คำเตือนในการใช้ยากลุ่ม NSAIDs
ผลต่อหัวใจและหลอดเลือด
พบว่าจากการศึกษาเป็นเวลา 3 ปีการใช้ยากลุ่ม NSAIDs จะเพิ่มปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งอาจจะรุนแรงถึงกับเสียชีวิต โดยเฉพาะผู้ที่เคยมีประวัติเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดมาก่อน หรือผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดจะเพิ่มความเสี่ยง วิธีลดความเสี่ยงจากเกิดโรคแทรกซ้อนของโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ใช้ขนาดยาให้น้อยที่สุดและระยเวลาที่ใช้ให้สั้นที่สุด
- ผู้ที่ใช้ยานี้ควรจะรู้จักอาการเตือนของโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด อาการเตือนของสมองขาดเลือด อาการหัวใจวาย
ความดันโลหิตสูง
ยากลุ่ม NSAIDs จะมีผลเสียต่อโรคความดันโลหิตสูงดังนี้
- สำหรับคนปกติยากลุ่ม NSAIDs อาจจะทำให้เกิดความดันโลหิตสูง
- ทำให้ความดันโลหิตสูงกำเริบ
- เพิ่มอุบัติการณ์ของโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ทำให้ยาขับปัสสาวะออกฤทธิ์ไม่เต็มที่
ดังนั้นการใช้ยา NSAIDs จะต้องระวังในผู้ที่มีความดันโลหิตสูงหรือมีประวัติครอบครัวเป็นความดันโลหิตสูง และต้องหมั่นวัดความดันโลหิตในระยะแรกที่เริ่มใช้ยากลุ่ม NSAIDs
หัวใจวาย
- ยากลุ่ม NSAIDs จะทำให้หัวใจวายกำเริบ บวมมากขึ้น
ระบบทางเดินอาหาร
ยาในกลุ่ม NSAIDsทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนทางเดินระบบอาหารได้หลายตำแหน่ง และอาจจะรุนแรงทำให้เสียชีวิต โรคแทรกซ้อนที่เกิดได้แก่
ซึ่งสามารถเกิดได้กับกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก และลำไส้ใหญ่ โรคแทรกซ้อนนี้สามารถเกิดเวลาไหนก็ได้โดยที่ไม่มีอาการเตือน ประมาณร้อยละ20ของผู้ป่วยที่มีโรคแทรกซ้อนจะมีอาการจะพบโรคแทรกซ้อนประมาณร้อยละ 1 เมื่อรักษาด้วย NSAIDs 3-6 เดือน แต่หากรักษาด้วย NSAIDs 1 ปีจะพบโรคแทรกซ้อนร้อยละ2-4 โรคแทรกซ้อนจะพบมากในกลุ่มผู้ป่วยที่มีลักษณะ
- ผู้ที่เคยเป็นแผลในกระเพาะหรือมีเลือดออกทางเดินอาหาร พบว่ากลุ่มนี้จะมีความเสี่ยงเลือดออกเพิ่มขึ้น 10 ของคนปกติ
- ผู้ที่ใช้ยา Steroid และยาต้านการแข็งตัวของเลือด warfarin
- การใช้ยา NSAIDs เป็นเวลานาน
- สูบบุหรี่
- การดื่มสุรา
- ผู้สูงอายุ
- ผู้ที่สุขภาพไม่ดี
การป้องกันโรคแทรกซ้อนจากการใช้ยา NSAIDs
- ใช้ขนาดของยาให้ต่ำที่สุด
- ใช้เวลาในการรักษาให้สั้นที่สุด
- เฝ้าระวังโรคแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้น
ผลกระทบต่อตับ
- ผู้ป่วยร้อยละ 15 ที่ใช้ยากลุ่ม NSAIDs จะมีการเปลี่ยนแปลงผลการตรวจเลือดของตับ การเปลี่ยนแปลงของผลเลือดดังกล่าวอาจจะเกิดช่วงเวลาสั้นๆ หรืออาจจะไม่เปลี่ยนแปลง หรืออาจจะเปลี่ยนเป็นโรคตับ ผลเลือดที่เปลี่ยนแปลงได้แก่การเพิ่มขึ้นของ SGOT และ SGPT
- ผู้ที่มีอาการโรคตับ หรือผลเลือดเปลี่ยนแปลงในทางที่แย่ลง ควรจะหยุดยาและพบแพทย์
ผลต่อไต
การใช้ยา NSAIDs ในระยะเวลานานๆจะทำให้เกิด renal papillary necrosis ซึ่งทำให้เกิดการเป็นพิษต่อไต ภาวะพิษต่อไตจะเพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้ป่วยที่เป็น
- ไตวายอยู่ก่อน
- หัวใจวาย
- ตับวาย
- ผู้ที่ได้รับยาขับปัสสาวะและยา ACE inhibitors
- ผู้ที่ขาดน้ำ
- ผู้ป่วยสูงอายุ
ดังนั้นกลุ่มดังกล่าวจะต้องติดตามการทำงานของไตโดยใกล้ชิดหากต้องใช้ยา NSAIDs
การแพ้ยา
ยากลุ่ม NSAIDs ไม่ควรใช้ในผู้ป่วยที่มีประวัติ
- เป็นโรคหอบหืด
- ผู้ป่วยที่มีประวัติรับยา NSAIDs แล้วเกิดอาการหอบ
- ผู้ที่แพ้ยา NSAIDs แบบ exfoliative dermatitis, Stevens-Johnson syndrome (SJS), toxic epidermal necrolysis (TEN)
คนตั้งครรภ์
ยากลุ่ม NSAIDs ไม่ควรใช้ในผู้ที่ตั้งครรภ์เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงเด็กพิการ