การตรวจและวินิจฉัยกลุ่มโรคปวดกล้ามเนื้อ Myofascial pain syndrome
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการทุกอย่างจะอยู่ในเกณฑ์ปกติ ในทางปฏิบัติไม่จำเป็นต้องส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการถ้าสงสัยว่าจะเป็น primary MFP เพราะสามารถวินิจฉัยได้จากประวัติและการตรวจร่างกาย ยกเว้นถ้าตรวจพบว่าผู้ป่วยมี systemic symptom หรือตรวจพบอาการแสดงในระบบอื่นที่ต้องวินิจฉัยแยกโรคจึงจะพิจารณาส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติม
การตรวจร่างกาย
- ตรวจไม่พบลักษณะอักเสบ เช่น แดงหรือร้อนในบริเวณที่ปวดไม่ว่าจะเป็นที่ข้อต่อหรือผิวหนัง
- พบจุดกดเจ็บมีขนาดประมาณ 1 เซ็นติเมตร อยู่ในชั้นกล้ามเนื้อ และคลำได้เป็นก้อนแข็งและเจ็บ หากกดบริเวณดังกล่าวจะทำให้ปวดร้าวแผ่ไปยังบริเวณใกล้เคียง
- ตำแหน่งที่กดเจ็บมักจะอยู่บริเวณคอ หลังตอนบน และข้อไหล่ รองลงมาได้แก่บริเวณท้องแข็ง หลังส่วนล่าง และแก้มก้น
- ผู้ป่วยจะมาด้วยอาการปวดบริเวณที่กดเจ็บ หรือปวดกล้ามเนื้อบริเวณกว้างก็ได้
การรักษา
ขั้นตอนในการรักษา MFP ประกอบด้วย
- ต้องแน่ใจในว่าผู้ป่วยเป็น MFP มีปัจจัยอะไรเป็นตัวชักนำ มีโรคประจำตัวอื่นๆร่วมด้วยหรือไม่
- ทำการประเมินว่าผู้ป่วยมี trigger points ทั้งหมดกี่ตำแหน่ง
- การรักษา MFP
- รักษาโดยตรงที่ trigger points
- บริหารกล้ามเนื้อที่อยู่ใกล้เคียง
- กำจัดปัจจัยชักนำ หลีกเลี่ยงปัจจัยเสียง
- ให้การรักษาโรคประจำตัวอื่น ๆ ที่พบร่วมด้วย เช่น โรคลูปุส โรคข้ออัเสบรูมาตอยด์ เป็นต้น
- การรักษาเฉพาะที่ ได้แก่ การประคบร้อนหรือเย็น การนวดคลึงกล้ามเนื้อบริเวณที่กดเจ็บ การใช้ ultrasound การฝังเข็ม
- การใช้ยาแก้ปวด NSAID ร่วมกับยาคลายกล้ามเนื้อ
- การใช้ยาฉีดเฉพาะที่ โดยใช้ยาชา หรือยา steroid
- การบริหารหรือการยืดกล้ามเนื้อ และการฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
- หลีกเลี่ยงปัจจัยชักนำ เช่นอริยบถที่ไม่ถูกต้อง
การรักษา trigger points
วัตถุประสงค์: เพื่อบรรเทาอาการปวดโดยทำให้กล้ามเนื้อบริเวณ trigger point คลายตัว ซึ่งทำได้หลายวิธี คือ
- นวดคลึงกล้ามเนื้อเฉพาะที่
- ให้ความร้อนลึกโดยใช้ ultrasound
- ประคบอุ่นหรือประคบเย็น
- พ่นยาให้เกิดอาการชาเฉพาะที่
- ฉีดยาชาเข้าที่ตำแหน่งของ trigger point โดยตรง
- ฝังเข็มหรือกระตุ้นเส้นประสาทผ่านทางผิวหนังด้วยไฟฟ้า (transcutaneous electrical nerve stimulation)
- กินยาบรรเทาอาการปวดหรือยาคลายกล้ามเนื้อระยะสั้น
การรักษาที่ง่ายและสะดวกในทางปฏิบัติ คือ ใช้วิธีกดนวดเพื่อคลายกล้ามเนื้อบริเวณ trigger points ถ้าปวดมากจนขยับไม่ได้อาจฉีดยาชาเข้าที่ตำแหน่งของ trigger point เพื่อบรรเทาอาการปวด
การบริหารกล้ามเนื้อ
วัตถุประสงค์: เพื่อลดอาการปวดและป้องกันไม่ให้โรคเกิดซ้ำ แบ่งออกเป็น
1. การบริหารเพื่อยืดกล้ามเนื้อ (stretching exercise) ควรให้ผู้ป่วยเริ่มทำตั้งแต่ระยะแรกเพื่อตัด vicious cycleของอาการปวด การยืดกล้ามเนื้อโดยเฉพาะตำแหน่งที่มีอาการปวดจะช่วยบรรเทาอาการปวดได้มาก
2. การบริหารเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (strengthening exercise) ต้องทำควบคู่ไปกับการบริหารเพื่อยืดกล้ามเนื้อเสมอ การเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อจะช่วยป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อบาดเจ็บง่ายขณะใช้งาน
3. การออกกำลังกายชนิดแอโรบิก เป็นการรักษาในระยะยาว เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของร่างกายและระบบไหลเวียนเลือด การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดอุบัติการณ์ของการเกิด MFP ลงได้
กำจัดปัจจัยชักนำและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง
วัตถุประสงค์: เพื่อป้องกันไม่ให้โรคเกิดซ้ำโดยการปรับเปลี่ยนการใช้อิริยาบทให้ถูกสุขลักษณะ ให้ผู้ป่วยฝึกฝนกระทั่งเกิดความเคยชินกับการใช้ท่าทางที่ถูกต้อง ดังต่อไปนี้
- ทำงานในลักษณะที่กล้ามเนื้ออยู่ในสมดุล หลีกเลี่ยงการนั่งตัวเอียง หรือ นอนอ่านหนังสือ
- ศีรษะควรตั้งตรง หลีกเลี่ยงการก้มคอนานๆ
- อย่าปล่อยให้ไหล่งุ้มหรือเดินหลังโกง
- งดการเคี้ยวหมากฝรั่งโดยเฉพาะรายที่ตรวจพบ trigger point อยู่ที่กล้ามเนื้อบนใบหน้า
- ถ้าจำเป็นต้องทำงานติดต่อกันนานๆ ควรมีช่วงหยุดพักเพื่อยืดกล้ามเนื้อเป็นระยะๆ ป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อหดเกร็ง
- สำหรับผู้ที่มีอาการปวดต้นคอหลังตื่นนอนแนะนำให้นอนตะแคงหรือนอนหงายโดยใช้หมอนหนุนซอกคอ
- ถ้าตรวจพบความผิดปกติทางโครงสร้างของร่างกายควรจัดการแก้ไขให้เหมาะสม เช่นเสริมรองเท้ากรณีขายาวไม่เท่ากัน
การป้องกัน
ยังไม่มีวิธีที่ป้องกันได้ 100 % แต่ก็จะลดการเกิดอาการปวด การป้องกันทำได้ดังนี้
อ่านเรื่องปวดกล้ามเนื้อ