
หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ
วันที่เผยแพร่: 24 มิถุนายน 2568
ผู้เขียน: นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภานุภัทร, อายุรแพทย์, แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว
ที่มา: SiamHealth.net
Moduretic เป็นยาที่รวมสองตัวยาสำคัญ: Amiloride Hydrochloride (5 มก.) และ Hydrochlorothiazide (50 มก.) เป็นยาในกลุ่ม Diuretics (ยาขับปัสสาวะ) ใช้รักษาความดันโลหิตสูงและอาการบวมน้ำจากภาวะหัวใจล้มเหลวหรือโรคตับ:
Amiloride: ยาขับปัสสาวะแบบถนอมโพแทสเซียม (Potassium-Sparing Diuretic) ป้องกันการสูญเสียโพแทสเซียมในปัสสาวะ
Hydrochlorothiazide (HCTZ): ยาขับปัสสาวะแบบ Thiazide ช่วยขับน้ำและเกลือโซเดียม ลดความดันโลหิตและอาการบวม มีจำหน่ายในรูปแบบยาเม็ดรับประทาน (5 มก./50 มก.) และเป็นยาสามัญ (Generic) ในประเทศไทย ใช้ตามใบสั่งแพทย์
Amiloride: ยับยั้งช่องโซเดียม (ENaC) ในท่อไตส่วนปลาย (Distal Tubule) ลดการดูดกลับโซเดียมและน้ำ ส่งผลให้ขับปัสสาวะเพิ่มขึ้นโดยไม่สูญเสียโพแทสเซียมมากเกินไป
Hydrochlorothiazide: ยับยั้งการดูดกลับโซเดียมและคลอไรด์ในท่อไตส่วนปลายและ Proximal Tubule ทำให้ขับน้ำและเกลือ ลดปริมาณน้ำในร่างกายและความดันโลหิต
การทำงานร่วมกัน: Amiloride ช่วยลดความเสี่ยงของภาวะโพแทสเซียมต่ำ (Hypokalemia) ที่อาจเกิดจาก HCTZ ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงโพแทสเซียมต่ำ เช่น ผู้ใช้ยา Digitalis
ความดันโลหิตสูง (Hypertension): ลดความดันโลหิตในผู้ใหญ่ ป้องกันภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคหลอดเลือดสมองหรือหัวใจวาย
อาการบวมน้ำ (Edema): รักษาอาการบวมจากหัวใจล้มเหลว (Congestive Heart Failure) หรือตับแข็งที่มีน้ำในช่องท้อง (Ascites)
ภาวะโพแทสเซียมต่ำ (Hypokalemia): ใช้ในผู้ที่ต้องการรักษาระดับโพแทสเซียม เช่น ผู้ป่วยที่ใช้ยา Digitalis หรือมีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
ในประเทศไทย: พบในผู้ป่วยความดันโลหิตสูงและหัวใจล้มเหลว มักใช้ร่วมกับยาอื่น เช่น ACE Inhibitors
ขนาดยา:
ผู้ใหญ่: เริ่มต้น 1 เม็ด (Amiloride 5 มก./HCTZ 50 มก.) วันละครั้ง อาจเพิ่มเป็น 2-4 เม็ด/วัน ตามแพทย์สั่ง สูงสุดไม่เกิน 4 เม็ด/วัน
เด็ก: ความปลอดภัยยังไม่ได้รับการยืนยัน ไม่แนะนำให้ใช้
วิธีใช้:
รับประทานพร้อมอาหารในตอนเช้าหรือบ่าย เพื่อลดการรบกวนการนอนจากปัสสาวะบ่อย
กลืนยาพร้อมน้ำ อย่าบดหรือเคี้ยว
ใช้ยาสม่ำเสมอตามแพทย์สั่ง อย่าหยุดยาเอง
หมายเหตุ: ผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีปัญหาไต/ตับ อาจต้องใช้ขนาดต่ำและติดตามผลใกล้ชิด
รับประทานยาตามเวลาเดียวกันทุกวัน
วัดความดันโลหิตและตรวจเลือด (โพแทสเซียม, ครีอะตินิน) เป็นระยะ
หลีกเลี่ยงการตากแดดนาน ใช้ครีมกันแดดและสวมหมวก เนื่องจาก HCTZ อาจเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งผิวหนังที่ไม่ใช่เมลาโนมา (Non-Melanoma Skin Cancer)
ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
แจ้งแพทย์หากตั้งครรภ์หรือวางแผนตั้งครรภ์
ในประเทศไทย: ปรึกษาเภสัชกรหากใช้สมุนไพร เช่น ขิงหรือโสม ซึ่งอาจรบกวนความดัน
กลุ่มเสี่ยง:
ผู้ป่วยโรคไต (Cr >1.5 mg/dL) หรือตับ: เสี่ยงต่อภาวะโพแทสเซียมสูง (Hyperkalemia) หรือขาดน้ำ
ผู้ป่วยเบาหวาน: HCTZ อาจเพิ่มน้ำตาลในเลือด
ผู้ป่วยโรคเกาต์: HCTZ อาจกระตุ้นอาการ
ผู้สูงอายุ: เสี่ยงหน้ามืดหรือขาดน้ำ
หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ เพราะอาจเพิ่มอาการหน้ามืด
ระวังการขับรถหากรู้สึกเวียนศีรษะหรืออ่อนเพลีย
ก่อนผ่าตัด แจ้งแพทย์ว่ากำลังใช้ยานี้
ในประเทศไทย: ระวังสมุนไพร เช่น ฮิบิสคัส (กระเจี๊ยบแดง) ซึ่งอาจเพิ่มผลข้างเคียงของ HCTZ
ผู้ที่แพ้ Amiloride, HCTZ หรือยาในกลุ่ม Sulfonamide
ผู้ที่มีภาวะไตวายเฉียบพลันหรือเรื้อรัง (Anuria, Renal Insufficiency)
ผู้ที่มีโพแทสเซียมในเลือดสูง (Hyperkalemia)
ผู้ที่มีภาวะช็อกจากหัวใจ (Cardiogenic Shock)
ผู้ที่ใช้ยา Potassium Supplements หรือยาอื่น เช่น Spironolactone, Triamterene
ผู้ป่วยเบาหวานที่ใช้ยา Aliskiren
หน้ามืด เวียนศีรษะ หรือเป็นลม
หายใจลำบากหรือหอบ
บวมที่หน้า, ปาก, หรือคอ
อาการขาดน้ำ เช่น ปากแห้ง, กระหายน้ำมาก, ปัสสาวะน้อย
ชีพจรเต้นช้า, อ่อนแรง, หรือกล้ามเนื้อเป็นตะคริว (อาจบ่งบอกถึง Hyperkalemia)
ปวดข้อหรือผื่นจากโรคเกาต์
หากมีอาการเหล่านี้: หยุดยาและติดต่อแพทย์ทันที หรือโทร 1669 ในประเทศไทย
อาการแพ้ยารุนแรง (Anaphylaxis):
ผื่นแดง ลมพิษ หรือบวมที่หน้า, ลิ้น, คอ
หายใจลำบากหรือหายใจมีเสียงวี๊ด
ความดันโลหิตต่ำรุนแรง
ใจสั่นหรือหมดสติ
การปฏิบัติ: หยุดยา เรียกรถพยาบาล (1669) หรือไปโรงพยาบาลทันที
ยาที่ต้องระวัง:
Potassium Supplements, Spironolactone, Triamterene: เสี่ยง Hyperkalemia
ACE Inhibitors (เช่น Lisinopril), ARBs: เสี่ยง Hyperkalemia และความดันต่ำ
NSAIDs (เช่น Ibuprofen): ลดประสิทธิภาพยาและอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อไต
Lithium, Digoxin: HCTZ อาจเพิ่มระดับยาในเลือด
ยาเบาหวาน (เช่น Insulin): HCTZ อาจเพิ่มน้ำตาลในเลือด
ฮิบิสคัส (กระเจี๊ยบแดง): เพิ่มผลข้างเคียงของ HCTZ
วิธีป้องกัน:
แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาและสมุนไพรทั้งหมด
ตรวจระดับโพแทสเซียมและการทำงานของไตเป็นระยะ
หน้ามืดหรือเวียนศีรษะ
อ่อนเพลียหรือปวดศีรษะ
คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย หรือท้องผูก
ผื่นผิวหนังหรือไวต่อแสงแดด
โรคเกาต์กำเริบ
ภาวะโพแทสเซียมสูง (Hyperkalemia): อ่อนแรง, ชีพจรช้า, กล้ามเนื้อเป็นตะคริว
ภาวะโซเดียมต่ำ (Hyponatremia): สับสน, ชัก
ภาวะขาดน้ำ: ปากแห้ง, ปัสสาวะน้อย
ความเสี่ยงมะเร็งผิวหนังที่ไม่ใช่เมลาโนมา (NMSC) จาก HCTZ
อาการแพ้ยารุนแรง
หากพบผลข้างเคียงรุนแรง: ติดต่อแพทย์ทันที
หน้ามืด: ลุกจากที่นั่งหรือนอนช้าๆ
ขาดน้ำ: ดื่มน้ำให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักในที่ร้อน
ไวต่อแสงแดด: ใช้ครีมกันแดดและสวมเสื้อผ้าป้องกัน
โพแทสเซียมสูง: หลีกเลี่ยงอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น กล้วย, ส้ม
ตรวจเลือดเป็นระยะเพื่อติดตามโพแทสเซียมและการทำงานของไต
เก็บที่อุณหภูมิ 15-30°C ในที่แห้ง หลีกเลี่ยงแสงแดดและความชื้น
เก็บในภาชนะเดิม ปิดสนิท พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
อย่าเก็บในห้องน้ำหรือตู้เย็น
ตรวจสอบวันหมดอายุก่อนใช้
ทิ้งยาที่หมดอายุที่จุดรับยาคืนในโรงพยาบาลหรือร้านยา
Moduretic รักษาอะไร?
รักษาความดันโลหิตสูง, อาการบวมน้ำจากหัวใจล้มเหลวหรือตับแข็ง, และป้องกันโพแทสเซียมต่ำ
สามารถหยุดยานี้ทันทีได้หรือไม่?
อย่าหยุดยาทันที ปรึกษาแพทย์เพื่อปรับขนาดยา
Moduretic ปลอดภัยสำหรับผู้ป่วยไตหรือไม่?
ห้ามใช้ในผู้ป่วยไตวาย และต้องระวังในผู้ป่วยที่มีปัญหาไตเล็กน้อย
ทำอย่างไรหากลืมใช้ยา?
ใช้ทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าใกล้เวลาครั้งถัดไป ข้ามไป อย่าใช้ยาเพิ่ม
ใช้ยานี้ในสตรีมีครรภ์ปลอดภัยหรือไม่?
ใช้เมื่อจำเป็นและต้องปรึกษาแพทย์ ไม่แนะนำสำหรับการให้นมบุตร
Moduretic เป็นยาที่รวม Amiloride และ Hydrochlorothiazide มีประสิทธิภาพในการรักษาความดันโลหิตสูงและอาการบวมน้ำ โดยช่วยขับน้ำและเกลือส่วนเกินพร้อมรักษาระดับโพแทสเซียม การใช้ยาต้องปฏิบัติตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ระวังผลข้างเคียง เช่น ภาวะโพแทสเซียมสูง, ขาดน้ำ หรือความเสี่ยงมะเร็งผิวหนัง ผู้ป่วยในประเทศไทยควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร และติดตามการรักษาอย่างสม่ำเสมอเพื่อใช้ยาอย่างปลอดภัยและเหมาะสม
แหล่งอ้างอิง:
Mayo Clinic: Amiloride and Hydrochlorothiazide
WebMD: Amiloride/Hydrochlorothiazide
MedlinePlus: Amiloride and Hydrochlorothiazide
RxList: Moduretic
NPS MedicineWise: Moduretic
111111111
Amiloride and Hydrochlorothiazide
เป็นยาขับปัสสาวะที่มีส่วนผสมของยาขับปัสสาวะสองชนิดรวมกันได้แก่ Amiloride และ Hydrochlorothiazide ทั้งนี้เพื่อลดการเกิดภาวะโปแทสเซี่ยมในเลือดต่ำ ทำให้ไตขับน้ำส่วนเกินออกมา ใช้ลดความดันโลหิต และภาวะบวมน้ำที่เกิดจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคตับ ชื่อทางการค้า Amilhydrozide, Amilide, Hyperetic, Miduret, Milorex, Moduretic, Poly-uretic, Renase, Sefaretic
ก่อนจะใช้ยาท่านจะต้องรู้ผลข้างเคียงที่อันตรายหากเกิดขึ้นจะต้องหยุดยาและไปโรงพยาบาลทันทีได้แก่อาการ แพ้ยาซึ่งจะมีอาการผื่นลมพิษ หายใจลำบาก บวมใบหน้า บวมริมฝีปาก ลิ้นและคอ 
ก่อนใช้ยานี้ควรแจ้งแพทย์และเภสัช
หากท่านมีโรคประจำตัวเหล่านี้จะต้องแจ้งแพทย์ทุกครั้งเพราะอาจจะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน
ข้อบ่งชี้ในการใช้ยา
ขนาดของยาและวิธีใช้
การประยาจะเป็นดุลพินิจของแพทย์ซึ่งขึ้นกับโรค และนำหนัก
โดยทั่วไปรับประทานวันละครั้ง หลังอาหารเช้า ควรรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ ยานี้มีขายในรูปยาเม็ดประกอบด้วยตัวยาอะมิลอไรด์ 5 มก. และไฮโดรคลอโรไธอะไซด์ 50 มก. ขนาดที่ใช้ทั้งความดันโลหิตสูงและภาวะบวมใช้วันละเม็ดตอนเช้า แพทย์อาจจะเพิ่มขนาดยาหากยังตอบสนองไม่ดี
ผลข้างเคียงของยา
ความปลอดภัยในคนท้อง
จัดในกลุ่ม B จากการทดลองในสัตว์ไม่มีปัญหาเรื่องพันธุกรรม
ข้อควรจะระวัง
ยา Moduretic นี้จะให้เกิดโปแทสเซี่ยมในเลือดสูงในกลุ่มที่เสี่ยงได้แก่
ดังนั้นผู้ป่วยกลุ่มนี้ควรจะติดตามเกลือแร่อย่างใกล้ชิด
ข้อห้ามในการใช้ยา Moduretic
Thiazide | Furosemide | Indapamide | Spironolactone | Moduretic