การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดสายพันธ์ใหม่2009
วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่มีกี่ชนิด
ปัจจุบันที่ผลิตมีสองชนิดได้แก่
- ชนิดที่ใช้ฉีดเป็นวัคซีนที่ทำให้เชื้อตายใช้สำหรับฉีด ใช้กับอายุ 6 เดือนจนถึงคนแก่ ใช้ได้ทั้งคนแก่ คนที่มีโรคประจำตัว คนท้อง
- อีกชนิดที่ใช้พ่นทางจมูก เกิดจากการทำให้เชื้ออ่อนแรงเมื่อได้รับเข้าไปจะไม่เกิดโรคแต่เกิดภูมิ ใช้กับเด็กอายุ2ขวบถึง 49 ปี ไม่เหมาะสำหับคนท้อง
จะฉีดเมื่อไร
การฉีดวัคซีนจะให้ภูมิขึ้นใช้เวลาสองสัปดาห์ ดังนั้นควรจะฉีดประจำปี
ใครควรจะได้รับการฉีดวัคซีน
เนื่องจากการป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่มีอาการตั้งแต่อาการน้อยจนถึงอาการมากจนกระทั่งเสียชีวิต ดังนั้นแนะนำให้ฉีดวัคซีนกับผู้ที่อยากจะฉีด หากมีวัคซีนในปริมาณที่จำกัดควรจะเน้นกลุ่มคนห้ากลุ่มดังนี้
- เด็กโดยเฉพาะอายุน้อยกว่า 5 ปี
- กลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อน
- เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์
- เจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉิน
- เจ้าหน้าที่ที่ดูแลเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 6 เดือนเนื่องจากเด็กเหล่านี้ไม่สามารถฉีดวัคซีนได้
สำหรับเด็กที่อายุน้อยกว่า 10 ปีแนะนำให้ฉีดสองเข็มห่างกัน 4 สัปดาห์
ไม่ควรให้วัคซีนแก่ผู้ใด
หลายๆท่านมักจะได้ข่าวสารเกี่ยวกับแพ้วัคซีน ทำให้ไม่อยากจะฉีดวัคซีน ท่านควรจะไปพิจารณาในหลายๆด้าน จะมีผู้ป่วยกลุ่มหนึ่งซึ่งไม่มีปัจจัยเสี่ยงหากเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ก็เสียชีวิตได้ หากท่านมีโรคประจำตัวโอกาศเสี่ยงของท่านจะสูงขึ้น กลุ่มที่ไม่ควรได้รับวัคซีนได้แก่
- กลุ่มผู้ป่วยที่แพ้ไข่ขาว
- กลุ่มผู้ป่วยที่แพ้วัคซีนไข้หวัดใหญ่
- กลุ่มผู้ป่วยที่เกิดโรค Guillain-Barré syndrome (GBS ภายใน 6 สัปดาห์หลังจากฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่
- ผู้ป่วยที่กำลังมีไข้
ผลข้างเคียงของวัคซีนมีอะไรบ้าง
สำหรับยาฉีดจะมีเพียง บวม ปวดและไข้ต่ำๆ
สำหรับยาพ่นจมูก จะมีอาการน้ำมูกไหล ปวดศีรษะ เจ็บคอ
- คำแนะนำสำหรับไข้หวัดหมู
- เชื้อไข้หวัดใหญ่
- โรคไข้หวัดใหญ่
- ไข้หวัดหมู
- เมื่อไรจึงจะสงสัยว่าเป็นไข้หวัดหมู
- การดูแลผุ้ป่วยและการป้องกันการติดต่อ
- การตั้งครรภ์การไข้หวัดสายพันธ์ใหม่
- ไข้หวัดสายพันธ์ใหม่กับการดูแลเด็ก
- การเตรียมความพร้อมสำหรับครอบครัว
- อาการและการดำเนินของโรค
- การสวมหน้ากากอนามัย
- การดูแลผู้ป่วย
- การติดต่อ
- การเตรียมที่ทำงานสำหรับรับการระบาด
- การฉีดวัคซีน