siamhealth

หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ

วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอ Hepatitis A Vaccine

ไวรัสตับอักเสบเอ (Hepatitis A) คืออะไร

ไวรัสตับอักเสบ A ทำให้เกิดโรคไวรัสตับอักเสบโดยเชื้อ Hepatitis Avirus ซึ่งสามารถพบได้ในอุจาระของผู้ป่วย ติดต่อโดยทางอาหาร และน้ำที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบ

ไวรัสตับอักเสบ A สามารถทำให้เกิดอาการเหมือนไข้หวัดใหญ่ อาการตัวเหลืองตาเหลืองที่เรียกว่าดีซ่าน มีผู้ป่วยจำนวนน้อยที่เสียชีวิต

ใครควรจะได้รับการฉีดวัคซีน

กลุ่มคนที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ A สูงได้แก่

ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะสนับสนุนหรือคัดค้านการฉีดวัคซีนในบุคคลทั่วไปในประเทศไทย

จะให้วัคซีนอย่างไร

ให้2เข็มห่างกัน 6 เดือน

ไม่ควรให้วัคซีนแก่ใคร

ผลข้างเคียงของวัคซีน

พบไม่มากอาจจะมีอาการเจ็บคอ เบื่ออาหาร ปวดศีรษะหลังฉีด 3-5 วัน และจะหายไปใน1-2 วัน อาการแพ้อย่างรุนแรงพบน้อยมาก

ข้อห้ามในการให้วัคซีนHepatitis A vaccine

วัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ (Hepatitis A vaccine) เป็นวัคซีนชนิดเชื้อตาย (inactivated vaccine) ที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ ซึ่งเป็นโรคที่ติดต่อทางอาหารและน้ำ และอาจทำให้เกิดการอักเสบของตับได้

โดยทั่วไปแล้ว วัคซีนไวรัสตับอักเสบเอมีความปลอดภัยสูง แต่ก็มีข้อห้ามและข้อควรระวังที่ควรทราบ เพื่อความปลอดภัยของผู้รับวัคซีน

ข้อห้าม (Contraindications) ในการฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ:

ข้อห้ามหมายถึงภาวะหรือเงื่อนไขที่ห้ามฉีดวัคซีนโดยเด็ดขาด เนื่องจากอาจทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้ หากมีข้อห้ามเหล่านี้ ไม่ควร ได้รับวัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ:

  1. ประวัติการแพ้อย่างรุนแรง (Anaphylaxis):

    • เคยมีอาการแพ้อย่างรุนแรงต่อวัคซีนไวรัสตับอักเสบเอในเข็มก่อนหน้า (เช่น หายใจลำบาก, หน้าบวม, ความดันโลหิตต่ำ) หรือแพ้ส่วนประกอบใดๆ ในวัคซีน (เช่น สารกันเสีย, หรือส่วนประกอบอื่นๆ ตามที่ระบุในฉลากยาของวัคซีนแต่ละยี่ห้อ)

    • ผู้ที่มีประวัติแพ้รุนแรงควรได้รับการประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิแพ้เพื่อพิจารณาทางเลือกอื่นที่เหมาะสม

ข้อควรระวัง (Precautions) ในการฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ:

ข้อควรระวังหมายถึงภาวะหรือเงื่อนไขที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบและปรึกษาแพทย์ก่อนการฉีดวัคซีน เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อผลข้างเคียง หรือทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลง:

  1. การเจ็บป่วยเฉียบพลันระดับปานกลางถึงรุนแรง หรือมีไข้สูง:

    • หากกำลังมีอาการป่วยเฉียบพลัน เช่น เป็นไข้สูง ควรเลื่อนการฉีดวัคซีนออกไปก่อนจนกว่าจะหายป่วย เพื่อป้องกันความสับสนในการวินิจฉัยอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากวัคซีน หรือหากร่างกายอ่อนแออาจตอบสนองต่อวัคซีนได้ไม่เต็มที่

    • อย่างไรก็ตาม หากเป็นเพียงไข้หวัดเล็กน้อย ไม่มีไข้ หรือมีอาการไม่รุนแรง สามารถฉีดวัคซีนได้

  2. หญิงตั้งครรภ์:

    • แม้ว่าจะยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อทารกในครรภ์จากการฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ (ซึ่งเป็นวัคซีนชนิดเชื้อตาย) แต่โดยทั่วไปแล้ว การฉีดวัคซีนใดๆ ในหญิงตั้งครรภ์ควรพิจารณาเมื่อมีความจำเป็นและประโยชน์ outweigh ความเสี่ยงเสมอ

    • ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเสี่ยงและประโยชน์เฉพาะบุคคล หากอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ (เช่น ต้องเดินทางไปยังพื้นที่ระบาด) แพทย์อาจพิจารณาให้ฉีดวัคซีน

  3. ผู้ที่มีเกล็ดเลือดต่ำ (Thrombocytopenia) หรือมีความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด (Coagulation disorders):

    • เนื่องจากวัคซีนชนิดนี้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ (intramuscular injection) ผู้ที่มีภาวะดังกล่าวอาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดเลือดออกหรือรอยช้ำบริเวณที่ฉีดได้ง่าย

    • ควรแจ้งแพทย์เพื่อที่แพทย์จะได้พิจารณาเทคนิคการฉีดที่เหมาะสม เช่น การใช้เข็มขนาดเล็ก หรือการกดบริเวณที่ฉีดให้นานขึ้น

  4. ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือได้รับยากดภูมิคุ้มกัน:

    • เช่น ผู้ป่วย HIV/AIDS, ผู้ที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกันในขนาดสูง (เช่น ยาสเตียรอยด์, ยาเคมีบำบัด) หรือผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะ

    • แม้ว่าวัคซีนไวรัสตับอักเสบเอจะเป็นวัคซีนชนิดเชื้อตายที่ปลอดภัยในกลุ่มนี้ แต่การตอบสนองทางภูมิคุ้มกันอาจไม่สมบูรณ์เท่ากับคนปกติ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินและวางแผนการฉีดวัคซีน

  5. ผู้ที่มีประวัติเคยติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอมาแล้ว:

    • ผู้ที่เคยติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอแล้ว มักจะมีภูมิคุ้มกันตลอดชีวิตและไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนอีก

    • หากไม่แน่ใจว่าเคยติดเชื้อหรือไม่ สามารถตรวจเลือดเพื่อหาภูมิคุ้มกัน (anti-HAV IgG) ก่อนตัดสินใจฉีดวัคซีนได้

สิ่งสำคัญที่ต้องแจ้งแพทย์ก่อนฉีดวัคซีน:

เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ควรแจ้งข้อมูลสุขภาพที่สำคัญแก่แพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ทุกครั้งก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีน:

การปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนการฉีดวัคซีนจะช่วยให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างถูกต้องและปลอดภัยที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล

 

โรคตับอักเสบเอ

เพิ่มเพื่อน