aแคลเซี่ยม

กลไกการควบคุมปริมาณแคลเซี่ยม

ร่างกายจะมีการควบคุมแคลเซี่ยมในเลือด หากแคลเซี่ยมในเลือดต่ำร่างกายจะละลายแคลเซี่ยมจากกระดูกออกมา หากแคลเซี่ยมในเลือดสูงร่างกายก็จะขับแคลเซี่ยมออกทางปัสสาวะ วันหนึ่งๆร่างกายต้องการแคลเซี่ยมประมาณ 1000-1500 มิลิกรัม กลไกที่ควบคุมแคลเซี่ยม และฟอสฟอร์รัสในเลือดได้แก่ Parathyroid hormone,calcitonin

Parathyroid hormone

ฮอร์โมนนี้จะสร้างในต่อม Parathyroid ที่อยู่ตรงคอ เมื่อแคลเซี่ยมในเลือดต่ำร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเพิ่มขึ้น เมื่อแคลเซี่ยมในเลือดสูงร่างการจะผลิตฮอร์โมนนี้น้อยลง การทำงานของฮอร์โมนนี้ผ่านทาง

• กระตุ้นให้แคลเซี่ยมและฟอสฟอร์รัสจากกระดูกเข้ากระแสเลือด
• ลดการขับแคลเซี่ยมออกทางปัสสาวะ
• กระตุ้นให้ลำไส้มีการดูดซึมแคลเซี่ยมเพิ่ม
• กระตุ้นให้ไตสร้างวิตามินดีเพิ่มขึ้น

Calcitriol

เป็นวิตามินที่สร้างจากไต มีบทบาทที่สำคัญคือเร่งการดูดซึมแคลเซี่ยม และฟอสฟอร์รัสที่ลำไส้

ค่าปกตของแคลเซี่ยมในเลือดิ

ผู้ใหญ่ 9-10.5mg%

เด็ก 7.6-10.8 mg%

Ionized calcium 4.65–5.28 mg/dL

แคลเซี่ยม

ร่างกายจะสร้างแคลเซี่ยมตั้งแต่เด็กจะถึงช่วงอายุประมาณ 30 ปี ช่วงระยะนี้แคลเซี่ยมจะถูกนำไปสร้างกระดูกเป็นจำนวนมาก หลังจากอายุ 30 ปีจะเริ่มมีการละลายแคลเซี่ยมจากกระดูก ช่วงนี้การดูดซึมแคลเซี่ยมก็จะลดลง จึงมีการแนะนำให้รับประทานแคลเซี่ยมเพิ่มเมื่ออายุมากขึ้น

คนทั่วไปจะต้องรับแคลเซี่ยมวันละเท่าไร

• คนที่อายุ 19-50 ปีต้องการแคลเซี่ยมวันละ 1000 มก ต่อวัน
• อายุมากกว่า 50 ปีต้องการแคลเซี่ยมวันละ 1200 มก ต่อวัน

อาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซี่ยม

• นมและผลิตภัณฑ์ของนมจะมีแคลเซี่ยมเป็นปริมาณมาก แต่จะต้องเลือกนมที่พร่องมันเนย เพราะนมจะมีไขมันอิ่มตัวซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ ตัวอย่าง นมหนึ่งแก้วหรือดยเกิตร์จะมีปริมาณแคลเซี่ยม 300 มก
• ผักใบเขียวทั้งหลาย
• ปลา salmon and sardines
• ถั่วต่างๆ
• การเติมแคลเซี่ยมในอาหาร อาหารหลายประเภทมีการเติมแคลเซี่ยมในอาหารเช่น ขนมปัง น้ำเต้าหู้ ธัญพืช ท่านควรจะอ่านฉลากอาหารก่อนซื้อ

นอกจากจะรับอาหารที่มีแคลเซี่ยมท่านต้องรับวิตามิน ดีให้มากพอเนื่องจากวิตามิน ดี จะเพิ่มการดุดซึมแคลเซี่ยม

โรคของแคลเซี่ยม

• ภาวะแคลเซี่ยมในเลือดต่ำ
• ภาวะแคลเซี่ยมในเลือดสูง

แคลเซี่ยมในเลือดต่ำ

เป็นภาวะที่แคลเซี่ยมในเลือดต่ำ ซึ่งเกิดจากปัญหาของต่อมพาราไทรอยด์ หรือจากอาหาร จากไต หรือจากยา เมื่อแคลเซี่ยมในเลือดต่ำจะทำให้ผู้ป่วยสับสัน ซึมเศร้า ขี้ลืม ชาปลายนิ้ว และกล้ามเนื้อกระตุกอ่านที่นี่

แคลเซี่ยมในเลือดสูง

ผู้ที่มีแคลเซี่ยมสูงจะมีอาการที่พบได้บ่อยได้แก่ ท้องผูก คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง เบื่ออาหาร ปัสสาวะบ่อยทำให้หิวน้ำอ่านที่นี่

วิตามินดีและแคลเซี่ยมในเลือดต่ำ

วิตามินดี จะช่วยให้ลำไส้ดูดซึมแคลเซี่ยม ในทางเดินอาหารเพิ่มขึ้น ลดการขับแคลเซี่ยมในทางเดินปัสสาวะ และมีการสร้างกระดูกเพิ่มขึ้น วิตามินดีเราได้จากอาหาร และสังเคราะห์ที่ผิวหนัง วิตามินดี