หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ
วันที่เผยแพร่: 24 มิถุนายน 2568
ผู้เขียน: นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภานุภัทร, อายุรแพทย์, แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว
ที่มา: SiamHealth.net
Metoprolol (ชื่อสามัญ: เมโทโพรลอล; ชื่อการค้าในไทย เช่น Betaloc, Lopresor) เป็นยาในกลุ่ม Beta-Blockers (ตัวบล็อกเบต้า) ใช้ลดอัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต และภาระงานของหัวใจ มีสองรูปแบบหลัก:
Metoprolol Tartrate: ออกฤทธิ์สั้น ใช้ในอาการเฉียบพลัน เช่น หลังหัวใจวาย
Metoprolol Succinate: ออกฤทธิ์นาน ใช้ควบคุมอาการระยะยาว เช่น ความดันโลหิตสูง ยานี้มีรูปแบบยาเม็ดรับประทาน (25, 50, 100 มก.) และยาฉีด มักใช้ในผู้ป่วยโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง
Metoprolol ออกฤทธิ์โดยยับยั้งตัวรับเบต้า-1 (Beta-1 Receptors) ในหัวใจและหลอดเลือด ส่งผลให้:
ลดอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate)
ลดแรงบีบตัวของหัวใจ (Contractility)
ลดความดันโลหิตโดยลดการหลั่งเรนิน
ลดความต้องการออกซิเจนของหัวใจ ป้องกันอาการเจ็บหน้าอก กลไกนี้ช่วยลดภาระงานของหัวใจและป้องกันภาวะแทรกซ้อนในโรคหัวใจ
ความความดันโลหิตสูงดันโลหิตสูง (Hypertension): ลดความดันโลหิตในผู้ใหญ่
อาการอาการปวดเค้นอกเจ็บหน้าอก (Angina Pectoris): บรรเทาอาการจากโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
ภาวะล้มเหลวหัวใจ(Heart Failure): ปรับปรุงการทำงานของหัวใจ
กล้ามเนื้อหัวใจตาย (Myocardial Infarction): ป้องกันการเกิดซ้ำและเพิ่มโอกาสรอดชีวิต
หัวใจเต้นผิดจังหวะ (Arrhythmias): ควบคุมจังหวะหัวใจ เช่น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ
ในประเทศไทย: พบในผู้ป่วยความดันโลหิตสูงและผู้รอดชีวิตจากหัวใจวาย ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพหลักในผู้สูงอายุ
ขนาดยาขึ้นอยู่กับอาการและรูปแบบยา:
Metoprolol Tartrate (ออกฤทธิ์สั้น):
ความดันโลหิตสูง: 25-100 มก./วัน แบ่ง 1-2 ครั้ง สูงสุด 400 มก./วัน
เจ็บหน้าอก: 100-400 มก./วัน แบ่ง 2 ครั้ง
หลังหัวใจวาย: 25-100 มก. วันละ 2 ครั้ง
Metoprolol Succinate (ออกฤทธิ์นาน):
ความดันโลหิตสูง: 25-100 มก. วันละครั้ง สูงสุด 400 มก./วัน
หัวใจล้มเหลว: เริ่ม 12.5-25 มก. วันละครั้ง สูงสุด 200 มก./วัน
ยาฉีด: ใช้ในโรงพยาบาลสำหรับอาการเฉียบพลัน
วิธีใช้:
รับประทานพร้อมหรือไม่มีอาหาร กลืนยาพร้อมน้ำ
รับประทานสม่ำเสมอตามเวลา อย่าหยุดยาทันที
ปรับขนาดทุก 1-2 สัปดาห์ตามแพทย์สั่ง
หมายเหตุ: ผู้ป่วยตับหรือไตอาจต้องใช้ขนาดต่ำ
ในประเทศไทย: มักใช้ Metoprolol Tartrate 50-100 มก. สำหรับความดันโลหิตสูง และติดตามผลทุก 4-6 สัปดาห์
ใช้ยาตามแพทย์สั่ง อย่าหยุดยาทันที เพราะอาจทำให้อาการเจ็บหน้าอกหรือหัวใจวายกำเริบ
วัดความดันโลหิตและชีพจรสม่ำเสมอ
ลุกจากที่นั่งหรือนอนช้าๆ เพื่อป้องกันหน้ามืด
พกยาติดตัวเมื่อเดินทาง และตรวจสอบว่ามียาเพียงพอ
ปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์ เช่น ลดอาหารเค็มและไขมัน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
แจ้งแพทย์หากตั้งครรภ์หรือวางแผนตั้งครรภ์
กลุ่มเสี่ยง:
ผู้ป่วยโรคหืดหรือ COPD: เสี่ยงหายใจลำบากหรือหอบหืดกำเริบ
ผู้ป่วยเบาหวาน: อาจปิดบังอาการน้ำตาลในเลือดต่ำ
ผู้ป่วยโรคตับหรือไต: ต้องใช้ขนาดต่ำ
ผู้สูงอายุ: เสี่ยงความดันต่ำหรือหัวใจเต้นช้า
หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ เพราะอาจเพิ่มอาการเวียนศีรษะ
ระวังการขับรถหากรู้สึกหน้ามืดหรืออ่อนเพลีย
ก่อนผ่าตัด แจ้งแพทย์ว่ากำลังใช้ยานี้
ในประเทศไทย: แจ้งแพทย์หากใช้สมุนไพร เช่น โสมหรือขิง ซึ่งอาจรบกวนความดัน
ผู้ที่แพ้ Metoprolol หรือ Beta-Blockers อื่น
ผู้ที่มีหัวใจเต้นช้ารุนแรง (Severe Bradycardia, <45 ครั้ง/นาที)
ผู้ที่มีภาวะช็อกจากหัวใจ (Cardiogenic Shock)
ผู้ที่มีภาวะหัวใจล้มเหลวที่ควบคุมไม่ได้
ผู้ป่วยโรคหืดรุนแรงหรือ COPD ขั้นรุนแรง
ผู้ที่มี Sick Sinus Syndrome หรือ AV Block ระดับ 2-3 โดยไม่มีเครื่องกระตุ้นหัวใจ
หัวใจเต้นช้าเกินไป (<50 ครั้ง/นาที) หรือผิดจังหวะ
หน้ามืด เวียนศีรษะ หรือเป็นลม
หายใจลำบาก หายใจมีเสียงวี๊ด หรือหอบ
บวมที่ข้อเท้า มือ หรือเท้า น้ำหนักขึ้น
คลื่นไส้ อาเจียน ปัสสาวะสีเข้ม หรือดีซ่าน
หากมีอาการเหล่านี้: หยุดยาและติดต่อแพทย์ทันที หรือโทร 1669 ในประเทศไทย
อาการแพ้ยารุนแรง (Anaphylaxis) เป็นภาวะฉุกเฉิน:
ผื่นแดง ลมพิษ หรือบวมที่หน้า, ลิ้น, คอ
หายใจลำบากหรือหายใจมีเสียงวี๊ด
ความดันโลหิตต่ำรุนแรง
ใจสั่นหรือหมดสติ
การปฏิบัติ: หยุดยา เรียกรถพยาบาล (1669) หรือไปโรงพยาบาลทันที
ยาที่ต้องระวัง:
ยาลดความดันอื่น (เช่น Verapamil, Diltiazem): เสี่ยงหัวใจเต้นช้าและความดันต่ำ
NSAIDs (เช่น Ibuprofen): ลดประสิทธิภาพยา
ยาต้านซึมเศร้า (เช่น SSRIs): เสี่ยงหัวใจเต้นช้า
ยารักษาเบาหวาน (เช่น Insulin): ปิดบังอาการน้ำตาลต่ำ
Cimetidine: เพิ่มระดับ Metoprolol ในเลือด
วิธีป้องพันกัน:
แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาและสมุนไพรทั้งหมด
ในประเทศไทย: ระวังสมุนไพร เช่น ขิงหรือโสม ซึ่งอาจส่งผลต่อความดัน
อ่อนเพลียหรือเหนื่อยล้า
เวียนศีรษะหรือหน้ามืด
มือเท้าเย็น
คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย หรือท้องผูก
นอนไม่หลับ ฝันร้าย หรือสับสน
หัวใจเต้นช้ารุนแรง (Bradycardia)
หายใจลำบากหรือหอบหืดกำเริบ
ความดันโลหิตต่ำรุนแรง
อาการแพ้ยา (เช่น ลมพิษ, หายใจลำบาก)
ซึมเศร้า ความจำเสื่อม หรือ ดีซ่าน
หากพบผลข้างเคียงรุนแรง: ติดต่อแพทย์ทันที
เวียนศีรษะ: ลุกจากที่นั่งหรือนอนช้าๆ
อ่อนเพลีย: พักผ่อนให้เพียงพอและดื่มน้ำ
มือเท้าเย็น: สวมถุงเท้าหรือถุงมือในที่เย็น
นอนไม่หลับหรือฝันร้าย: แจ้งแพทย์เพื่อปรับยา
หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และคาเฟอีน ซึ่งอาจเพิ่มผลข้างเคียง
ตรวจชีพจรและความดันโลหิตเป็นระยะ
เก็บที่อุณหภูมิห้อง (15-30°C) ในที่แห้ง หลีกเลี่ยงแสงแดดและความชื้น
เก็บในภาชนะเดิม ปิดสนิท พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
อย่าเก็บในห้องน้ำหรือตู้เย็น
ตรวจสอบวันหมดอายุก่อนใช้
ทิ้งยาที่หมดอายุที่จุดรับยาคืนในโรงพยาบาลหรือร้านยา
Metoprolol รักษาอะไร?
รักษาความดันโลหิตสูง, เจ็บหน้าอก, หัวใจล้มเหลว, หัวใจเต้นผิดจังหวะ, และป้องกันหลังหัวใจวาย
สามารถหยุดยานี้ทันทีได้หรือไม่?
ห้ามหยุดทันที ต้องค่อยๆ ลดขนาดภายใน 2 สัปดาห์ตามแพทย์สั่ง
Metoprolol เหมาะกับผู้ป่วยหืดหรือไม่?
ระวังในผู้ป่วยหืด อาจทำให้หายใจลำบาก ต้องปรึกษาแพทย์
ทำอย่างไรหากลืมใช้ยา?
ใช้ทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าใกล้เวลาครั้งถัดไป ข้ามไป อย่าใช้ยาเพิ่ม
ใช้ยานี้ในสตรีมีครรภ์ปลอดภัยหรือไม่?
จัดอยู่ในประเภท C ใช้เมื่อจำเป็นและต้องปรึกษาแพทย์
Metoprolol เป็นยา Beta-Blocker ที่มีประสิทธิภาพในการรักษาความดันโลหิตสูง อาการเจ็บหน้าอก หัวใจล้มเหลว และป้องกันภาวะแทรกซ้อนในโรคหัวใจ การใช้ยาต้องปฏิบัติตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ระวังผลข้างเคียง เช่น หัวใจเต้นช้า อ่อนเพลีย หรือหายใจลำบาก และหลีกเลี่ยงในผู้ป่วยหืดรุนแรง ผู้ป่วยในประเทศไทยควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร และติดตามการรักษาอย่างสม่ำเสมอเพื่อใช้ยาอย่างปลอดภัยและเหมาะสม
atenolol | bisoprolol | metoprolol | propanolol |