siamhealth

หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ

เบอร์เกอร์: คู่มือฉบับสมบูรณ์เพื่อการกินอย่างเข้าใจ

เบอร์เกอร์คือหนึ่งในเมนูอาหารยอดนิยมทั่วโลก แต่บ่อยครั้งที่ถูกมองว่าเป็น "อาหารขยะ" ในความเป็นจริงแล้ว เบอร์เกอร์สามารถเป็นได้ทั้งมื้ออาหารที่มีคุณค่าหรือมื้อที่ทำลายสุขภาพ ขึ้นอยู่กับ "ส่วนประกอบ" และ "วิธีเลือกกิน" ของเรา

บทความนี้จะเจาะลึกทุกแง่มุมของเบอร์เกอร์ ตั้งแต่ข้อมูลโภชนาการไปจนถึงเคล็ดลับการกินอย่างชาญฉลาด เพื่อให้คุณสามารถมีความสุขกับเมนูโปรดนี้ได้อย่างไม่ต้องกังวล

แนวโน้มทั่วไปของปริมาณเกลือ ไขมัน และแป้งในเบอร์เกอร์ชนิดต่างๆ:

แม้จะไม่มีตัวเลขที่แน่นอน แต่เราสามารถระบุส่วนประกอบหลักที่ส่งผลต่อปริมาณสารอาหารเหล่านี้ได้:

1. เกลือ (โซเดียม):

2. ไขมัน:

3. คาร์โบไฮเดรต/แป้ง:

1. ชนิดของเบอร์เกอร์และแนวโน้มทางโภชนาการ

เบอร์เกอร์แต่ละชนิดมีคุณค่าทางโภชนาการที่แตกต่างกันอย่างมาก โดยสารอาหารหลักๆ มาจาก:

ชนิดของเบอร์เกอร์ จุดเด่น / ข้อควรระวัง
เบอร์เกอร์เนื้อ (Beef Burger) เด่น: โปรตีน, ธาตุเหล็ก, สังกะสี
ระวัง: มักมีไขมันอิ่มตัวสูงที่สุด
เบอร์เกอร์ไก่/ปลา (ทอด) เด่น: โปรตีนสูง
ระวัง: ไขมันและโซเดียมสูงมากจากการชุบแป้งทอด
เบอร์เกอร์ไก่/ปลา (ย่าง) เด่น: โปรตีนสูง, ไขมันต่ำกว่าชนิดทอดมาก
ระวัง: โซเดียมจากการหมักเนื้อ
เบอร์เกอร์แพลนต์เบส (Plant-based) เด่น: ใยอาหาร, ไม่มีคอเลสเตอรอล
ระวัง: เป็นอาหารแปรรูปสูงและมักมีโซเดียมสูง

หมายเหตุ: หากต้องการข้อมูลที่แม่นยำที่สุด ควรตรวจสอบจากเว็บไซต์ทางการของร้านอาหารนั้นๆ โดยตรง

2. ผลดี vs ผลเสีย ต่อสุขภาพ

3. เราควรรับประทานเบอร์เกอร์บ่อยแค่ไหน?

ไม่มีคำตอบที่ตายตัวว่า "กินได้วันละเท่าไหร่" แต่เราสามารถใช้หลักการ "งบประมาณสุขภาพประจำวัน" ได้

ลองพิจารณาว่า ชีสเบอร์เกอร์พร้อมเฟรนช์ฟรายส์และน้ำอัดลม 1 ชุด อาจให้:

บทสรุปคือ: การทานเบอร์เกอร์ฟาสต์ฟู้ด ไม่ควรเป็นอาหารในชีวิตประจำวัน แต่ให้มองเป็นอาหารในโอกาสพิเศษที่ทานได้ นานๆ ครั้ง จะเหมาะสมที่สุด

4. วิธีการสั่งเบอร์เกอร์เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น

  1. เลือกโปรตีนย่าง: เลือก ไก่ย่าง หรือ ปลา แทนเนื้อวัวหรือของทอด

  2. เปลี่ยนขนมปัง: หากมีตัวเลือก ให้เลือกใช้ ขนมปังโฮลวีท

  3. อัดแน่นด้วยผัก: ขอเพิ่มผักสดให้ได้มากที่สุด

  4. ลดชีสและเบคอน: ลองงดหรือลดปริมาณลงครึ่งหนึ่ง

  5. เลือกซอสให้ดี: เลือกใช้ซอสมะเขือเทศหรือมัสตาร์ด แทนซอสมายองเนส

  6. เปลี่ยนเครื่องเคียง: เลือก สลัดผัก แทนเฟรนช์ฟรายส์ และเลือกดื่ม น้ำเปล่า แทนน้ำอัดลม

  7. ไม่เติมเกลือหรือซอสเพิ่ม บนโต๊ะอาหาร

บทสรุป: เบอร์เกอร์สามารถเป็นส่วนหนึ่งของมื้ออาหารเพื่อสุขภาพได้ หากเรารู้จักเลือกส่วนประกอบอย่างใส่ใจและปรับเปลี่ยนเล็กๆ น้อยๆ เพื่อลดไขมัน, โซเดียม, และแคลอรีส่วนเกิน การกินอย่างมีสติจะช่วยให้คุณมีความสุขกับรสชาติโดยไม่ทำร้ายสุขภาพในระยะยาวครับ

เพื่อให้ได้ข้อมูลปริมาณเกลือ (โซเดียม), ไขมัน (รวม, อิ่มตัว, ไม่อิ่มตัว), และคาร์โบไฮเดรต/แป้ง ในเบอร์เกอร์แต่ละชนิดของแต่ละบริษัทอย่างแม่นยำนั้นเป็นเรื่องที่ซับซ้อนมากค่ะ เนื่องจาก:

  1. ข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา: บริษัทอาหารมักจะปรับสูตรส่วนผสม ทำให้ข้อมูลโภชนาการเปลี่ยนแปลงไป

  2. ความหลากหลายของเมนู: แต่ละบริษัทมีเมนูเบอร์เกอร์หลายสิบชนิด และแต่ละชนิดก็มีขนาด การปรุง และท็อปปิ้งที่แตกต่างกัน

  3. แหล่งข้อมูลที่ต้องใช้: ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุดจะมาจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของบริษัทอาหารฟาสต์ฟู้ดแต่ละแห่งโดยตรง ซึ่งมักจะมีตารางโภชนาการที่อัปเดตอยู่เสมอ

ฉันไม่สามารถให้ตารางข้อมูลที่ครบถ้วนและอัปเดตสำหรับเบอร์เกอร์ทุกชนิดของทุกบริษัทได้ในทันทีในรูปแบบนี้ เนื่องจากข้อมูลมีปริมาณมหาศาลและมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ฉันสามารถแนะนำคุณถึงวิธีการหาข้อมูลเหล่านี้และให้แนวโน้มทั่วไปที่สำคัญได้ค่ะ


วิธีการหาข้อมูลโภชนาการของเบอร์เกอร์แต่ละบริษัทด้วยตนเอง:

วิธีที่ดีที่สุดคือการเข้าไปดูข้อมูลโดยตรงจากแหล่งที่บริษัทผู้ผลิตให้มา:

  1. เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของร้านฟาสต์ฟู้ด:

    • McDonald's, Burger King, KFC, Carl's Jr., Texas Chicken, Subway, Sizzler, The Pizza Company (สำหรับเมนูเบอร์เกอร์บางร้าน): เกือบทุกบริษัทจะมีส่วนของ "ข้อมูลโภชนาการ" (Nutritional Information) หรือ "ข้อมูลแพ้อาหาร" (Allergen Information) บนเว็บไซต์ของตนเอง คุณสามารถค้นหาเมนูที่คุณสนใจและดูรายละเอียดได้เลยค่ะ

    • ตัวอย่างการค้นหาใน Google: พิมพ์ "McDonald's Thailand nutritional information" หรือ "Burger King menu calories"

  2. แอปพลิเคชันสำหรับมือถือของร้านค้า: บางร้านอาจมีข้อมูลโภชนาการอยู่ในแอปพลิเคชันของตนเองด้วย

  3. แอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ฐานข้อมูลสารอาหาร: เช่น MyFitnessPal, FatSecret (แต่ข้อมูลอาจไม่ได้อัปเดตล่าสุดเท่าเว็บไซต์ของบริษัทโดยตรง)

 

ปริมาณสารอาหารใน burger แต่ละชนิด

burger


ข้อควรปฏิบัติในการลดปริมาณเกลือในอาหาร

ข้อห้ามปฏิบัติ

ไม่ซื้ออาหารที่มีปริมาณเกลือโซเดียม (Na) ต่อห่อ เกิน 400 มิลลิกรัม

burger burgerเนื้อวัว burgerไก่ burgerปลา เบอร์เกอร์แพลนต์เบส

ปริมาณเกลือในอาหาร

เรื่องเกี่ยวกับเกลือ | เกลือและสุขภาพ | เกลือและสุขภาพเด็ก | แนวทางในการลดปริมาณเกลือ | การลดเกลือที่บ้าน | การลดเกลือเมื่อต้องจ่ายตลาด | ทานอาหารนอกบ้านให้มีเกลือต่ำ | อาหารจานด่วนที่มีเกลือมาก | ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเกลือ | ฉลาดเลือกอาหาร | รับประทานอาหารเกลือต่ำ | องค์การอนามัยโลกแนะนำเรื่องการรับประทานเกลือ | วิธีเลือกอาหารที่มีเกลือน้อย | เกลือทำให้โรคหลอดเลือดแดงแข็ง

เพิ่มเพื่อน