Candesartan: คู่มือการใช้งานและข้อมูลสำคัญ
ยานี้คืออะไร
Candesartan (แคนเดซาร์แทน) เป็นยาในกลุ่ม Angiotensin II Receptor Blockers (ARBs) ใช้รักษาความดันโลหิตสูง (Hypertension) และภาวะหัวใจล้มเหลว (Heart Failure) โดยช่วยผ่อนคลายหลอดเลือด ลดความดันโลหิต และลดภาระการทำงานของหัวใจ ในประเทศไทย มีจำหน่ายในชื่อการค้า เช่น Atacand หรือยาสามัญ (Generic)
กลไกการออกฤทธิ์
Candesartan ออกฤทธิ์โดย:
- ยับยั้งตัวรับ Angiotensin II (AT1 receptors) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้หลอดเลือดหดตัว
- ลดการหดตัวของหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดขยายตัวและความดันโลหิตลดลง
- ลดการหลั่ง Aldosterone ซึ่งช่วยลดการกักเก็บน้ำและเกลือในร่างกาย
- ลดภาระการทำงานของหัวใจในผู้ป่วยภาวะหัวใจล้มเหลว ยานี้มีผลเฉพาะเจาะจงต่อตัวรับ AT1 จึงมีผลข้างเคียงต่อระบบทางเดินหายใจน้อยกว่าเมื่อเทียบกับยาในกลุ่ม ACE Inhibitors (เช่น Enalapril)
ยานี้ใช้รักษาอะไร
Candesartan ใช้รักษา:
- ความดันโลหิตสูง (Hypertension) ในผู้ใหญ่และเด็กอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป
- ภาวะหัวใจล้มเหลว (Heart Failure) ในผู้ใหญ่ที่มีการทำงานของหัวใจลดลง (Left Ventricular Ejection Fraction <40%) โดยใช้เดี่ยวหรือร่วมกับยาอื่น เช่น Diuretics หรือ Beta-blockers
- ในบางกรณี อาจใช้เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงทางหัวใจและหลอดเลือด
ขนาดและรูปแบบยาที่ใช้รักษา
- รูปแบบยา: ยาเม็ดรับประทาน ขนาด 4 มก., 8 มก., 16 มก., 32 มก.
- ขนาดยา:
- ความดันโลหิตสูง:
- ผู้ใหญ่: เริ่มต้น 8 มก./วัน ปรับเพิ่มได้ถึง 16-32 มก./วัน รับประทานครั้งเดียวหรือแบ่ง 2 ครั้ง
- เด็ก (6-17 ปี): น้ำหนัก <50 กก. เริ่มต้น 4-8 มก./วัน สูงสุด 16 มก./วัน; น้ำหนัก ≥50 กก. เริ่มต้น 8-16 มก./วัน สูงสุด 32 มก./วัน
- ภาวะหัวใจล้มเหลว:
- ผู้ใหญ่: เริ่มต้น 4 มก./วัน ค่อยๆ ปรับเพิ่มทุก 2 สัปดาห์ สูงสุด 32 มก./วัน
- ผู้ป่วยที่มีการทำงานของตับหรือไตบกพร่อง: เริ่มด้วยขนาดต่ำ (เช่น 4 มก./วัน) และปรับตามคำแนะนำของแพทย์
- กลืนยาพร้อมน้ำ ห้ามเคี้ยวหรือบด รับประทานพร้อมหรือไม่พร้อมอาหารได้
ข้อแนะนำในการรับประทานยา
- รับประทานยาในเวลาเดียวกันทุกวันเพื่อรักษาระดับยาในร่างกาย
- ควบคุมอาหารที่มีโซเดียมต่ำ ลดน้ำหนัก (ถ้ามีน้ำหนักเกิน) ออกกำลังกายเบาๆ เช่น เดินเร็ว งดสูบบุหรี่ และลดความเครียด
- ตรวจวัดความดันโลหิตสม่ำเสมอตามคำแนะนำของแพทย์
- ดื่มน้ำเพียงพอเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อความดันต่ำ
- ตรวจสอบว่ามียาเพียงพอเมื่อต้องเดินทางหรือท่องเที่ยว
- พบแพทย์ตามนัดเพื่อประเมินผลการรักษาและปรับขนาดยา
ข้อห้ามในการใช้ยา
- ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่มี:
- แพ้ยา Candesartan หรือยาในกลุ่ม ARBs
- การทำงานของไตบกพร่องรุนแรง (GFR <15 มล./นาที) หรือกำลังฟอกไต
- การทำงานของตับบกพร่องรุนแรง (Severe Hepatic Impairment)
- ภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูง (Hyperkalemia) ที่ควบคุมไม่ได้
- ภาวะท่อน้ำดีอุดตัน (Biliary Obstruction)
- ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในไตรมาส 2-3 (ยานี้จัดอยู่ในประเภท D) เนื่องจากอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์
- ห้ามใช้ร่วมกับยา Aliskiren ในผู้ป่วยเบาหวานหรือผู้ที่มีการทำงานของไตบกพร่อง (GFR <60 มล./นาที)
- ไม่แนะนำในเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี
ข้อระวังในการใช้ยา
- ใช้ด้วยความระมัดระวังในผู้ที่มี:
- การทำงานของไตหรือตับบกพร่อง
- ภาวะขาดน้ำหรือเกลือแร่ (เช่น จากการอาเจียน ท้องเสีย หรือใช้ยาขับปัสสาวะ)
- เบาหวาน เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโพแทสเซียมสูง
- โรคหลอดเลือดสมองหรือหัวใจขาดเลือด (Ischemic Heart Disease) เนื่องจากความดันต่ำอาจเป็นอันตราย
- ผู้สูงอายุ (>65 ปี) อาจไวต่อผลข้างเคียง เช่น วิงเวียนหรือความดันต่ำ
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อความดันต่ำ
- แจ้งแพทย์หากใช้ยาอื่น เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาโพแทสเซียมเสริม หรือ NSAIDs
ระหว่างที่ใช้ยาจะต้องระวังอาการหรือการตรวจพิเศษอะไร
- อาการที่ต้องระวัง:
- ความดันโลหิตต่ำ: วิงเวียน หน้ามืด เป็นลม โดยเฉพาะเมื่อเริ่มยาหรือเปลี่ยนขนาด
- โพแทสเซียมในเลือดสูง: อ่อนแรง ใจสั่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- การทำงานของไตผิดปกติ: ปัสสาวะน้อยลง เท้าบวม น้ำหนักขึ้น
- อาการแพ้ยา: ผื่น ลมพิษ หายใจลำบาก บวมใบหน้า ริมฝีปาก หรือคอ
- อื่นๆ: ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ ไอแห้ง (พบน้อย)
- การตรวจพิเศษ:
โรคหรือยาอื่นที่มีผลต่อการใช้ยา
- โรคที่อาจมีผล:
- โรคไตหรือตับ อาจเพิ่มระดับยาในเลือด
- เบาหวาน อาจเพิ่มความเสี่ยงโพแทสเซียมสูง
- ภาวะขาดน้ำ อาจเพิ่มความเสี่ยงความดันต่ำ
- ยาที่อาจมีปฏิกิริยา:
- เพิ่มความเสี่ยงโพแทสเซียมสูง: Potassium-sparing Diuretics (เช่น Spironolactone), Potassium Supplements
- เพิ่มความเสี่ยงความดันต่ำ: Diuretics (เช่น Furosemide), ACE Inhibitors, Aliskiren
- ลดประสิทธิภาพของยา: NSAIDs (เช่น Ibuprofen) อาจลดการขยายหลอดเลือด
- อื่นๆ: Lithium (อาจเพิ่มระดับ Lithium ในเลือด)
- แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาหรืออาหารเสริมที่ใช้ทั้งหมด
ผลข้างเคียงหรือไม่พึงประสงค์ของยา
- พบบ่อย:
- วิงเวียน มึนงง (โดยเฉพาะเมื่อเริ่มยา)
- ปวดศีรษะ
- อ่อนเพลีย
- คลื่นไส้
- พบน้อย:
- ความดันโลหิตต่ำ (Hypotension)
- โพแทสเซียมในเลือดสูง (Hyperkalemia)
- การทำงานของไตผิดปกติ (Renal Impairment)
- ไอแห้ง (พบน้อยกว่า ACE Inhibitors)
- อาการแพ้ เช่น ผื่น ลมพิษ
- ปวดกล้ามเนื้อหรือข้อ
- หากพบอาการรุนแรง เช่น วิงเวียนรุนแรง ปัสสาวะน้อยลง เท้าบวม ใจสั่น หรือหายใจลำบาก ให้หยุดยาและพบแพทย์ทันที
วิธีลดหรือป้องกันผลข้างเคียง
- ลุกจากที่นั่งหรือนอนช้าๆ เพื่อป้องกันวิงเวียนหรือหน้ามืด
- ดื่มน้ำเพียงพอเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
- หลีกเลี่ยงอาหารหรืออาหารเสริมที่มีโพแทสเซียมสูง (เช่น กล้วย ส้ม) เว้นแต่แพทย์แนะนำ
- ปรึกษาเภสัชกรเกี่ยวกับยาแก้ปวดหากปวดศีรษะ หรือพบแพทย์หากอาการไม่ดีขึ้น
- หยุดยาและพบแพทย์ทันทีหากมีอาการรุนแรง เช่น ปัสสาวะน้อยลงหรือใจสั่น
หากลืมรับประทานยา
- หากลืมรับประทานยาและยังไม่ถึงเวลารับประทานครั้งถัดไป ให้รับประทานทันทีที่จำได้
- หากใกล้ถึงเวลารับประทานครั้งถัดไป ให้ข้ามมื้อที่ลืมและรับประทานตามปกติ
- ห้ามรับประทานยาครั้งละสองเท่าเพื่อชดเชย
หากรับประทานยาเกินขนาด
- หากรับประทานยาเกินขนาดและมีอาการ เช่น วิงเวียนรุนแรง ความดันต่ำ หรือใจสั่น ให้ติดต่อโรงพยาบาลหรือศูนย์พิษวิทยาทันที
- อาจต้องเข้ารับการรักษาด้วยการให้น้ำเกลือหรือยาเพื่อควบคุมความดัน
การเก็บยา
- เก็บยาที่อุณหภูมิห้อง (15-30°C) ในที่แห้งและพ้นจากแสงแดด
- เก็บให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
- ตรวจสอบวันหมดอายุก่อนใช้ยา
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
- Candesartan ใช้รักษาอะไรได้บ้าง?
Candesartan ใช้รักษาความดันโลหิตสูงและภาวะหัวใจล้มเหลวในผู้ใหญ่ และความดันโลหิตสูงในเด็กอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป
- Candesartan ทำให้วิงเวียนหรือไม่?
อาจทำให้วิงเวียน โดยเฉพาะเมื่อเริ่มยาหรือเปลี่ยนขนาด ควรลุกช้าๆ และดื่มน้ำเพียงพอ
- Candesartan ปลอดภัยในผู้ป่วยเบาหวานหรือไม่?
สามารถใช้ได้ แต่ต้องระวังโพแทสเซียมสูง ควรตรวจระดับโพแทสเซียมในเลือดสม่ำเสมอ
- สามารถใช้ Candesartan ในหญิงตั้งครรภ์ได้หรือไม่?
ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ โดยเฉพาะไตรมาส 2-3 เนื่องจากอาจเป็นอันตรายต่อทารก
- Candesartan ต่างจากยา ACE Inhibitors อย่างไร?
Candesartan มีกลไกคล้าย ACE Inhibitors แต่มีผลข้างเคียง เช่น ไอแห้ง น้อยกว่า และเหมาะสำหรับผู้ที่แพ้ ACE Inhibitors
สรุป
Candesartan เป็นยาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาความดันโลหิตสูงและภาวะหัวใจล้มเหลว โดยช่วยผ่อนคลายหลอดเลือดและลดภาระการทำงานของหัวใจ การใช้ยาต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เนื่องจากอาจเกิดผลข้างเคียง เช่น วิงเวียน ความดันต่ำ หรือโพแทสเซียมสูง ผู้ป่วยควรตรวจวัดความดันโลหิตและการทำงานของไตสม่ำเสมอ ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และปรับพฤติกรรม เช่น ลดอาหารเค็มและออกกำลังกาย เพื่อให้การรักษาปลอดภัยและได้ผลดี