ก้ห Atorvastatin and Liver Injury: ความเสี่ยงและการจัดการ
siamhealth

หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ

Atorvastatin and Liver Injury: ความเสี่ยงและการจัดการ

โรคตับจาก atorvastatin

ภาพตัวอย่างยา Atorvastatin และผลกระทบต่อตับ

ความเสี่ยงของการบาดเจ็บของตับจาก Atorvastatin

Atorvastatin เป็นยาในกลุ่มสแตตินที่ใช้ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดและลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยทำงานผ่านการยับยั้งเอนไซม์ HMG-CoA reductase ในตับ ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ใช้ในการผลิตคอเลสเตอรอล การทำงานนี้ทำให้ตับเป็นอวัยวะที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการใช้ยา ในบางกรณี Atorvastatin อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บของตับ (liver injury) หรือที่เรียกว่า hepatotoxicity ได้

จากการวิเคราะห์การศึกษาขนาดใหญ่พบว่า Atorvastatin มักทำให้ระดับเอนไซม์ตับ เช่น ALT และ aspartate aminotransferase (AST) สูงขึ้นเล็กน้อยในผู้ป่วย 1% ถึง 3% โดยมักไม่มีอาการและเป็นชั่วคราว อย่างไรก็ตาม ระดับ ALT ที่สูงเกิน 3 เท่าของค่าปกติ (upper limit of normal - ULN) พบในผู้ป่วยเพียง 0.7% ที่ได้รับ Atorvastatin เทียบกับ 0.3% ในกลุ่มที่ได้รับยาหลอก โดยพบมากขึ้นในกลุ่มที่ใช้ขนาดสูง เช่น 2.3% ในผู้ที่รับประทาน 80 มก./วัน ระดับเอนไซม์ที่สูงขึ้นนี้ส่วนใหญ่จะลดลงเองและไม่จำเป็นต้องปรับขนาดยา

การบาดเจ็บของตับที่เห็นได้ชัดทางคลินิกจาก Atorvastatin นั้นพบได้น้อยมาก (ประมาณ 1:3000 ถึง 1:5000 ราย) และภาวะตับวายเฉียบพลัน (acute liver failure) นั้นหายากมาก



รูปแบบของการบาดเจ็บของตับจาก Atorvastatin

การบาดเจ็บของตับจาก Atorvastatin มีรูปแบบที่หลากหลาย ดังนี้:

ยังไม่ชัดเจนว่ากรณีตับอักเสบจากภูมิคุ้มกันตนเองเรื้อรังนั้นเกิดจาก Atorvastatin โดยตรง หรือเป็นการกระตุ้นในผู้ป่วยที่มีความไวต่อยา หรืออาจเป็นเพียงความบังเอิญที่โรคตับอักเสบจากภูมิคุ้มกันตนเองเริ่มต้นในผู้ที่ใช้สแตติน


ปัจจัยเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของตับจาก Atorvastatin

ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงของการบาดเจ็บของตับจาก Atorvastatin ได้แก่:


อาการของการบาดเจ็บของตับจาก Atorvastatin

อาการของการบาดเจ็บของตับจาก Atorvastatin อาจรวมถึง:

หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบติดต่อแพทย์ทันทีเพื่อตรวจการทำงานของตับ



ระยะเวลาที่อาจเกิดอาการหลังใช้ Atorvastatin

ระยะแฝงของการบาดเจ็บของตับจาก Atorvastatin นั้นแตกต่างกันอย่างมาก โดยอาจเริ่มตั้งแต่ 1 เดือนไปจนถึงหลายปี อย่างไรก็ตาม กรณีส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นภายใน 6 เดือนหลังจากเริ่มใช้ Atorvastatin หรือหลังจากเพิ่มขนาดยา


การป้องกันและการจัดการการบาดเจ็บของตับจาก Atorvastatin

เพื่อลดความเสี่ยงและจัดการการบาดเจ็บของตับจาก Atorvastatin ผู้ป่วยควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้:

เมื่อพิจารณาจากการใช้ Atorvastatin ในวงกว้าง การบาดเจ็บของตับที่เห็นได้ชัดทางคลินิกและรุนแรงนั้นพบได้น้อยมาก และควรหลีกเลี่ยงการให้ยาซ้ำหากเคยเกิดการบาดเจ็บ


บทสรุป

Atorvastatin เป็นยาที่มีประสิทธิภาพในการลดคอเลสเตอรอล แต่ผู้ใช้ควรตระหนักถึงความเสี่ยงของการบาดเจ็บของตับ แม้ว่าจะพบได้น้อย การตรวจติดตามการทำงานของตับอย่างสม่ำเสมอและการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง เช่น การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป จะช่วยให้การใช้ยานี้ปลอดภัยยิ่งขึ้น หากมีอาการผิดปกติ เช่น ตัวเหลือง ปวดท้อง หรือคลื่นไส้ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที

หมายเหตุ: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลความรู้ทั่วไปเท่านั้น ไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา รวมถึงแจ้งแพทย์หากมีข้อสงสัยหรือมีอาการผิดปกติใดๆ

ฒิพฬ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Atorvastatin และการบาดเจ็บของตับ

Atorvastatin ส่งผลต่อตับอย่างไร?

Atorvastatin อาจทำให้ระดับเอนไซม์ตับ เช่น ALT สูงขึ้น โดยพบในผู้ป่วย 1-3% และในบางรายอาจทำให้เกิดตับอักเสบหรือตับอักเสบจากภูมิคุ้มกันตนเองได้

อาการของการบาดเจ็บของตับจาก Atorvastatin มีอะไรบ้าง?

อาการรวมถึง ตัวเหลือง ตาเหลือง (ดีซ่าน), ปัสสาวะสีเข้ม, อุจจาระสีซีด, ปวดท้อง, คลื่นไส้, อ่อนเพลีย และอาการคัน

ควรทำอย่างไรหากมีอาการตัวเหลืองขณะใช้ Atorvastatin?

ควรรีบหยุดยาและพบแพทย์ทันทีเพื่อตรวจการทำงานของตับ เช่น ระดับ ALT และ AST

Atorvastatin ทำให้เกิดตับวายเฉียบพลันได้หรือไม่?

การเกิดตับวายเฉียบพลันจาก Atorvastatin นั้นหายากมาก แต่มีรายงานในบางกรณี ซึ่งมักไม่ชัดเจนว่าเกี่ยวข้องโดยตรงกับยาหรือไม่


เอกสารอ้างอิง

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: บทความนี้ให้ข้อมูลเพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์ได้ โปรดปรึกษาแพทย์หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้ยา Atorvastatin

เพิ่มเพื่อน