็บ
  • ถอดสายรัดออก
  • นำเอาสพลีสะอาดกดบริเวณที่เข็มเจาะ
  • หลังเจาะเลือดอาจจะมีรอยช้ำอยู่บ้าง หากเลือดออกไม่หยุดหรือรอยช้ำเป็นวงกว้างให้ปรึกาาแพทย์

ค่าปกติ

ผู้ใหญ่ 9-10.5mg%

เด็ก 7.6-10.8 mg%

Ionized calcium 4.65–5.28 mg/dL

สาเหตุของค่าแคลเซี่ยมในเลือดสูง

  • อาจจะพบได้ในผู้ป่วยที่นอนนาน หรือต่อม parathyroid ทำงานมากไป โรคไต วัณโรค หรือโรคมะเร็งที่แพร่กระจายไปที่กระดูก
  • อาจจะเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีวิตามินดี วิตามินเอ หรือแคลเซี่ยมสูงไป หรือดื่มนมมากไป
  • พบได้ในภาวะที่ร่างกายขาดน้ำ โรคตับ โรคไต
  • ที่พบไม่บ่อยคือต่อมparathyroidทำงานมากไป
  • หากพบแคลเซี่ยมในเลือดสูงในผู้ป่วยโรคมะเร็งจะต้องรีบให้การรักษา

สาเหตุของแคลเซี่ยมในเลือดต่ำ

  • พบได้ในผู้ป่วยที่เป็นโรคต่อม parathyroid โรคลำไส้ โรคตับ โรคไต ไขขาวในเลือดต่ำ
  • อาจจะเกิดจาก magnesium ในเลือดต่ำ
  • คนท้องและคนแก่ก็อาจจะพบได้

ข้อควรระวังในการเจาะเลือด

  • การดื่มนมมากไป การกินยะantacid รักษาโรคกระเพาะอาหาร การรับประทานแคลเซี่ยมอาจจะมีผลต่อผลเลือด
  • การรับประทานยาขับปัสสาวะ ยาคุมกำเนิด ยา steroid อาจจะมีผลต่อระดับแคลเวี่ยม
  • การรับประทาน vitamin D, lithium,ยาระบาย , ยาขยายหลอดลม theophylline, หรือ aspirin อาจจะมีผลต่อค่าเลือด

แคลเซี่ยมในเลือด

ทบทวนวันที่ 22/1/2566

โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว

Google
 

เพิ่มเพื่อน