siamhealth

หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ

Semaglutide: รู้จัก Ozempic, Rybelsus, Wegovy ให้ลึกซึ้ง ทั้งรักษาเบาหวานและลดน้ำหนัก

ในยุคที่สุขภาพและการดูแลตัวเองกลายเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ชื่อของ Semaglutide (เซมากลูไทด์) ได้กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ไม่ใช่แค่ในวงการแพทย์ แต่ยังรวมถึงกลุ่มคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก Semaglutide คือยาในกลุ่ม GLP-1 Receptor Agonists ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพสูงทั้งในการรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และการลดน้ำหนักอย่างมีนัยสำคัญ

บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Semaglutide ในทุกแง่มุม ตั้งแต่กลไกการทำงาน, รูปแบบยาที่แตกต่างกัน (Ozempic®, Rybelsus®, Wegovy®), ประโยชน์ที่เหนือกว่าแค่การลดน้ำตาล และที่สำคัญคือผลข้างเคียงและข้อควรระวังที่ทุกคนต้องทราบ


Semaglutide คืออะไร?

Semaglutide เป็นยาที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นเพื่อเลียนแบบฮอร์โมน GLP-1 (Glucagon-Like Peptide-1) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ลำไส้ของเราสร้างขึ้นตามธรรมชาติหลังรับประทานอาหาร ยานี้มีบทบาทสำคัญในการควบคุมสมดุลของระดับน้ำตาลในเลือดและพลังงานในร่างกาย

ปัจจุบัน Semaglutide ได้รับการอนุมัติใน 3 รูปแบบหลัก ภายใต้ชื่อการค้าที่แตกต่างกันตามข้อบ่งชี้ในการใช้งาน:

  1. Ozempic® (โอเซมปิก): ยาฉีดใต้ผิวหนัง สัปดาห์ละ 1 ครั้ง สำหรับรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2

  2. Rybelsus® (ไรเบลซัส): ยารับประทาน วันละ 1 ครั้ง สำหรับรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 (เป็นยา GLP-1 ชนิดเม็ดตัวแรกของโลก)

  3. Wegovy® (วีโกวี): ยาฉีดใต้ผิวหนัง สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ในขนาดที่สูงกว่า Ozempic® สำหรับ การควบคุมน้ำหนัก ในผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน


กลไกการทำงาน: Semaglutide ทำอะไรกับร่างกายของเรา?

Semaglutide ออกฤทธิ์หลายกลไกพร้อมกัน ซึ่งส่งผลดีทั้งต่อระดับน้ำตาลและน้ำหนักตัว:

  1. เพิ่มการหลั่งอินซูลินอย่างชาญฉลาด: กระตุ้นตับอ่อนให้หลั่งอินซูลินเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงเท่านั้น ทำให้ความเสี่ยงต่อภาวะน้ำตาลต่ำมีน้อยมาก

  2. ลดการผลิตน้ำตาลจากตับ: ยับยั้งการหลั่งฮอร์โมนกลูคากอน ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้ตับปล่อยน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด

  3. ชะลอการย่อยอาหาร: ทำให้กระเพาะอาหารบีบตัวช้าลง อาหารจะอยู่ในกระเพาะนานขึ้น ส่งผลให้ระดับน้ำตาลหลังอาหารไม่พุ่งสูงอย่างรวดเร็ว

  4. ควบคุมความอยากอาหารที่สมอง: ออกฤทธิ์โดยตรงต่อสมองส่วนไฮโปทาลามัส ซึ่งเป็นศูนย์ควบคุมความหิวและความอิ่ม ทำให้ผู้ใช้ยารู้สึกอิ่มเร็วขึ้น, อิ่มนานขึ้น, และลดความอยากอาหารลงอย่างชัดเจน

กลไกข้อ 3 และ 4 คือหัวใจสำคัญที่ทำให้ Semaglutide มีประสิทธิภาพสูงในการช่วยลดน้ำหนัก


ประโยชน์ที่เหนือกว่าแค่การลดน้ำตาล

นอกจากการควบคุมเบาหวานและการลดน้ำหนักแล้ว งานวิจัยขนาดใหญ่ (เช่น SUSTAIN-6 และ SELECT) ได้แสดงให้เห็นว่า Semaglutide มีประโยชน์ที่สำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพในระยะยาว:


ผลข้างเคียงที่ต้องรู้และวิธีจัดการ

ผลข้างเคียงของ Semaglutide ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหาร และมักเกิดขึ้นในช่วงแรกของการเริ่มยาหรือเมื่อมีการปรับเพิ่มขนาดยา


คำเตือนกล่องดำ (Black Box Warning): ความเสี่ยงมะเร็งต่อมไทรอยด์

เช่นเดียวกับยาอื่นในกลุ่ม GLP-1, Semaglutide มี คำเตือนกล่องดำ จากองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) เกี่ยวกับความเสี่ยงของ เนื้องอกต่อมไทรอยด์ชนิด C-cell (Medullary Thyroid Carcinoma - MTC) ซึ่งพบในการศึกษาในสัตว์ทดลอง

ด้วยเหตุนี้ จึงห้ามใช้ Semaglutide ในผู้ป่วย:

ผู้ใช้ยาควรแจ้งแพทย์หากพบก้อนที่คอ, กลืนลำบาก, หรือเสียงแหบต่อเนื่อง


สรุป

Semaglutide ถือเป็นยาที่เปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์การรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคอ้วนอย่างแท้จริง ด้วยประสิทธิภาพที่โดดเด่นในการควบคุมระดับน้ำตาล, การลดน้ำหนัก, และการปกป้องหัวใจและไต อย่างไรก็ตาม ยานี้ไม่ใช่ยาวิเศษที่ไม่มีผลข้างเคียง การใช้งานต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อประเมินความเหมาะสม, ค่อยๆ ปรับขนาดยา, และเฝ้าระวังผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะอาการทางเดินอาหารและสัญญาณเตือนของภาวะที่รุนแรง

 

ทบทวนวันที่

โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว